มหาวิทยาลัยรามคำแหง 9 พ.ย.- ภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ชุมนุมใหญ่ ลานพ่อขุนรามคำแหง ม.รามคำแหง หัวหมาก ออกแถลงการณ์พร้อมตอบโต้คณะราษฎรอย่างเข้มข้น พร้อมปฏิญานตนจงรักภักดี
ภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ประกอบด้วยกลุ่มศิษย์รามคำแหง ศิษย์เก่าอาชีวะ และ กลุ่มลูกพ่อขุน พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (ศ.ป.ป.ส.) และสมาชิกแนวร่วมกลุ่มไทยภักดี นัดชุมนุมใหญ่กลุ่มคนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ลานพ่อขุนรามคำแหง มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก โดยทยอยเดินทางมารวมตัวกันตั้งแต่เวลา 15.00 น.
จากนั้นในเวลา 16.30 น. ตัวแทนภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันแถลงข่าว นำโดย นายสมเดช คงวิจิตร์ นายทินกร ปลอดภัย ศิษย์เก่ารามคำแหง, นายทศพล มนูญรัตน์ ตัวแทนกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ, ร่วมกันอ่านแถลงการณ์จุดยืนของกลุ่มภาคีฯ
นายสมเดช คงวิจิตร์ อ่านแถลงการณ์ จุดยืนของกลุ่มภาคีเครือข่ายฯ ฉบับที่ 1 โดยมีใจความว่า สืบเนื่องจากการเคลื่อนไหวเรียกร้องของกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อคณะราษฎร ๖๓ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในข้อเรียกร้องที่เป็นการทำร้ายจิตใจประชาชนคนไทยเจ้าของแผ่นดินทั่วทั้งประเทศ คือ การใช้วาทกรรมให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แท้จริงแล้วกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่แสดงออกในหลายเวทีที่มีลักษณะ ก้าวล่วง เสียดสี ล้อเลียน ดูหมิ่น ทั้งหมดล้วนเป็นพฤติกรรมอันจาบจ้วงล่วงละเมิดให้สถาบัน เสื่อมเสียพระเกียรติอย่างจงใจและมีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน หาใช่การปฏิรูปตามกล่าวอ้างไม่ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจนตามสื่อต่างๆ
ภาคีเครือข่ายเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เห็นเจตนาอันจงใจลบหลู่ ดูหมิ่น ดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและทวีความรุนแรงหนักข้อขึ้นทุกที กระทำเช่นบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีหูไม่มีตา ไม่มีกฎหมาย จึงไม่อาจทนนิ่งเฉยอีกต่อไป จึงได้รวมตัวกันโดยนักศึกษา ประชาชน ผู้มีหัวใจจงรักภักดีร่วมกันจัดเวทีแสดงพลังรวมพลคนไทยขึ้น เพื่อร่วมกันปฏิญาณตนจะจงรักภักดีเยี่ยงชีพและจะไม่ยอมก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยอีกต่อไป
หลังจากวันนี้ เตรียมดำเนินกิจกรรมโต้กลับอย่างเข้มข้น หากจำเป็นต้องปิดถนนอย่างพวกเขา เราก็จะทำ รวมถึงจะได้รณรงค์ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ ที่ถูกต้อง แก่เยาวชน ประชาชนที่ถูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง ต่อไป
ทั้งนี้ ภายหลังการอ่านแถลงการณ์ นายทศพล มนูญรัตน์ ตัวแทนกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ กล่าวว่า กลุ่มอาชีวะฟันเฟือง ที่ออกมาปกป้องประชาชนในข้อเรียกร้องต่างเป็นความคิดของกลุ่มคนละกลุ่ม ที่คนไทยรับไม่ได้ ผิดไปจากกลุ่มอาชีวะส่วนใหญ่ และเป็นกลุ่มอาชีวะแตกแถว
นายทินกร ปลอดภัย ศิษย์เก่ารามคำแหง กล่าวว่า เหตุการณ์ทำร้ายนักศึกษา ในภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อ 21 ตุลาคม น่าจะมีความชัดเจนแล้วว่าเกิดจากการที่ลำโพงตกใสหรือทุ่มใส่ โดย วันที่ 10 พ.ย. นี้ กลุ่มอาชีวะฯ ที่ถูกออกหมายเรียกจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก พร้อมกับนำพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอไปมอบให้ด้วยพร้อมเรียกร้องไปถึงพี่น้องรามคำแหง ลูกพ่อขุน ออกมาอยู่เคียงข้างกัน และไม่สร้างวาทกรรมขึ้น
ด้านตัวแทนนักศึกษา ม.รามคำแหง เชิญชวนนักศึกษาที่ยังคงเป็นพลังเงียบ ออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบัน อย่างไรก็ตามภายหลังการแถลงข่าวทางภาคีได้ร่วมกันจับมือ และร่วมกันบูมพ่อขุนราม
ขณะที่นายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว ตัวแทน ศ.ป.ป.ส. ชี้แจงกรณีที่มีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวว่าทางกลุ่มรวมตัวยื่นจดหมายถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ผบ.ทบ. ในวันนี้ เพื่อ เรียกร้องให้มีการรัฐประหารชัตดาวน์ประเทศ หน้าทำเนียบฯ เพื่อให้เกิดการรัฐประหารนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งได้ชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้วว่าวานนี้ เพียงไปปักหลักสังเกตการณ์เท่านั้น จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงเพื่อไม่ต้องการให้ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องถูกเข้าใจผิด
จากนั้นตัวแทนภาคีเครื่อข่ายได้ร่วมกันจับมือ ก่อนเปิดกิจกรรมการต่อสู้กับคณะราษฎร และบูมพ่อขุน มีกิจกรรมบนเวที ทั้งการปราศรัยแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และกิจกรรมศาสตร์พระราชา สลับกับการแสดงดนตรี
18.00 น. ผู้ชุมนุมร่วมยืนตรงเคารพธงชาติ จากนั้น ยังคงสลับกันขึ้นเวทีปราศรัยอย่างต่อเนื่อง และยังมีการบรรยายพิเศษ โดยนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหงรุ่นที่ 7 ในหัวข้อเมื่อสถาบันฯ ถูกรังแก ซึ่งกิจกรรมมีกำหนดยุติในเวลา 21.00 น.
ภายหลังการชุมนุมของกลุ่มกลุ่มผู้ชุมนุม ภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ที่ลานพ่อขุน ภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก จนถึงเวลา 19.30 น กลุ่มผู้ชุมนุมได้ ร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าพระบรมราชานุสาว รีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (ม.ร.หัวหมาก) จะจงรักภักดี ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และกล่าวคำปฏิญาณร้วมปกป้องสถาบัน จากนั้นร่วมกันจุดเทียนถวายพระพร ร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเปล่งเสียงร้องทรงพระเจริญ ก่อนยุติการชุมนุม ในเวลา 19.50 น. .-สำนักข่าวไทย