สธ.3 ธ.ค.- สธ.แจงไทมไลน์ 10 หญิงไทยทำงานท่าขี้เหล็ก ป่วยโควิด ตรวจผู้สัมผัส เสี่ยงสูง 175 คน ไม่เจอเชื้อ
นพ.เกียรติภูมิ วงค์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าการสอบสวนโรคหญิงทำงานท่าขี้เหล็ก เมียนมาลักลอบเข้าไทย และติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของแพทย์แล้ว ในสถานพยาบาล อาการไม่รุนแรง มีผู้สัมผัสเกี่ยวข้องรวม 699 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 175 คน ตรวจแล้วให้ผลเป็นลบทั้งหมด และมีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 524 คน ทั้งหมดคุมตัวดูอาการ ย้ำความเสี่ยงการติดเชื้อโควิดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลามีความเสี่ยงต่ำได้รับเชื้อ แต่หากไม่ใส่หน้ากาก พูดคุยเกิน 5 นาที มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ และ หากอยู่ในสถานที่แออัด แคบ ไม่มีอากาศถ่ายเท อยู่นานเกิน 15 นาที มีโอกาสติดเชื้อ
ดังนั้นการสวมใส่หน้ากากมีความสำคัญในการป้องกันโรค ส่วนผู้ที่กังวลเรื่องการติดเชื้อในสายการบินยืนยันว่ามีโอกาสติดเชื้อต่ำ เพราะบังคับให้หสวมหน้ากาก ต้องมีการติดตามผู้ที่เดินทางในสายการบิน 2 แถวหน้า 2 แถวหลัง
นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดเชียงรายได้มีการประสานจังหวัดท่าขี้เหล็ก เมียนมา ขอข้อมูลคนไทยที่ต้องค้างในท่าขี้เหล็กให้สามารถกลับเข้าไทยได้ เพราะขณะนี้มีความเคร่งครัดตรวจตราพรมแดน รวมถึงมีการปิดด่าน หากประสานมาก็สามารถเข้าประเทศไทย ในช่องทางปกติ ไม่มีความผิด โดยขณะนี้มีผู้ติดต่อขอกลับเข้าไทย 150 คน พร้อมย้ำว่าขณะนี้ให้ทุกพื้นที่เร่งตรวจตรา หากพบว่ามีคนไทยกลับมาจากเมียนมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และง่ายแก่การสอบสวนโรค และให้ อสม. เคาะประตูบ้านชุมชน ร่วมการติดตามเฝ้าระวัง
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ให้ไทมไลน์ของผู้ป่วยโดยละเอียดแล้ว จึงไม่อยากให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องวิตกกังวล เพราะความวิตกกังวลไม่ได้ช่วยอะไร โดยพบว่าในรายของหญิงชาวพะเยา ที่ไปเที่ยวสิงห์ปาร์ค ในงานฟาร์มเฟสติวัลล์ พบว่า มีการซื้อตั๋วในวันที่ 29 พ.ย. ในเวลา 19.30 น.โซนซี และ19.38 น. มีการตรวจอาวุธ และเข้าห้องน้ำในเวลา 19.48 น. มีการเดินทางร่วมกิจกรรมหน้าเวที โดยคนที่เดินทางไปช่วงเวลาดังกล่าว หากไม่สบายใจสามารถขอรับการตรวจได้ หรือติดต่อ สสจ. เชียงราย และเชียงใหม่ ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการประกาศเพื่อแจ้งเตือนคนที่เกี่ยวข้อง และป้องกันคนตื่นตระหนก โดยไม่จำเป็น พร้อมชื่นชมนักร้องที่ร่วมงานได้กักตัว 14 วันเป็นแบบอย่างแล้ว
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนได้ตระหนัก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ทั้งที่ไทยเป็นประเทศที่มีการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดที่ดีระดับโลก ทั้งนี้ทราบว่าการลักลอบเข้ามาของ 10 คนนี้ เกิดขึ้น ขณะที่มีการเปลี่ยนเวรหมู่บ้าน แต่ขณะนี้มีการดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวดแล้ว ขณะนี้เมื่อตรวจเชื้อผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไม่พบการติดเชื้อก็สบายใจได้ระดับหนึ่ง หากครบ 14 วัน ตรวจไม่พบเชื้ออีก ก็สบายใจได้ว่า ไม่มีการแพร่สู่ผู้อื่น .-สำนักข่าวไทย
