กรุงเทพฯ 1 ธ.ค. – กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งสั่งหน่วยงานภูมิภาคทุกจังหวัด ประชาสัมพันธ์ประชาชน ห้ามบริโภคหมึกบลูกริง เลี่ยงสัมผัส และแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที พร้อมขยายผลเฝ้าระวังปลาปักเป้า แมงกะพรุนกล่อง และเหรา
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกล่าวถึงกรณีที่วานนี้ (30 พ.ย.) มีประชาชนแจ้งพบหมึกบลูริงเสียบไม้ปิ้งขายในตลาดนัด จังหวัดปทุมธานี จึงย้ำเตือนถึงพิษของหมึกบลูริงที่ความรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนหากพบเห็นให้รีบหลีกเลี่ยง ห้ามสัมผัสและบริโภคเด็ดขาด และเตรียมประสานทุกจังหวัดทั่วประเทศช่วยประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชน หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที
นายโสภณกล่าวต่อว่า หมึกบลูริงเป็นหมึกจำพวกเดียวกับหมึกยักษ์ แตขนาดไม่ใหญ่มากนัก พบได้ในทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน รวมทั้ง ทะเลแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นสัตว์ที่อาศัยบริเวณผืนทรายใต้ท้องน้ำและแนวปะการัง เคยมีรายงานคนที่ได้รับพิษจากหมึกบลูริง ส่วนมากจะติดมากับเครื่องมือประมงและการแอบเลี้ยงของกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ทะเลแปลกสวยงาม ซึ่งทางกรมประมงมีประกาศห้ามมิให้เลี้ยงหรือนำเข้าหมึกชนิดนี้แล้ว แต่ยังพบมีการลักลอบนำเข้า
ล่าสุดนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแจ้งประสานทุกจังหวัดเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับทราบเป็นการเร่งด่วนแล้ว นอกจากนี้มอบหมายให้นักวิชาการที่ศึกษาด้านชีววิทยาสัตว์ทะเลที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับหมึกบลูริง จัดทำสื่อการเรียนรู้และข้อมูลประกอบเพื่อการประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนทุกคนทราบ
ทั้งนี้นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแสดงความห่วงใยถึงความปลอดภัยของประชาชน เน้นย้ำให้ประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง เนื่องจากครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก โดยปลายปีที่ผ่านมาเคยมีการพบหมึกบลูริงเสียบไม้ปิ้งขายเช่นนี้ในจังหวัดตาก รวมทั้งสั่งการให้ขยายผลไปยังสัตว์ทะเลมีพิษอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตด้วย เช่น ปลาปักเป้า แมงกระพรุน แมงดาทะเลชนิดเหรา เป็นต้น ที่มีการนำมาบริโภคกันในปัจจุบัน จึงเตือนประชาชนทุกคนที่พบเห็นหมึกที่มีลักษณะคล้ายหมึกยักษ์แต่มีขนาดเล็ก มีลายวงสีน้ำเงินเด่นชัด ห้ามสัมผัสหรือบริโภคเด็ดขาด แม้จะผ่านกรรมวิธีด้วยความร้อนแล้วก็ตาม เนื่องจาก พิษชนิดนี้สามารถทนความร้อนได้มากกว่า 200 องศาเซลเซียส
สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อมีการสัมผัสหรือบริโภค หากหมดสติให้รีบเป่าปาก หรือ รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งหากการช่วยเหลือเป็นผล ผู้ป่วยจะฟื้นเป็นปกติภายใน 24 ชั่วโมง เว้นแต่จะขาดอากาศนานเกินไปจนสมองตาย หากมีการพบเห็นในธรรมชาติให้พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัส และหากมีการพบเห็นว่ามีการจำหน่ายทั้งแบบยังมีชีวิตหรือขายเป็นอาหารตามท้องตลาด หรือไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ ควรแจ้งหน่วยงานกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหรือสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดทั่วประเทศ หรือแจ้งสายด่วน GREEN CALL 1310 เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความชำนาญไปตรวจสอบโดยด่วน . – สำนักข่าวไทย