ไทยติดโควิด-19 เพิ่ม 216 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

ศบค.เผยไทยติดโควิด-19 เพิ่ม 216 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

กทม. 2 ม.ค. – ศบค.แถลงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 216 ราย เสียชีวิต 1 ราย ชี้แนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น เตรียมประกาศ พื้นที่ควบคุมสีแดง 28 จังหวัด 4 ม.ค.นี้ เพื่อหยุดการแพร่ระบาด ยังไม่ประกาศ ล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว


ศบค.รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในไทย วันที่ 2 มกราคม 2564 🕚 เวลา 11.30 น.
😖 ผู้ป่วยรายใหม่ 216 ราย
-ติดเชื้อในประเทศ 182 ราย
-แรงงานต่างด้าว 32 ราย
-ASQ 2 ราย
😷 ผู้ป่วยยืนยันสะสม 7,163 ราย
🙂 หายป่วยเพิ่ม 26 ราย สะสม 4,299 ราย
😷 ยังรักษาใน รพ. 3,016 ราย
😭 เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นนักพนันชลบุรี รวมเสียชีวิตสะสม 64 ราย

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19 ) แถลงข้อมูลประจำวันที่ 2 ม.ค. 64 วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 216 คน ยอดผู้ป่วยสะสม 7,379 คน มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้เพิ่ม 26 คน ยังคงรักษาอยู่ 3,026 คน รวมยอดผู้รักษาหายสะสม 4,273 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 64 คน


สำหรับผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไทย อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่ จ.ชลบุรี มีโรคประจำตัวเบาหวาน มีประวัติเสี่ยงเป็นผู้เล่นการพนัน โดยผลตรวจเป็นโควิด-19 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 63 ขณะนั้นยังไม่มีอาการ และเข้ารับการดูแลรักษาที่ฮอสพิเทล ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. 63  เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบ ทีมสอบสวนโรคจึงแนะนำให้ไปรักษาที่ รพ.บางละมุง แต่ผู้ป่วยแจ้งว่า มีอาการไม่มาก ขอนอนพักรักษาตัวต่อที่ฮอสพิเทล จนกระทั่งเวลา 03.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 64 ก็พบว่าผู้ป่วยเสียชีวิตในห้องพัก

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มของยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีความรุนแรงขึ้น พยากรณ์ล่วงหน้าเลยว่า หากตัวเลขยังไม่หยุด จะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น อัตรา 100 คน ต่อ 1 คน 

ทั้งนี้ผู้ป่วยรายใหม่ 182 ราย ที่เป็นการติดเชื้อในประเทศ มีประวัติเชื่อมโยงกับ cluster หรือเป็นกลุ่มก้อน จากจ.สมุทรสาคร 3 คน จ.ระยอง 1 คนจ.ชลบุรี 1 คน และเป็นผู้มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้า 23 คน ส่วน ก้อนใหญ่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 154 คน ซึ่งมีการกันตัวออกมาไม่ไปพบปะคนอื่น ใส่หน้ากาก 100% ไม่ไปมั่วสุมอีกแล้ว เพราะว่าอยู่ในกลุ่มที่ติดเชื้อแล้ว แล้วมีโอกาสที่จะแพร่กระจายเชื้อได้สูงมาก ทั้ง 154 คน แบ่งเป็น จ.นนทบุรี 25 คน จ.สมุทรสาคร 37คน จ.ระยอง 27 คน จ.ชลบุรี 32 คน จ.จันทบุรี 10 คน จ.สมุทรปราการ 23 คน


ส่วนช่วงอายุของการติดเชื้อกลุ่มก้อน จ.สมุทรสาคร จะเป็นวัยแรงงาน แต่จ.ระยองจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และจากดารเดินทางข้ามจังหวัด จะเริ่มพบการติดเชื้อภายในครอบครัว เพิ่มขึ้น และช่วงอายุที่ลดลงมา อย่าง จ.สุพรรณบุรี อ่างทอง พบอายุ 8 ปี ผู้สูงอายุ อายุที่ 67 ปี โดยตังเลขตอนนี้หากพบผู้ติดเชื้อ 1 คน อาจจะมีคนที่ต้องถูกสอบสวนโรค 5-10 คน ที่สัมผัสเสี่ยงสูงหรือต่ำ เน้นย้ำว่า ทุกคนที่อยู่ใกล้ชิด กับผู้ที่มีผลยืนยันการติดเชื้อ ต้องหยุดนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวและเคลื่อนย้ายตัวเองเด็ดขาด สุขอนามัยต้องดูแลเข้มข้น เพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรค วันนี้ตัวเลขติดเชื้อยังหยุดอยู่ที่ 53 จังหวัดไม่ได้พบเพิ่มเติม 

ส่วนการวิเคราะห์ การติดเชื้อภายในประเทศทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น คือ ผู้ติดเชื้อทราบดีว่าเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ แต่ยังไม่กักตัวเองหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสคนอื่น และ มีการลักลอบมั่วสุมการพนันเป็นต้นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดและมั่วสุมแบบเคลื่อนที่ ส่งผลให้จํานวนผู้ติดเชื้อ ที่มีอาการเข้ารับการรักษามากขึ้น จนขีดความสามารถของบุคลากรการแพทย์ เวชภัณฑ์เตียง ลดลงจำนวนมาก จำเป็นต้องทบทวนการป้องกันในภาพรวม หากปล่อยให้เป็นตามปกติและวิ่งไล่แก้คงหาเตียงผู้ป่วยไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นขึ้นในจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดง สีส้มรวมถึงแนวชายแดน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พื้นที่ประกาศใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ในวันที่ 4 ม.ค.64 แบ่งเป็น พื้นที่ควบคุมสีแดง 28 จังหวัด คือ ตราด นนทบุรี ปทุมธานีพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรีอ่างทอง นครนายก กาญจนบุรี นครปฐมราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรีสมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทราปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง ชุมพร ระนอง และกรุงเทพฯ แต่ยังไม่ถึงกับประกาศล็อกดาวน์แต่จะมีการควบคุมอย่างเข้มงวด

ส่วนพื้นที่ควบคุมสีส้ม 11 จังหวัด สุโขทัยกำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาทเพชรบูรณ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครราชสีมาสุราษฎร์ธานี พังงา 

ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสีเหลือง 38 จังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัดที่เหลือ 

ส่วนประกาศต้องรอนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค.เซ็นลงนามในคำสั่งอีกครั้ง จะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้ง การแถลงข้อมูลออกมาก่อนเพื่อให้ประชาชนเตรียมตัว

สำหรับมาตรการที่กำหนดให้ดำเนินการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด แบ่งออกเป็น 2 ขั้นดังนี้

ขั้นที่ 1 จำกัดเวลาเปิดปิดสถานประกอบการซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดหรือมั่วสุมผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ขอความร่วมมือไม่เดินทางข้ามจังหวัด การศึกษาหรือการเรียนการสอนหรือใช้รูปแบบออนไลน์ ให้มีการทำงานแบบ work from home กำหนดมีมาตรการควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด เร่งการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและการสอบสวนโรคในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อและพื้นที่ที่มีการเชื่อมโยง เริ่ม 4 มกราคม 64 ตั้งแต่ 06:00 น. ถึง 1 กุมภาพันธ์ 64 เวลา 06:00 น เป็นระยะเวลา ร่วม 1 เดือน 

ขั้นที่ 2 จำกัดเวลาเปิดปิดสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจำกัดการเปิดปิดกิจการบางประเภทด้วย ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เพิ่มความเข้มข้นในการเร่งค้นหาและจับกุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุม ทำผิดกฎหมาย งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการควบคุมการเดินทางข้ามจังหวัดสถานศึกษายังคงหยุดการเรียนการสอนเป็นกิจกรรมที่มีความจำเป็นเรื่องรายการเพิ่มการทำงานแบบ work from home อย่างเต็มความสามารถ เร่งรัดการตรวจค้นผู้ติดเชื้อเชิงรุกและสอบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยงกิจกรรมกิจการที่เสี่ยงกลุ่มบุคคลที่เสี่ยงจำกัดเวลาออกนอกเคหสถานในพื้นที่ที่ศปค.จังหวัด กำหนดห้วงเวลาตามที่นายกรัฐมนตรี ผอ. ศบค.เห็นชอบต่อไป

ยอมรับ ที่ยังไม่ประกาศ ล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว เนื่องจาก การใช้ยาแรง ที่ผ่านมาในอดีต ก็ยังพบผู้ฝ่าฝืน แต่ผู้ที่เดือดร้อน ได้รับผลกระทบ คือผู้ที่ปฏิบัติตามกฎ ผู้ที่ทำอาชีพสุจริต ส่วนนี้อยู่ที่การขอความร่วมมือดีที่สุด การใช้กฎหมายไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน การใช้ยาแรงไม่ใช่เป็นผลบวกภาพรวมของเศรษฐกิจกับมีผลกระทบอย่างมาก การจัดการ ต้องใช้ประสบการณ์ที่ไเการเรียนรู้ร่วมกันมาตลอดระยะ 1 ปีนำมาใช้ให้ถูกทาง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย