ทำเนียบรัฐบาล 7 ม.ค.-โฆษกรัฐบาลแจงยังไม่ผิดถ้าไม่โหลดแอป “หมอชนะ” แต่ถ้ามีเจตนาปกปิด มีความผิด
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนจะเดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัดว่า ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ สอบถามเหตุผลความจำเป็นการเดินทาง และพื้นที่ควบคุมสูงสุด เข้มงวด5 จังหวัด สมุทรสาคร ชลบุรี จันทรบุรี ระยองและตราดที่ต้องขอใบรับรอง ว่า สามารถขอใบอนุญาตเดินทางได้ในระดับตำบลจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไม่จำเป็นต้องไปที่อำเภอหรือจังหวัด ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกและง่ายขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบถามความจำเป็นการเดินทาง ก่อนออกใบรับรองให้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ว่า ขอความร่วมมือประชาชนโหลดแอปพลิเคชัร “หมอชนะ” เพื่อช่วยในการตรวจการเคลื่อนที่ของประชาชน หากไม่สะดวกสามารถบันทึกหรือแจ้งแผนการเดินทางที่ด่านได้ แต่หากพบว่าปิดบังปกปิดข้อมูลโดยเจตนา ทำให้แพร่เชื้อโควิด-19 จะมีความผิด
“หากไม่โหลดและปกปิดจะถือว่ามีความผิด แต่ ณ วันนี้ยังไม่ถือว่ามีความผิด แต่อาจต้องมีความยุ่งยากในการใช้เวลาสอบถามเพิ่มเติมมากขึ้น ทั้งนี้ หากมีสมาร์ทโฟน ก็ขอให้โหลดเพื่อช่วยลดการระบาด ลดเวลาการทำไทม์ไลน์ของเจ้าหน้าที่ อยากให้ช่วยกัน เพื่อให้คุมการแพร่เชื้อได้โดยเร็ว” นายอนุชา กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป้าหมายการจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมร้อยละ 50 หรือประมาณ 33 ล้านคนภายในปี2564 โดยต้องได้รับคนละ 2 โดสเพื่อประสิทธิภาพการป้องกัน ซึ่งจากการเจรจากับจีนวัคชีนจะเข้ามาเดือนกุมภาพันธ์ประมาณ 2 แสนโดส โดยจะให้กับบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุขด่านหน้า ส่วนที่เหลือ เป็นผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัว
“เดือนมีนาคม จะมีวัคซีนเพิ่มมาอีก 8 แสนโดส จะฉีดให้กับ 2 แสนคนแรกที่ได้รับวัคซีนเมื่อเดือนก.พ.ก่อน ส่วนอีก 6 แสนโดสจะฉีดให้กลุ่มจังหวัดที่ควบคุมสูงสุดและชายแดน และในเดือนเมษายนจะเข้ามาอีก 1 ล้านโดส อย่างไรก็ตาม วัคซีนที่เข้ามาต้องได้รับการรับรองจากอย.ของไทยก่อน” นายอนุชา กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนที่ทำสัญญาล่วงหน้า 26 ล้านโดสผลิตในไทย 5 รอบ ก่อนยื่นขออย. โดยจะได้รับเดือนพฤษภาคม จากเดิมที่คาดว่าจะได้เดือนมิถุนายน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้กระทรวงสาธารณสุขเจรจานำเข้าวัคซีนเพิ่มเติมอีก35 ล้านโดส ซึ่งทั้งหมดเพียงพอและเป็นไปตามเป้าและแผนที่รัฐบาลวางไว้ร้อยละ 50 ของประชากร
“ยืนยันว่ารัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอ โดยจะใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิหรือจำเป็น 1.39 แสนล้านบาท และยังมีเงินที่เหลือจากพ.ร.ก. เงินกู้อีก 4.7 แสนล้านบาท และยังมีงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี2564 อีก 2.9 แสนล้านบาท นอกจากนี้สำนักงบประมาณยังได้เตรียมงบสำหรับช่วยเหลือภัยพิบัติไว้หมดแล้วด้วย” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย