กกต. 18 ธ.ค. – เลขาฯ กกต. สั่งจับตาการเลือกตั้ง อบจ.ใน 5 – 6 จังหวัดเป็นพิเศษ หลังพบมีการแข่งขันดุเดือด มั่นใจข้อร้องเรียนทุจริตไม่กระทบการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า กกต.เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกและนายก อบจ.ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมนี้ ทั้งการจัดหน่วย อุปกรณ์ และบัตรเลือกตั้ง ขณะนี้ถึงช่วงโค้งสุดท้าย มีความเข้มข้มรุนแรง และมีเรื่องร้องเรียนเข้ามากว่า 100 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเตรียมการซื้อเสียง การทำลายป้ายหาเสียงใส่ร้ายผู้สมัคร รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลาง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า กกต.จะต้องตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ และหาข้อมูลว่ามีมูลเพียงพอที่จะรับไว้เป็นข้อร้องเรียนหรือไม่ จึงขอกำชับไปยังทุกฝ่ายให้ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่าซื้อเสียง อย่าสัญญาว่าจะให้ หรือใส่ร้ายผู้สมัครคนอื่น เพราะมีกฎหมายควบคุม เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม
“ได้หารือกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานดูแลความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งเป็นพิเศษแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ 5-6 จังหวัด ที่พบว่ามีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเข้มข้น” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า เวลานี้ทุกเขตเลือกตั้งมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง ทำหน้าที่ภายใต้สโลแกน 4 ประสานต้านทุจริต มีเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง รวมทั้งมวลชนของ กกต. เพื่อไม่ให้มีการทุจริตการเลือกตั้ง และการที่ผู้บริหารของ กกต.ไปรณรงค์ในพื้นที่ต่างจังหวัด ก็เชื่อว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิอย่างคึกคัก
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง อบจ. กกต.ได้ประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยจัดกำลังตำรวจ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมประสานไปยังกรมการขนส่งทางบก, การรถไฟแห่งประเทศไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย
ส่วนการที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ร้องว่ามีผู้มีอิทธิพลส่งคนลงไปข่มขู่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง อบจ. ที่ จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ในเรื่องเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือผู้ใดก็ตาม ถ้าเราทราบก็จะส่งผู้ตรวจการเลือกตั้งหรือเจ้าหน้าที่ กกต.เข้าไปพบ เพื่อสอบถามรายละเอียด และจุดที่เป็นข่าวก็ได้ไปพบทันที ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นที่ได้มีการหาเสียง
สำหรับเรื่องร้องเรียนกรณีคณะก้าวหน้าปฏิบัติตัวเสมือนเป็นพรรคการเมืองนั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานข้อมูลของ กกต. คาดว่าจะใช้เวลาสักระยะในการพิจารณา เนื่องจากมีรายละเอียดของข้อกฎหมายใน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และพระราชบัญญัติการเลือกตั้งท้องถิ่นที่แตกต่างกัน
“เชื่อว่าจะไม่มีกระทบต่อการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เพราะตามกฎหมายกำหนดไว้ว่า จะต้องประกาศรับรองผลภายใน 30 วัน เว้นแต่มีเรื่องร้องเรียน ก็สามารถประกาศรับรองผลภายใน 60 วันได้ ซึ่งหากในระยะเวลาภายหลังพบว่าในการชี้มูลความผิดเกิดขึ้น ผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งจะได้รับผลกระทบหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาล ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย