ลอนดอน 21 ธ.ค.- หลายประเทศที่อยู่นอกภูมิภาคยุโรปเริ่มห้ามเที่ยวบินและผู้เดินทางมาจากอังกฤษ หลังจากอังกฤษยอมรับว่า ไม่สามารถควบคุมเชื้อไวรัสโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ได้รวดเร็วกว่าเดิม
กระทรวงมหาดไทยอาร์เจนตินา ประเทศในอเมริกาใต้ แถลงว่า จะระงับเที่ยวบินเข้าและออกจากอังกฤษ สกอตแลนด์และเวลส์เพราะกังวลเรื่องโรคโควิด-19 เที่ยวบินสุดท้ายจากอังกฤษที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศคือเที่ยวบินที่มีกำหนดถึงกรุงบัวโนสไอเรสในเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ลูกเรือและผู้โดยสารของเที่ยวบินนี้จะต้องกักโรค 7 วัน ด้านรัฐบาลชิลีที่อยู่ในอเมริกาใต้เช่นเดียวกันแถลงว่า ชาวต่างชาติไม่ใช่ผู้พักอาศัยที่พำนักอยู่ในอังกฤษ สกอตแลนด์และเวลส์ในช่วง 14 วันที่ผ่านมาจะถูกห้ามเข้าชิลีเป็นเวลาสองสัปดาห์ นับตั้งแต่เที่ยงคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ส่วนเอลซัลวาดอร์ ประเทศในอเมริกากลางห้ามผู้พำนักอยู่ในอังกฤษหรือแอฟริกาใต้ในช่วง 30 วันที่ผ่านมาเข้าประเทศอย่างเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาทวีตว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ได้เร็วในอังกฤษทำให้ต้องห้ามเที่ยวบินจากสหราชอาณาจักรหรือยูเคที่ประกอบด้วยอังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือเข้าแคนาดาเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ส่วนผู้ที่เดินทางมาถึงเมื่อวันอาทิตย์จะต้องรับการคัดกรองอีกครั้งหนึ่งและปฏิบัติตามมาตรการที่เข้มงวดขึ้น
ประเทศในตะวันออกกลางอย่างอิหร่านสั่งห้ามเที่ยวบินจากอังกฤษเข้าประเทศเป็นเวลาสองสัปดาห์ คูเวตขึ้นชื่ออังกฤษไว้ในรายชื่อประเทศเสี่ยงสูง ห้ามเที่ยวบินเข้าเด็ดขาด อิสราเอลห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากอังกฤษ เดนมาร์กและแอฟริกาใต้ ส่วนชาวอิสราเอลที่กลับมาจากประเทศเหล่านี้จะต้องกักตัวในโรงแรมของกองทัพที่ใช้เป็นศูนย์กักโรค ด้านซาอุดีอาระเบียระงับเที่ยวบินทั้งหมดและการเดินทางผ่านด่านทางบกและทางทะเลอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ ผู้เดินทางมาจากยุโรปหรือประเทศที่พบไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะต้องกักตัวสองสัปดาห์และรับการตรวจหาเชื้อ ขณะที่ตุรกีจะระงับเที่ยวบินจากประเทศที่พบไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างอังกฤษ เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และแอฟริกาใต้.-สำนักข่าวไทย