กรุงเทพฯ 22 ต.ค.- ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่งกรณีนิสิตจุฬา ธรรมศาสตร์-พรรคเพื่อไทย- อดีตผู้พิพากษา ร้องขอให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเห็นว่าเป็นการบังคับใช้กฎหมายโดยมิชอบ ส่วนท่าทีนายกฯ บอกให้ถอยคนละก้าวนั้น ไม่ชัดเจน
กลุ่มนิสิตนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย- ธรรมศาสตร์, นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส พรรคเพื่อไทย และกลุ่มนายเกษม ศุภสิทธิ์ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษา จากกรณียื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อคุ้มครองกลุ่มผู้ชุมนุม ประชาชน และยื่นฟ้อง พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกฐานละเมิด ออกคำสั่งดังกล่าวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ด้านกลุ่มนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และธรรมศาสตร์ บอกว่า แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะประกาศขอให้ถอยคนละก้าว ทางกลุ่มยังไม่ได้พูดคุยหารือกัน แต่เห็นว่าคำพูดดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน ส่วนกรณีที่มีการจับผู้ชุมนุม ทางกลุ่มจะเดินหน้าเรียกร้องสันติวิธีและปกป้องผู้ที่ถูกดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ นพ.ชลน่าน มั่นใจว่าวันนี้ศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระหว่างที่มีการยื่นฟ้องดำเนินคดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บังคับใช้กฎหมายฉบับนี้โดยมิชอบ และมีพยานหลักฐานที่เชื่อว่าจะดำเนินคดีได้และแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ออกมาแถลงว่าจะยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเร็วๆ นี้ก็เห็นว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ยกเลิก และหากรอถึงการประชุมรัฐสภาในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ก็เห็นว่ายังมีระยะเวลานานเกินไป แต่ช่องทางของศาลจะเป็นช่องทางที่มีความเด็ดขาดแล้ว ส่วนการแถลงของนายกรัฐมนตรี ขอให้ถอยคนละก้าว เห็นว่าไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์มากนัก เพราะเป็นเหมือนการสร้างเงื่อนไข และจะทำให้เป็นการกระตุ้นให้มวลชนออกมามากขึ้น ซึ่งไม่เกิดประโยชน์กับฝ่ายใดเลย
ส่วนนายเกษม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้ยื่นคำร้องขอสำนวนนี้ไปยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำวินิจฉัยว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในครั้งนี้ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และหากมีความผิดจริง นายกรัฐมนตรีก็จะถือว่าละเมิดรัฐธรรมนูญในการบังคับใช้กฎหมาย และวันนี้มีความคาดหวังว่าศาลจะมีคำสั่งที่เป็นทางออกของปัญหาในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย