ไทยติดโควิด-19 เพิ่ม 216 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

ศบค.เผยไทยติดโควิด-19 เพิ่ม 216 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

กทม. 2 ม.ค. – ศบค.แถลงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 216 ราย เสียชีวิต 1 ราย ชี้แนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น เตรียมประกาศ พื้นที่ควบคุมสีแดง 28 จังหวัด 4 ม.ค.นี้ เพื่อหยุดการแพร่ระบาด ยังไม่ประกาศ ล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว


ศบค.รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในไทย วันที่ 2 มกราคม 2564 🕚 เวลา 11.30 น.
😖 ผู้ป่วยรายใหม่ 216 ราย
-ติดเชื้อในประเทศ 182 ราย
-แรงงานต่างด้าว 32 ราย
-ASQ 2 ราย
😷 ผู้ป่วยยืนยันสะสม 7,163 ราย
🙂 หายป่วยเพิ่ม 26 ราย สะสม 4,299 ราย
😷 ยังรักษาใน รพ. 3,016 ราย
😭 เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นนักพนันชลบุรี รวมเสียชีวิตสะสม 64 ราย

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19 ) แถลงข้อมูลประจำวันที่ 2 ม.ค. 64 วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 216 คน ยอดผู้ป่วยสะสม 7,379 คน มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้เพิ่ม 26 คน ยังคงรักษาอยู่ 3,026 คน รวมยอดผู้รักษาหายสะสม 4,273 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 64 คน


สำหรับผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไทย อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่ จ.ชลบุรี มีโรคประจำตัวเบาหวาน มีประวัติเสี่ยงเป็นผู้เล่นการพนัน โดยผลตรวจเป็นโควิด-19 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 63 ขณะนั้นยังไม่มีอาการ และเข้ารับการดูแลรักษาที่ฮอสพิเทล ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. 63  เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบ ทีมสอบสวนโรคจึงแนะนำให้ไปรักษาที่ รพ.บางละมุง แต่ผู้ป่วยแจ้งว่า มีอาการไม่มาก ขอนอนพักรักษาตัวต่อที่ฮอสพิเทล จนกระทั่งเวลา 03.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 64 ก็พบว่าผู้ป่วยเสียชีวิตในห้องพัก

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มของยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีความรุนแรงขึ้น พยากรณ์ล่วงหน้าเลยว่า หากตัวเลขยังไม่หยุด จะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น อัตรา 100 คน ต่อ 1 คน 

ทั้งนี้ผู้ป่วยรายใหม่ 182 ราย ที่เป็นการติดเชื้อในประเทศ มีประวัติเชื่อมโยงกับ cluster หรือเป็นกลุ่มก้อน จากจ.สมุทรสาคร 3 คน จ.ระยอง 1 คนจ.ชลบุรี 1 คน และเป็นผู้มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้า 23 คน ส่วน ก้อนใหญ่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 154 คน ซึ่งมีการกันตัวออกมาไม่ไปพบปะคนอื่น ใส่หน้ากาก 100% ไม่ไปมั่วสุมอีกแล้ว เพราะว่าอยู่ในกลุ่มที่ติดเชื้อแล้ว แล้วมีโอกาสที่จะแพร่กระจายเชื้อได้สูงมาก ทั้ง 154 คน แบ่งเป็น จ.นนทบุรี 25 คน จ.สมุทรสาคร 37คน จ.ระยอง 27 คน จ.ชลบุรี 32 คน จ.จันทบุรี 10 คน จ.สมุทรปราการ 23 คน


ส่วนช่วงอายุของการติดเชื้อกลุ่มก้อน จ.สมุทรสาคร จะเป็นวัยแรงงาน แต่จ.ระยองจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และจากดารเดินทางข้ามจังหวัด จะเริ่มพบการติดเชื้อภายในครอบครัว เพิ่มขึ้น และช่วงอายุที่ลดลงมา อย่าง จ.สุพรรณบุรี อ่างทอง พบอายุ 8 ปี ผู้สูงอายุ อายุที่ 67 ปี โดยตังเลขตอนนี้หากพบผู้ติดเชื้อ 1 คน อาจจะมีคนที่ต้องถูกสอบสวนโรค 5-10 คน ที่สัมผัสเสี่ยงสูงหรือต่ำ เน้นย้ำว่า ทุกคนที่อยู่ใกล้ชิด กับผู้ที่มีผลยืนยันการติดเชื้อ ต้องหยุดนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวและเคลื่อนย้ายตัวเองเด็ดขาด สุขอนามัยต้องดูแลเข้มข้น เพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรค วันนี้ตัวเลขติดเชื้อยังหยุดอยู่ที่ 53 จังหวัดไม่ได้พบเพิ่มเติม 

ส่วนการวิเคราะห์ การติดเชื้อภายในประเทศทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น คือ ผู้ติดเชื้อทราบดีว่าเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ แต่ยังไม่กักตัวเองหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสคนอื่น และ มีการลักลอบมั่วสุมการพนันเป็นต้นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดและมั่วสุมแบบเคลื่อนที่ ส่งผลให้จํานวนผู้ติดเชื้อ ที่มีอาการเข้ารับการรักษามากขึ้น จนขีดความสามารถของบุคลากรการแพทย์ เวชภัณฑ์เตียง ลดลงจำนวนมาก จำเป็นต้องทบทวนการป้องกันในภาพรวม หากปล่อยให้เป็นตามปกติและวิ่งไล่แก้คงหาเตียงผู้ป่วยไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นขึ้นในจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดง สีส้มรวมถึงแนวชายแดน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พื้นที่ประกาศใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ในวันที่ 4 ม.ค.64 แบ่งเป็น พื้นที่ควบคุมสีแดง 28 จังหวัด คือ ตราด นนทบุรี ปทุมธานีพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรีอ่างทอง นครนายก กาญจนบุรี นครปฐมราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรีสมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทราปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง ชุมพร ระนอง และกรุงเทพฯ แต่ยังไม่ถึงกับประกาศล็อกดาวน์แต่จะมีการควบคุมอย่างเข้มงวด

ส่วนพื้นที่ควบคุมสีส้ม 11 จังหวัด สุโขทัยกำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาทเพชรบูรณ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครราชสีมาสุราษฎร์ธานี พังงา 

ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสีเหลือง 38 จังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัดที่เหลือ 

ส่วนประกาศต้องรอนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค.เซ็นลงนามในคำสั่งอีกครั้ง จะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้ง การแถลงข้อมูลออกมาก่อนเพื่อให้ประชาชนเตรียมตัว

สำหรับมาตรการที่กำหนดให้ดำเนินการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด แบ่งออกเป็น 2 ขั้นดังนี้

ขั้นที่ 1 จำกัดเวลาเปิดปิดสถานประกอบการซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดหรือมั่วสุมผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ขอความร่วมมือไม่เดินทางข้ามจังหวัด การศึกษาหรือการเรียนการสอนหรือใช้รูปแบบออนไลน์ ให้มีการทำงานแบบ work from home กำหนดมีมาตรการควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด เร่งการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและการสอบสวนโรคในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อและพื้นที่ที่มีการเชื่อมโยง เริ่ม 4 มกราคม 64 ตั้งแต่ 06:00 น. ถึง 1 กุมภาพันธ์ 64 เวลา 06:00 น เป็นระยะเวลา ร่วม 1 เดือน 

ขั้นที่ 2 จำกัดเวลาเปิดปิดสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจำกัดการเปิดปิดกิจการบางประเภทด้วย ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เพิ่มความเข้มข้นในการเร่งค้นหาและจับกุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุม ทำผิดกฎหมาย งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการควบคุมการเดินทางข้ามจังหวัดสถานศึกษายังคงหยุดการเรียนการสอนเป็นกิจกรรมที่มีความจำเป็นเรื่องรายการเพิ่มการทำงานแบบ work from home อย่างเต็มความสามารถ เร่งรัดการตรวจค้นผู้ติดเชื้อเชิงรุกและสอบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยงกิจกรรมกิจการที่เสี่ยงกลุ่มบุคคลที่เสี่ยงจำกัดเวลาออกนอกเคหสถานในพื้นที่ที่ศปค.จังหวัด กำหนดห้วงเวลาตามที่นายกรัฐมนตรี ผอ. ศบค.เห็นชอบต่อไป

ยอมรับ ที่ยังไม่ประกาศ ล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว เนื่องจาก การใช้ยาแรง ที่ผ่านมาในอดีต ก็ยังพบผู้ฝ่าฝืน แต่ผู้ที่เดือดร้อน ได้รับผลกระทบ คือผู้ที่ปฏิบัติตามกฎ ผู้ที่ทำอาชีพสุจริต ส่วนนี้อยู่ที่การขอความร่วมมือดีที่สุด การใช้กฎหมายไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน การใช้ยาแรงไม่ใช่เป็นผลบวกภาพรวมของเศรษฐกิจกับมีผลกระทบอย่างมาก การจัดการ ต้องใช้ประสบการณ์ที่ไเการเรียนรู้ร่วมกันมาตลอดระยะ 1 ปีนำมาใช้ให้ถูกทาง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]

“อนุทิน” ยันอุบลฯ ไม่โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน

อุบลราชธานี 8 มิ.ย.- “อนุทิน” ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน ขณะที่ชาวบ้านยอมรับหวาดกลัว แต่อุ่นใจมีทหารคอยดูแลความปลอดภัย นายอนุทิน​ ชาญ​วีระกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นำคณะปฏิบัติราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี จุดแรกที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ หมู่ที่ 17 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน เพื่อมอบสิ่งของให้ทหาร​ ชรบ.​อส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จากนั้นไปดูหลุมหลบภัย 2 จุด คือหลุมหลบภัย โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอนุทินเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์​จากอุบลราชธานี มาพื้นที่ชายแดน​พร้อมกับปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครอง​ก่อนวันพุธที่ 11 มิถุนายน​ จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 7 จังหวัดมาประชุมร่วมกันที่อุบลราชธานี​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ​ ถึงแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นายอนุทิน แนะนำผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ 7 จังหวัด รวมถึงสส. ทั้งของพรรคภูมิใจไทยและต่างพรรคที่มาเป็นกำลังใจให้ทุกคนโดยเฉพาะทหารที่เป็นกำลังสำคัญ​ และรับรองได้ว่าจะไม่ให้ใครรุกรานเข้ามาแม้แต่มิลลิเมตรเดียว​ พร้อมยืนยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว คนไทยทุกคนพร้อมที่จะคอยตรึงแนวหลัง ให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ชาวบ้านในพื้นที่ ที่มารอต้อนรับคณะของนายอนุทิน ยอมรับว่าหวาดกลัวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะเคยประสบเหตุ เหยียบกับระเบิด […]