นายกฯ ไม่สบายใจบางคนละเลยมาตรการโควิด

กรุงเทพฯ 2 ม.ค.-นายกรัฐมนตรี ไม่สบายใจคนบางกลุ่มยังละเลยมาตรการเข้มโควิด-19 พร้อมห่วงการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ยังพบดื่มแล้วขับก่ออุบัติเหตุสูง

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด และมีความไม่สบายใจที่ยังมีประชาชนหลายคนบางกลุ่ม ที่ยังไม่ระมัดระวังเท่าที่ควร ในการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ หรือป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้นได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ช่วยกันร่วมมือแก้ปัญหาโควิด-19 และขอให้ทุกคนมีความรับผิดชอบต่อกันและกัน เพื่อให้ครอบครัวและชุมชนปลอดภัย


ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด ทั้งเป็นการติดเชื้อจากบุคคลสู่บุคคลจากการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่เสี่ยง และการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน ดังนั้น นายกฯ จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ในแต่ละจังหวัด อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ นายกฯ ขอให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่มีการรวมคน และขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าเสมอ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆให้ความร่วมมือในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายตามสถานที่ต่างๆ ติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” และสแกน “ไทยชนะ” เวลาเช็คอินและเช็กเอาท์สถานที่ต่างๆ และหากมีอาการที่สงสัยว่าจะติดเชื้อขอให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว อย่าปล่อยให้อาการรุนแรง

โดย นายกฯ ขอให้คนไทยทุกคนรวมพลังกันอีกครั้งเพื่อเอาชนะโควิดให้ได้ ถ้าทุกคนร่วมมือกันปฎิบัติตามระเบียบที่ทางเจ้าหน้าที่ประกาศ ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะสามารถควบคุมได้โดยเร็ว


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ยังมีความเป็นห่วงเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ซึ่งได้รับรายงานว่า อุบัติทางถนนในช่วงวันหยุดนี้ พบว่าพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับยังเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด จึงได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ควบคู่กับการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และกำชับให้ด่านตรวจเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่ รวมถึงคัดกรองวัดไข้ประชาชนก่อนเข้าพื้นที่ เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องกับผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนด ดื่มแล้วขับ และกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย พร้อมคุมเข้มการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชน

นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันลดอุบัติเหตุด้วยการป้องกัน อย่าเห็นแก่ความสนุกสนานมากเกินไปในช่วงนี้ การขับรถควรต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ดื่มสุรา และขอให้นึกถึงครอบครัวให้มากๆ และนึกถึงคนอื่นที่ต้องเดือดร้อนจากการกระทำที่ประมาทเลินเล่อ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สินได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง