สำนักงบประมาณยืนยัน รัฐมีเงินเพียงพอ ดูแลปัญหาโควิด

สำนักงบประมาณ 3 ม.ค.- สำนักงบประมาณยืนยันรัฐมีเงินเพียงพอ ดูแลปัญหาโควิด-19 เปิดทางผู้ถือบัตรทอง พื้นที่เสี่ยงสีแดง-เหลือง เบิกค่าตรวจรักษาโควิด พร้อมเดินหน้าจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิดต้นปี 64

นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า รัฐบาลจัดเตรียมงบประมาณ รองรับปัญหาไวรัสโควิด เอาไว้อย่างเพียงพอ จึงอยากให้ประชาชนมีความมั่นใจ ในการรับมือการแพร่ระบาดในครั้งนี้ เนื่องจากได้จัดเตรียมงบประมาณปี 64 วงเงิน 40,000 ล้านบาท และยังได้กันสำรองสำหรับงบประมาณฉุกเฉิน รองรับภัยพิบัติประเภทต่างๆในยามจำเป็นอีก 99,000 ล้านบาท รวมแล้วหากมีปัญหาไวรัสรุนแรง ยังมีเงินใช้แก้ปัญหา 1.3-1.4 แสนล้านบาท


นอกจากนี้ยังมี พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งได้จัดแบ่งในการจัดซื้อคุรุภัณฑ์ วัสดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อใช้ตรวจสอบรักษาไวรัสโควิด วงเงิน 45,000 ล้านบาท การใช้เยียวยา ดูแลปัญหา และบุคคลากรทางการแพทย์ วงเงิน 555,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออยู่ 4 แสนล้านบาท แบ่งสำหรับการฟื้นฟู ดูแลดด้านผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ได้ทะยอยใช้วงเงินดังกล่าวไปบ้างแล้ว จึงไม่อยากให้ประชาชนมีความเป็นห่วงเรื่องเงินในการแก้ปัญหาไวรัสโควิด

นอกจากนี้หลายหน่วยงาน เตรียมประกาศมาตรการออกมาช่วยดูแลเพิ่มเติม เช่น กระทรวงแรงงาน ดูแลผ่านกองทุนประกันสังคม สำหรับการดูแลรักษาพยาบาล การดูแลผู้ป่วยผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง เพื่อเปิดทางให้ประชาชนในโซนพื้นที่เสี่ยง ตามที่ประกาศสามารถเบิกค่ารักษาไวรัสโควิด รัฐบาลยังได้เตรียมพร้อมการจัดซื้อวัคซีน ป้องกันไว้รัสโควิด ในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.64 หลังจากรัฐบาลได้มัดจำผ่านช่วยเหลือด้านการวิจัยไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าการจัดซื้อวัคซีนจะได้นำมาใช้ช่วงต้นปี 64 นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมา ครม. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด กับบริษัท AstraZeneca (Thailand) จำกัด และบริษัท AstraZeneca UK จำกัด วงเงิน 6,00 ล้านบาท มอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติจัดทำสัญญาการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า วงเงิน 2,379, 000 ล้านบาท และให้กรมควบคุมโรค จัดทำสัญญา จัดซื้อและบริหารจัดการวัคซีน วงเงิน 3,670, 000 ล้านบาท ทำสัญญาทั้ง 2 ฉบับ มีเงื่อนไขว่า มีโอกาส ได้รับวัคซีน หรือไม่ได้รับวัคซีน ขึ้นอยู่กับผลการวิจัยพัฒนาที่จะประสบความสำเร็จ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น