หาหลักฐานเอาผิดกลุ่มผู้ชุมนุมสาดสีใส่ป้าย สตช.

กทม. 19 พ.ย. – ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมตำรวจอีโอดี เข้าตรวจสอบวัตถุระเบิด เก็บหลักฐานบริเวณโดยรอบ สตช. เตรียมเอาผิดกลุ่มผู้ชุมนุมสาดสีใส่ป้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด สำนักงานเขตปทุมวัน ทำความสะอาดคราบสีหน้า สตช.


ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี นำสุนัข K9 เข้าตรวจสอบและเก็บรวบรวมหลักฐานบริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพื้นที่โดยรอบ หลังจากแกนนำนำกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎรทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการสาดสีใส่ป้ายและบริเวณพื้นที่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด สำนักงานเขตปทุมวัน ได้เข้าฉีดน้ำทำความสะอาดพื้น และทาสีทับข้อความที่มีการเขียนไว้ในพื้นที่ชุมนุม

นอกจากนี้ตำรวจยังนำรถฉีดน้ำแรงแรงดันสูงฉีดทำความสะอาดป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผนัง ประตู และฟุตบาท พร้อมทั้งรื้อลวดหนาม และเคลื่อนย้ายรถบรรทุก 2 คัน ออกจากประตูทั้งสองฝั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น ฝ่ายโยธาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขต่อไป


หลังยุติการชุมนุมเมื่อคืน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ส่วนอาการบาดเจ็บของตำรวจได้รับรายงานว่ามีการยิงหนังสติกโดยใช้ลูกแก้วและหัวน็อตใส่เจ้าหน้าที่ ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด อีกทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าโดรนที่บินอยู่เหนือสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นของกลุ่มไหน หากตรวจสอบพบว่าโดรนเป็นของตำรวจ ผู้ชุมนุมจะถือว่ากระทำผิดเข้าข่ายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่

ล่าสุดเช้าวันนี้ พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพันตำรวจเอกหญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่อีกครั้ง พบว่าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหายทั้งหมด ตัวอักษรถูกงัดหายไปถึง 5 ตัว และมีการนำสีมาสาดป้าย กำแพง รั้ว ต้นไม้ และพื้นที่บริเวณโดยรอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินของส่วนราชการอื่นๆ เช่น ตู้ไปรษณีย์ ตู้โทรศัพท์ ป้ายรถเมล์ กล่องเซอร์วิสไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย จากการตรวจสอบพบว่า กล้องวงจรปิดโดยรอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกผู้ชุมนุมนำสีมาสาดเพื่อปิดทับจนได้รับความเสียหาย 13 ตัว ไฟประดับโดยรอบสำนักงานได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมถึงป้ายชื่อ สตช. และกำแพงก็ได้รับความเสียหายด้วย


นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งดูแลความปลอดภัยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกผู้ชุมนุมขว้างปาด้วยของแข็ง ได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย ขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ตำรวจสันติบาลดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับผู้ชุมนุมแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ยืนยันว่าจะดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน แม้กล้องวงรปิดจะได้รับความเสียหาย แต่ยังมีกล้องวงจรปิด รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆ ที่นำมาใช้ประกอบสำนวนเอาผิดผู้กระทำผิดได้

ทั้งนี้ ฝากถึงผู้ชุมนุมทุกกลุ่มว่าการชุมนุมสามารถกระทำได้ ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่สิทธินั้นต้องไม่ละเมิดบุคคลอื่น และต้องไม่ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ เพราะเป็นเงินภาษีของทุกคนภายในประเทศ ควรนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นมากกว่ามาทำลาย

ขณะที่ศูนย์เอราวัณสรุปผู้บาดจากการชุมนุมหน้ารัฐสภา 17 พฤศจิกายน ที่เกียกกาย รวม 55 คน ได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา 32 คน ถูกยิง 6 คน, ป่วย 4 คน และบาดเจ็บอื่นๆ 13 คน กระจายรักษาตัวที่วชิรพยาบาล, รพ.พระมงกุฎ, รพ.พระราม 9, รพ.ราชวิถี, รพ.รามา, รพ.เพชรเวช, รพ.กลาง, รพ.มิชชั่น, รพเลิดสิน ส่วนการชุมนุมที่ สตช. เมื่อวานนี้ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา