ตร.เตรียมเอาผิดผู้ชุมนุม ไม่เว้น ม.112

กทม.21 ก.ย.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าเอาผิดผู้ชุมนุมทุกข้อหาไม่เว้น ม. 112 ส่วนหมุดคณะราษฎร 63  ยันไม่รู้คนถอด แต่ถือเป็นของกลางในคดี


พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการเตรียมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์  และสนามหลวง วันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา หลังพบว่ามีแกนนำประมาณ 3-4 คน เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย แยกเป็นการกระทำผิดของแต่ละบุคคลทั้งการบุกรุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การใช้พื้นที่สนามหลวง และการพบเอกสารที่มีข้อความไม่เหมาะสม รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มผู้ชุมนุมนี้ด้วย

ขณะนี้ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งจะดำเนินคดีทุกข้อกล่าวหาโดยเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ไม่แจ้งจัดการชุมนุม และทุกข้อกฎหมายที่พบว่ามีความผิด ประกอบกับการแจ้งความร้องทุกข์ของผู้ที่มาแจ้งความไว้ที่ สน.ชนะสงคราม วันนี้ (21 ก.ย.)


ส่วนการปราศรัยบนเวทีของแกนนำจะเข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 หมิ่นสถาบันเบื้องสูงหรือไม่นั้น พลตรวจโทปิยะ กล่าวว่า หากพบว่ามีบุคคลร้องทุกข์และพบพยานหลักฐานว่ามีกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีในทุกมาตราขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีบุคคลใดมีความผิดนี้หรือไม่ โดยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดแล้ว

พลตำรวจโทปิยะ ยังกล่าวถึงหนังสือที่ผู้ชุมนุมยื่นข้อเรียกร้องผ่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ขณะนี้ได้ส่งมาให้ฝ่ายกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบแล้วว่ามีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง และเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดก็จะส่งมอบไปให้ตามขั้นตอน หากพบว่ามีข้อความที่ผิดกฎหมายก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน

ด้านพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีหมุดคณะราษฎร 63 ที่หายไปจากจุดที่กลุ่มผู้ชุมนุมฝังเอาไว้ โดยไม่ทราบว่าบุคคลใดเป็นผู้รื้อถอนหมุดดังกล่าวออก แต่หมุดนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในพยานหลักฐานและเป็นของกลางที่พนักงานสอบสวน จะต้องเก็บรักษาไว้ในการดำเนินคดีอาญากับกลุ่มผู้ชุมนุม เบื้องต้น ผกก.สน.ชนะสงคราม เป็นผู้เสียหายร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 10 คน กรณีจัดการชุมนุมโดยไม่แจ้ง


ส่วนการนัดรวมตัวชุมนุมกันในครั้งต่อไป ตำรวจยังยืนยันขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมาย และให้แจ้งการชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อที่จะได้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไปที่จำเป็นต้องผ่านเส้นทางการจราจร และดูแลความปลอดภัย ป้องกันภัยแทรกซ้อนของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งการชุมนุมต่างๆ สามารถกระทำได้ตามสิทธิและตามรัฐธรรมนูญ แต่หากมีการชุมนุมโดยมีนัยยะแอบแฝง ตำรวจไม่สามารถยินยอมได้ และมีการกระทำผิดกฎหมายก็จะต้องดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง