นายกฯ ยืนยันสหรัฐเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านของอาเซียน

ทำเนียบรัฐบาล 14 พ.ย. – นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 8 ยืนยันสหรัฐเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่รอบด้านของอาเซียน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 8 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งมีผู้นำจาก เวียดนาม ลาว ไทย สิงคโปร์ บรูไน และผู้แทนจาก อินโดนีเซีย กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย และนายโรเบิร์ต ซี. โอไบรอัน (Robert C. O’Brien) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Security Advisor) เป็นผู้แทนฝ่ายสหรัฐฯ

ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดทิศทางความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐ ในอนาคต ขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียน-สหรัฐ ให้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความร่วมมือเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมให้เข้มแข็งและยั่งยืน ตลอดจนทบทวนเพื่อต่อยอดความร่วมมือจากการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 7


นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ชื่นชมบทบาทของสหรัฐฯ ในภูมิภาค และด้วยความท้าทายที่มากขึ้น ประเทศในภูมิภาคต้องร่วมมือกันมากขึ้นตามหัวข้อหลักของการประชุม แน่นแฟ้นและตอบสนอง เพื่อการฟื้นฟูหลังโควิด-19 ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

โดยที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เชื่อมั่นว่า การประชุมจะดำเนินการหารือไปด้วยดี และเป็นปีสำคัญของความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กระทบการพบเจอเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น การเชื่อมห่วงโซ่อุปทานสำหรับโควิด-19 ยังคงจำเป็น ต้องมีความร่วมมือต่อต้านโรคระบาด การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ ทั้งความมั่นคงและอาหาร นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังให้การสนับสนุนด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การฝึกอบรมสนับสนุนอาชีพ เป็นต้น

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สหรัฐเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่รอบด้านของอาเซียน บทบาทที่สร้างสรรค์ของสหรัฐฯ จะช่วยเสริมสร้างความเป็นแกนกลางและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของอาเซียน การสร้างดุลยภาพใหม่ทางยุทธศาสตร์ (new strategic equilibrium) ในอินโด-แปซิฟิก จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศของความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อนำไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภูมิภาค นายกรัฐมนตรี เสนอให้อาเซียนและสหรัฐฯ กระชับความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างอนาคตที่มีเสถียรภาพและความยั่งยืนสำหรับประชาชนใน 3 ประเด็น คือ


1. การส่งเสริมความมั่นคงด้านสาธารณสุข สนับสนุนการวิจัยและการผลิต ตลอดจนการเข้าถึงยาและวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างเร่งด่วน โดยไทยพร้อมจะเป็นฐานในการผลิตยาและวัคซีน เพื่อให้เป็นสินค้าสาธารณะ และไทยพร้อมสนับสนุนโครงการ “อาเซียน-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุขเพื่ออนาคต”

2. การส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค โดยสหรัฐฯ และอาเซียน เขตเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 1 และ 5 ของโลก ควรร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานสินค้า เพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีในอาเซียน และพัฒนาเมืองอัจฉริยะร่วมกัน รวมทั้งเสริมสร้างแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะจากการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนภาคเอกชนของสหรัฐฯ มาร่วมพัฒนาขีดความสามารถด้านดิจิทัลในอาเซียน ซึ่งไทยมีโครงการเพื่อรองรับการเติบโตด้านดิจิทัลที่พร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ อาทิ โครงการ “ASEAN Digital Hub” รวมถึงโครงการพัฒนาเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล หรือ “Digital Park Thailand”

3. การพัฒนาทุนมนุษย์ ซึ่งอาเซียนและสหรัฐฯ ควรร่วมกันพัฒนาทักษะแรงงาน ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต ควรมุ่งเน้นความร่วมมือด้านการฝึกอบรมด้านเทคนิคและการอาชีวศึกษา ในสาขาอาชีพใหม่ๆ การพัฒนาทักษะภาษา และการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม สนับสนุนให้สถาบันการศึกษาผลิตแรงงานที่ทันสมัย และมีทักษะตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานโลก

ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ยังกล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะสานต่อมิตรภาพและความเป็นหุ้นส่วนสหรัฐฯ-อาเซียน ให้ดำเนินต่อไปในปีหน้าและต่อๆ ไป โดยจะแน่นแฟ้นในทุกด้าน ความร่วมมือสำคัญต่อสันติภาพ ความมั่นคง และประโยชน์ต่อประชาชน รวมทั้งจะมีความร่วมมือๆ เช่น Task Force ด้านสาธารณสุข และโควิด-19 ลงทุนด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคลมากขึ้น เพื่อส่งเสริมแรงงานและบุคลากร ลงทุนเพิ่มขึ้นในด้านโครงสร้างพื้นฐานในอาเซียน ส่งเสริมอินโด-แปซิฟิก ที่เปิดกว้างและเสรี รวมทั้งปกป้องความเป็นแกนกลางของอาเซียน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นักท่องเที่ยวแห่ไหว้ขอพรพญานาค ท่าน้ำวัดโคกเปี้ยว จ.สงขลา

นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย แห่เดินทางท่องเที่ยว กราบสักการะบูชา ขอพร พญานาค บริเวณท่าน้ำวัดโคกเปี้ยว ริมทะเลสาบสงขลา ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

เผยเครื่องบินของ jeju air บิน 13 เที่ยวใน 48 ชม. ก่อนเกิดเหตุตก

แหล่งข่าวทางด้านอุตสาหกรรมการบินของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เครื่องบินของสายการบินเชจู แอร์ ลำที่เกิดอุบัติเหตุตกที่คร่าชีวิต 179 ราย ถูกพบว่ามีการบินใฃ้งาน 13 เที่ยวบินในช่วงเวลา 48 ชั่วโมง

เชจูแอร์ล้อไม่กาง

เชจู แอร์ ประสบปัญหาล้อไม่กางอีกลำ

เกิดเหตุระทึกกับเที่ยวบินของสายการบินเชจู แอร์ ของเกาหลีใต้อีกลำหนึ่งจนต้องบินวกกลับสนามบินต้นทางหลังพบปัญหาที่ระบบล้อที่เพิ่งเกิดกับเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-มูอัน และพบเป็นเครื่องบินโบอิ้ง รุ่นเดียวกัน

ไฟไหม้โรงแรมย่านข้าวสาร เสียชีวิต 3 คน

ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนข้าวสาร เจ้าหน้าที่เข้าสกัดเพลิงและเร่งช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายใน เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

ข่าวแนะนำ

พระราชทาน ส.ค.ส.2568

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานบัตรพระราชทานพรปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานบัตรพระราชทานพรปีใหม่ พุทธศักราช 2568 แก่พสกนิกรชาวไทย

อวยพรปีใหม่

นายกฯ อวยพรปีใหม่ 2568 ขอคนไทยมีความสุข ปราศจากอุปสรรค-อันตราย

นายกฯ อวยพรวันขึ้นปีใหม่ 2568 ขอคนไทยมีความสุข ปราศจากอุปสรรค อันตรายทั้งปวงประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวัง เป็นปีแห่งโอกาสของทุกคน

สงขลาเคาท์ดาวน์

สงขลาจัดสถานที่เคาท์ดาวน์หลายจุดในตัวเมือง

หาดใหญ่เคาท์ดาวน์ 2025 ปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เนรมิตย่านธุรกิจการค้าบริเวณถนนตั้งแต่แยกสถานีรถไฟ ให้เป็นย่านแห่งสีสันด้วยการจัดแสดง Lighting บนตึกเก่าสไตล์ชิโนยูโรเปียน

เคาท์ดาวน์เชียงใหม่

เชียงใหม่เคาท์ดาวน์กลางดอกไม้ ส่งท้ายปีคอนเสิร์ต “แบมแบม”

เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงแล้วที่เราจะก้าวเข้าสู่ปีใหม่ งานอะเมซิ่งเชียงใหม่เคาท์ดาวน์ 2025 ซึ่ง ททท. ร่วมกับ จ.เชียงใหม่ ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์เชียงใหม่ เต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟ และคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว รวมทั้งแฟนคลับของ “แบมแบม” ที่จะมาร่วมส่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่