ไทยติดโควิด-19 เพิ่ม 216 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

ศบค.เผยไทยติดโควิด-19 เพิ่ม 216 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

กทม. 2 ม.ค. – ศบค.แถลงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 216 ราย เสียชีวิต 1 ราย ชี้แนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น เตรียมประกาศ พื้นที่ควบคุมสีแดง 28 จังหวัด 4 ม.ค.นี้ เพื่อหยุดการแพร่ระบาด ยังไม่ประกาศ ล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว


ศบค.รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในไทย วันที่ 2 มกราคม 2564 🕚 เวลา 11.30 น.
😖 ผู้ป่วยรายใหม่ 216 ราย
-ติดเชื้อในประเทศ 182 ราย
-แรงงานต่างด้าว 32 ราย
-ASQ 2 ราย
😷 ผู้ป่วยยืนยันสะสม 7,163 ราย
🙂 หายป่วยเพิ่ม 26 ราย สะสม 4,299 ราย
😷 ยังรักษาใน รพ. 3,016 ราย
😭 เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นนักพนันชลบุรี รวมเสียชีวิตสะสม 64 ราย

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19 ) แถลงข้อมูลประจำวันที่ 2 ม.ค. 64 วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 216 คน ยอดผู้ป่วยสะสม 7,379 คน มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้เพิ่ม 26 คน ยังคงรักษาอยู่ 3,026 คน รวมยอดผู้รักษาหายสะสม 4,273 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 64 คน


สำหรับผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไทย อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่ จ.ชลบุรี มีโรคประจำตัวเบาหวาน มีประวัติเสี่ยงเป็นผู้เล่นการพนัน โดยผลตรวจเป็นโควิด-19 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 63 ขณะนั้นยังไม่มีอาการ และเข้ารับการดูแลรักษาที่ฮอสพิเทล ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. 63  เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบ ทีมสอบสวนโรคจึงแนะนำให้ไปรักษาที่ รพ.บางละมุง แต่ผู้ป่วยแจ้งว่า มีอาการไม่มาก ขอนอนพักรักษาตัวต่อที่ฮอสพิเทล จนกระทั่งเวลา 03.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 64 ก็พบว่าผู้ป่วยเสียชีวิตในห้องพัก

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มของยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีความรุนแรงขึ้น พยากรณ์ล่วงหน้าเลยว่า หากตัวเลขยังไม่หยุด จะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น อัตรา 100 คน ต่อ 1 คน 

ทั้งนี้ผู้ป่วยรายใหม่ 182 ราย ที่เป็นการติดเชื้อในประเทศ มีประวัติเชื่อมโยงกับ cluster หรือเป็นกลุ่มก้อน จากจ.สมุทรสาคร 3 คน จ.ระยอง 1 คนจ.ชลบุรี 1 คน และเป็นผู้มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้า 23 คน ส่วน ก้อนใหญ่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 154 คน ซึ่งมีการกันตัวออกมาไม่ไปพบปะคนอื่น ใส่หน้ากาก 100% ไม่ไปมั่วสุมอีกแล้ว เพราะว่าอยู่ในกลุ่มที่ติดเชื้อแล้ว แล้วมีโอกาสที่จะแพร่กระจายเชื้อได้สูงมาก ทั้ง 154 คน แบ่งเป็น จ.นนทบุรี 25 คน จ.สมุทรสาคร 37คน จ.ระยอง 27 คน จ.ชลบุรี 32 คน จ.จันทบุรี 10 คน จ.สมุทรปราการ 23 คน


ส่วนช่วงอายุของการติดเชื้อกลุ่มก้อน จ.สมุทรสาคร จะเป็นวัยแรงงาน แต่จ.ระยองจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และจากดารเดินทางข้ามจังหวัด จะเริ่มพบการติดเชื้อภายในครอบครัว เพิ่มขึ้น และช่วงอายุที่ลดลงมา อย่าง จ.สุพรรณบุรี อ่างทอง พบอายุ 8 ปี ผู้สูงอายุ อายุที่ 67 ปี โดยตังเลขตอนนี้หากพบผู้ติดเชื้อ 1 คน อาจจะมีคนที่ต้องถูกสอบสวนโรค 5-10 คน ที่สัมผัสเสี่ยงสูงหรือต่ำ เน้นย้ำว่า ทุกคนที่อยู่ใกล้ชิด กับผู้ที่มีผลยืนยันการติดเชื้อ ต้องหยุดนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวและเคลื่อนย้ายตัวเองเด็ดขาด สุขอนามัยต้องดูแลเข้มข้น เพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรค วันนี้ตัวเลขติดเชื้อยังหยุดอยู่ที่ 53 จังหวัดไม่ได้พบเพิ่มเติม 

ส่วนการวิเคราะห์ การติดเชื้อภายในประเทศทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น คือ ผู้ติดเชื้อทราบดีว่าเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ แต่ยังไม่กักตัวเองหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสคนอื่น และ มีการลักลอบมั่วสุมการพนันเป็นต้นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดและมั่วสุมแบบเคลื่อนที่ ส่งผลให้จํานวนผู้ติดเชื้อ ที่มีอาการเข้ารับการรักษามากขึ้น จนขีดความสามารถของบุคลากรการแพทย์ เวชภัณฑ์เตียง ลดลงจำนวนมาก จำเป็นต้องทบทวนการป้องกันในภาพรวม หากปล่อยให้เป็นตามปกติและวิ่งไล่แก้คงหาเตียงผู้ป่วยไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นขึ้นในจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดง สีส้มรวมถึงแนวชายแดน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พื้นที่ประกาศใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ในวันที่ 4 ม.ค.64 แบ่งเป็น พื้นที่ควบคุมสีแดง 28 จังหวัด คือ ตราด นนทบุรี ปทุมธานีพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรีอ่างทอง นครนายก กาญจนบุรี นครปฐมราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรีสมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทราปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง ชุมพร ระนอง และกรุงเทพฯ แต่ยังไม่ถึงกับประกาศล็อกดาวน์แต่จะมีการควบคุมอย่างเข้มงวด

ส่วนพื้นที่ควบคุมสีส้ม 11 จังหวัด สุโขทัยกำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาทเพชรบูรณ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครราชสีมาสุราษฎร์ธานี พังงา 

ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสีเหลือง 38 จังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัดที่เหลือ 

ส่วนประกาศต้องรอนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค.เซ็นลงนามในคำสั่งอีกครั้ง จะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้ง การแถลงข้อมูลออกมาก่อนเพื่อให้ประชาชนเตรียมตัว

สำหรับมาตรการที่กำหนดให้ดำเนินการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด แบ่งออกเป็น 2 ขั้นดังนี้

ขั้นที่ 1 จำกัดเวลาเปิดปิดสถานประกอบการซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดหรือมั่วสุมผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ขอความร่วมมือไม่เดินทางข้ามจังหวัด การศึกษาหรือการเรียนการสอนหรือใช้รูปแบบออนไลน์ ให้มีการทำงานแบบ work from home กำหนดมีมาตรการควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด เร่งการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและการสอบสวนโรคในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อและพื้นที่ที่มีการเชื่อมโยง เริ่ม 4 มกราคม 64 ตั้งแต่ 06:00 น. ถึง 1 กุมภาพันธ์ 64 เวลา 06:00 น เป็นระยะเวลา ร่วม 1 เดือน 

ขั้นที่ 2 จำกัดเวลาเปิดปิดสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจำกัดการเปิดปิดกิจการบางประเภทด้วย ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เพิ่มความเข้มข้นในการเร่งค้นหาและจับกุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุม ทำผิดกฎหมาย งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการควบคุมการเดินทางข้ามจังหวัดสถานศึกษายังคงหยุดการเรียนการสอนเป็นกิจกรรมที่มีความจำเป็นเรื่องรายการเพิ่มการทำงานแบบ work from home อย่างเต็มความสามารถ เร่งรัดการตรวจค้นผู้ติดเชื้อเชิงรุกและสอบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยงกิจกรรมกิจการที่เสี่ยงกลุ่มบุคคลที่เสี่ยงจำกัดเวลาออกนอกเคหสถานในพื้นที่ที่ศปค.จังหวัด กำหนดห้วงเวลาตามที่นายกรัฐมนตรี ผอ. ศบค.เห็นชอบต่อไป

ยอมรับ ที่ยังไม่ประกาศ ล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว เนื่องจาก การใช้ยาแรง ที่ผ่านมาในอดีต ก็ยังพบผู้ฝ่าฝืน แต่ผู้ที่เดือดร้อน ได้รับผลกระทบ คือผู้ที่ปฏิบัติตามกฎ ผู้ที่ทำอาชีพสุจริต ส่วนนี้อยู่ที่การขอความร่วมมือดีที่สุด การใช้กฎหมายไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน การใช้ยาแรงไม่ใช่เป็นผลบวกภาพรวมของเศรษฐกิจกับมีผลกระทบอย่างมาก การจัดการ ต้องใช้ประสบการณ์ที่ไเการเรียนรู้ร่วมกันมาตลอดระยะ 1 ปีนำมาใช้ให้ถูกทาง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย