2 สาวพีอาร์เสพยาเกินขนาด ช็อกดับ 1 สาหัส 1

กรุงเทพฯ 11 ม.ค. – สองสาวพีอาร์เสพยาเกินขนาด ช็อกดับคาห้องพักภายในอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ย่านวัดทุ่งดอน เขตสาทร จำนวน 1 ราย อาการสาหัสอีก 1 ราย


เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 23.00 น. ร.ต.อ.ประกอบ สุวรรณสุโข รอง สว.(สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร ได้รับรายงานว่ามีคนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ 1 ราย และหมดสติภายในบ้านพัก อีก 1 ราย จุดเกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ซอยจันทน์ 31 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร บนชั้น 2 พบหญิง 1 ราย นอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟา สวมใส่เสื้อกีฬาสีขาว กางเกงขาสั้นสีแดง ทราบชื่อ น.ส.สุทธิณี เมตตาจิตต์ อายุ 24 ปี และบนพื้นข้างๆ โซฟา พบหญิง 1 ราย สวมใส่เสื้อกีฬาสีแดง กางเกงกีฬาสีแดง นอนหมดสติ หายใจรวยริน ชีพจรเต้นอ่อน

เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเล่าว่า ที่เกิดเหตุพบมีคนหมดสติเป็นหญิง 2 ราย รายหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนโซฟา ไม่มีชีพจรแล้ว ส่วนอีกรายนอนราบกับพื้น ห่างกันประมาณ 2 ก้าว ยังมีชีพจร แต่เต้นอ่อนมาก จึงปั๊มหัวใจและเร่งนำส่งโรงพยาบาลเลิศสิน


ญาติผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นรุ่นน้อง บอกเล่าว่า ผู้ตายเป็นรุ่นพี่ตน มากับเพื่อนอีกประมาณ 3 คน คนชื่อโบ้พามาบ้านนี้ แล้วนั่งเล่นกันอยู่ จนผู้ตายมีอาการอาเจียน น้ำลายฟูมปาก แต่พยายามเช็ดแล้วเอาน้ำอะไรไม่รู้กรอกปากแล้วให้นอนต่อ จนมีเลือดออกปาก ปากเขียวม่วง แต่ไม่ได้พาไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็ปลุกคนชื่อพลอยให้มาดูเพื่อน แต่ก็ไม่ได้แจ้งใคร ให้นอนต่อ จนกระทั่งคนชื่อน้ำมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ถึงได้รู้ว่าพี่มายตายแล้ว สอบถามจากคนชื่อน้ำบอกว่ามานั่งกินเบียร์ตั้งแต่เช้าแล้ว แล้วก็เสพยากัน 3 อย่าง มีเป็นแป้ง ยาอี ยาเค เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิต ต้องส่งมอบให้กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.จุฬาฯ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง

ส่วนอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตภายในซอยอยู่ดี 11 เหตุเกิดภายในบ้านไม้ 2 ชั้น เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ภายในห้องนอนชั้นล่างพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ลักษณะนอนบนที่นอนครึ่งตัว ช่วงขาห้อยอยู่ข้างเตียง เหมือนนั่งบนเตียงห้อยขาแล้วเอนหลังนอนไปบนที่นอน ทราบชื่อต่อมาคือ นายธงชัย ฮกซุ่นเฮง อายุ 34 ปี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานส่งหมึกพิมพ์ที่บริษัทแห่งหนึ่ง

สอบถามจากนายพิเชษฐ์ ฮกซุ่นเฮง อายุ 30 ปี น้องชายของผู้ตาย บอกว่า ตนเป็นน้องชายของผู้ตาย ตนมีครอบครัวแล้วจึงแยกออกไปอยู่ข้างนอก แล้วแม่โทรมาบอกตอนประมาณเที่ยงคืนครึ่งว่าพี่ชายตายแล้วนะ จึงรีบกลับมาดู ปกติพี่ชายเป็นคนดีนะ ไม่ใช่คนเกเร พี่ชายมีครอบครัวแล้ว มีลูกสาวอายุประมาณ 3 ขวบ แต่แยกกันอยู่ ถามจากคนที่บ้านว่าเกิดอะไรขึ้น ที่บ้านบอกแต่เพียงว่าไปกินเหล้ากับเพื่อนข้างนอก กลับเข้ามาก็เข้าห้องนอน มาเจอก็เสียชีวิตแล้ว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เก็บบันทึกภาพและรวบรวมพยานแวดล้อมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทางแพทย์นิติเวชยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้ ต้องมอบให้กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.จุฬาฯ เพื่อสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง

ก่อนหน้าหน้านี้ก็มีสาวโคโยตี้ชวนแฟนหนุ่มอัพเคตามีนเกินขนาด บนห้องเช่าถนนเจริญราษฎร์ ฝ่ายหญิงตาย ฝ่ายชายร่อแร่ โดยทั้งคู่ที่จมูกและปากยังมีคราบผงสีขาวติดอยู่ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร เกิดอยู่ในบ้านเช่า ถนนเจริญราษฎร์ 7 แยก 4 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ โดยผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพจมูกและปากมีคราบผงสีขาวติดอยู่เช่นกัน ในห้องยังมีซองพลาสติกใสขนาดเล็กบรรจุผงคล้ายเคตามีน และหลอดดูดนมแบบข้องอ ตกอยู่อย่างละ 1 ชิ้น จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากเหตุกลุ่มวัยรุ่นเสียชีวิตปริศนาหลายคนในคืนเดียว ล่าสุดเมื่อเวลา 02.50 น.ที่ผ่านมา มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมตำรวจ สน.สุทธิสาร ได้รับแจ้งพบมีผู้เสียชีวิต คือนางสาวละลิตา เทินสะเกษ อายุ 19 ปี เสียชีวิตในบ้านพักซอยรัชดา 18 ลักษณะเสียชีวิตขณะกำลังนอนหลับบนเตียงนอน ไม่มีร่องรอยการต่อสู้

จากการสอบถามแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต ทราบว่าแฟนสาวนั่งแท็กซี่มาหาที่บ้าน เมื่อเวลา 08.00 น. หลังกลับจากการทำงานเด็กเสิร์ฟในร้านสุรา แห่งหนึ่งย่านพระราม 3 โดยแฟนสาวมีลักษณะคล้ายเมาสุราอย่างหนัก แต่ไม่ได้กลิ่นสุรามากนัก ซึ่งตนเองได้พูดคุยกับแฟนสาวตอน 15.00 น. ไม่กี่คำก่อนจะนอนต่อ และมีเพื่อนโทรมาหาตอน 02.00 น. จึงทราบว่าแฟนสาวเสียชีวิตแล้วหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะนำศพไปไว้โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”