fbpx

ประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จในหลวง-ราชินี

กทม. 1 พ.ย.-ประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยรอบท้องสนามหลวง ด้านนายบิณฑ์ และนายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ ระบุออกมาแสดงพลังบริสุทธิ์ ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

บรรยากาศบริเวณโดยรอบท้องสนามหลวง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ประชาชน สวมใส่เสื้อเหลือง ทยอยเดินทางมาจับจองที่นั่งโดยรอบ เพื่อเฝ้าฯ รับเสด็จ ในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาว ถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เวลา 17.00 น.


นายบิณฑ์ และนายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางมาในวันนี้ เป็นการออกมาแสดงพลังของคนไทย ในการแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เห็นว่าคนไทยมีความจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุด และทุกคนมาด้วยใจอันบริสุทธิ์ ไม่ให้สถาบันถูกจาบจ้วงหรือย่ำยี พร้อมกันนี้ ยืนยันว่าการออกมาแสดงพลังในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่ได้อยู่ฝ่ายใด ไม่ได้เป็นแกนนำปลุกระดมประชาชนให้เกิดม็อบชนม็อบ

ทั้งนี้ขอฝากไปยังกลุ่มที่มีความเห็นต่าง ว่า การแสดงความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองสามารถทำได้ แต่อย่าคิดต่างเรื่องของสถาบัน เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จะมาปฏิรูปสถาบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยเชิดชูมาหลายร้อยปี


นอกจากนี้ยังมี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี และนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ และกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน เดินทางมาเฝ้ารับเสด็จฯ ด้วย ทั้งนี้ได้มีการตั้งจุดคัดกรอง เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิให้กับประชาชนที่เดินทางมา ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมีอาหารพระราชทานและสิ่งของพระราชทานมามอบให้แก่ประชาชน

ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปลี่ยน เครื่องทรงฤดูฝน เป็นเครื่องทรงฤดูหนาว ถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้วเสร็จ ทรงเสด็จพระราชดำเนินจากประตูวิเศษไชยศรี ทรงทักทายประชาชนที่รอเฝ้ารับเสด็จฯ ตลอดเส้นทางถนนหน้าพระลาน ยาวต่อเนื่องมายังถนนราชดำเนินใน บริเวณหน้าศาลหลักเมือง โดยประชาชนต่างเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ ดังกึกก้อง จากนั้นได้เสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่งกลับ โดยประชาชนต่างแสดงความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด