ภูเก็ต 25 ก.ย.- ลูกสาวเจ้าของที่ดินที่ปัจจุบันเป็นโรงแรมศรีพันวา ยืนยันที่ดินเป็นของตระกูล ได้เอกสารสิทธิมาถูกต้องก่อนขาย ยินดีให้ตรวจสอบ
จากกระแสเรียกร้องตรวจสอบที่ดินของโรงแรมดังกล่าวในจังหวัดภูเก็ต ล่าสุด นางสาวขวัญใจ คุ้มบ้าน บุตรสาวของนายเสน คุ้มบ้าน หนึ่งในผู้ครอบครองที่ดินก่อนขายเปลี่ยนมือสร้างโรงแรม เผยว่า ที่ดินบริเวณแหลมพันวาเกือบทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรม ยาวมาจนถึงพื้นที่ของทัพเรือภาคที่ 3 ในอดีตเคยเป็นของต้นตระกูลคุ้มบ้านและญาติพี่น้อง ในส่วนของตนมีจำนวน 12 ไร่ เป็นจุดที่ตั้งอาคารหลังแรกของโรงแรม มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย เพราะจำได้ว่า ขณะนั้นเรียนอยู่ชั้น ป.4 อายุประมาณ 10 ขวบ ประมาณปี 2527 เป็นผู้อ่านข้อมูลทั้งหมดให้กับพ่อตอนที่ทำหนังสือสัญญาซื้อขาย เพราะพ่ออ่านหนังสือไม่ออก
นางสาวขวัญใจ กล่าวว่า เท่าที่ทราบ โรงแรมมีพื้นที่ครอบครองเนื้อที่รวม 52 ไร่ ซึ่งอดีตหากไล่เรียงพื้นที่ครอบครองจากทางเข้าไปถึงปลายแหลม เคยเป็นของ นายเสน (พ่อ), นายสัน คุ้มบ้าน (อา) ถัดไปเป็นของนายสนิท คุ้มบ้าน และคนอื่นอีกหลายคน ซึ่งอดีตครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวเกือบทั้งอ่าว ก่อนแบ่งพื้นที่ยกให้สร้างหน่วยงานราชการหลายแห่ง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศ พื้นที่โดยรวมของแหลมในอดีต ไม่ได้เป็นป่า มีการใช้ประโยชน์ ปลูกพืชต่างๆ บริเวณส่วนปลายแหลม มีบ้านเรือนของโต๊ะอูเส็น กับโต๊ะอูหมาด ตั้งอยู่ ซึ่งลูกหลานทั้งสองก็ยังอาศัยอยู่ใกล้ๆ โรงแรมในปัจจุบัน สามารถสอบถามความจริงได้ทั้งหมด
ที่ออกมาพูดในวันนี้ เนื่องจากมีโพสต์โจมตีว่า ที่ดินอาจจะบุกรุกป่า ซึ่งไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ ยินดีให้ข้อมูลหากหน่วยงานไหนจะมาตรวจสอบ
ร้องดีเอสไอสอบที่ดินศรีพันวา
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ยื่นหนังสือต่อพันตำรวจโทกรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบกรณีที่ดินโรงแรมศรีพันวา โดยได้นำเอกสารจำนวน 162 หน้า ภาพถ่ายที่ดินพื้นที่โครงการ รวมทั้งภาพถ่ายบุคคลที่เกี่ยวข้อง นายวีระ กล่าวว่า ต้องการให้ตรวจสอบในประเด็นการได้มาของที่ดินของเจ้าของที่ดินคนแรกก่อนที่จะขายต่อให้โรงแรม ว่า น.ส.3 ก. และการขอออกโฉนดว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เชื่อว่าเอกสารสิทธิน่าจะออกโดยมิชอบ รวมทั้งให้ตรวจสอบถึงเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิให้ชื่อว่าอะไร เกี่ยวข้องกับนายธวัชชัย อนุกุล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดิน ผู้ต้องหาคนสำคัญคดีทุจริตออกโฉนดภูเก็ต-พังงา ที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวในห้องขังของดีเอสไอเมื่อปี 2559 ด้วยหรือไม่
ที่สำคัญเชื่อว่าการก่อสร้างโรงแรมอยู่บนเขาและภูเขา ที่มีความลาดชันเกินกฎหมายกำหนดด้วย หากพบว่ามีการกระทำความผิดขอให้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ และดำเนินคดีจนถึงที่สุด ทั้งนี้ เชื่อว่าที่ผ่านมามีความพยายามในการที่จะตรวจสอบโครงการนี้อยู่หลายครั้ง แต่ไม่สามารถดำเนินการได้และเชื่อว่าน่าจะมาจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐมีความเกรงใจหรือไม่กล้าตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาเนื่องจากเกรงผู้มีอำนาจ หรือผู้มีอิทธิพล
ด้านพันตำรวจโทกรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า หลังจากรับหนังสือแล้วจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูรายละเอียด ตรวจสอบในเรื่องนี้ โดยจะเร่งให้เจ้าหน้าที่ขอเอกสารจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งภายหลังจากมีข่าวเรื่องนี้เกิดขึ้น ตนได้สอบถามไปยังหน่วยงานของดีเอสไอที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ พบว่ายังไม่เคยมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีโรงแรมนี้เข้ามาก่อนหน้านี้เลย และการมาร้องของนายวีระในวันนี้ถือเป็นกรณีแรก โดยจะเร่งดำเนินการตรวจสอบตามกระบวนการให้ดีที่สุด
ทางด้านสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวในกรณีเรียกร้องตรวจสอบที่ดินโรงแรมดังกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่จะไปตรวจสอบ หรือทำอะไรที่ทำให้ประชาชนสับสนหรือตื่นตกใจ.-สำนักข่าวไทย