จิตแพทย์ชี้ปมฆ่าตัวตาย ไม่ได้เกิดแบบฉับพลัน

สธ.17 ก.ย.-สมาคมจิตแพทย์ ชี้ปมฆ่าผู้อื่นและฆ่าตัวตาย ไม่ได้เกิดแบบฉับพลัน แต่เป็นปัญหาสะสม และสะท้อนถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยสัญญาณการฆ่าตัวเกิดได้ เพียงสังเกต ชอบอยู่คนเดียว เก็บตัว สะสมอาวุธเสี่ยง แนะรับฟังด้วยหัวใจ ไร้ตำหนิ และเพิ่มรอยยิ้ม ช่วยแก้ปัญหา


นพ.ปราการ ถมยางกูร กรรมการสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงฆ่ายกครัว 5 ศพ ที่ทุ่งคุรุ กทม.ว่า ปัจจัยการฆ่าตัวเองหรือการฆ่าผู้อื่นและฆ่าตัวตายตาม ไม่ได้เป็นเรื่องฉับพลันทันใด แต่ต้องเป็นเรื่อง บ่มเพาะมาสักระยะหนึ่ง อาจเกิดจากความสัมพันธ์ในครอบครัวมีปัญหา หรืออาจเกิดการสารสื่อประสาท ที่มีความผิดปกติ ทั้งเซโรโทนิน โดปามีน เพราะปัจจัยการฆ่าตัวตายและผู้อื่นมีได้หลายสาเหตุ ปัจจุบันการฆ่าตัวตายมีเรื่องของภาวะเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หรือบางครั้งการฆ่าตัวก็อาจจะมาจากความหลงผิด หรือความเชื่อที่ผิด เช่น คิดเป็นการกำจัดปีศาจ หรือมองคนที่ครอบครัวเป็นสมบัติ หรือคิดว่าการฆ่าคนในครอบครัว เป็นการฆ่าด้วยความกตัญญูเพราะไม่อยากให้ต้องทนเผชิญกับความยากลำบาก

นพ.ปราการ กล่าวว่า สัญญาณเตือนว่าอาจมีความรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งฆ่าผู้อื่นหรือฆ่าตัวตายได้ ดูจากคำพูดการสื่อสารที่เปลี่ยนไป การปลีกตัวอยู่ลำพัง การบ่นหรือเปรยไม่อยากมีชีวิตอยู่ การค้นหาสะสมอุปกรณ์ที่จะทำร้ายตัวเอง อาวุธ หรือยาฆ่าแมลง ซึ่งอาจมีอาการเหล่านี้ คนรอบข้างควรสะกิดใจรับฟังเพื่อให้ได้ระบายปัญหาที่อัดอั้น ไม่ต้องเก็บไว้ลำพัง ผู้รับฟังควรฟังด้วยหัวใจ มีสติ ไม่ตำหนิต่อว่า ด่าทอ เข้าใจ ว่า ทางเลือกด้วยการฆ่าตัวตายเป็นการทนทุกข์ ดังนั้นต้องเข้าใจ และทุกการรับฟังความเพิ่มรอยยิ้ม ไม่ใช่ยิ้มให้กำลังใจ


นพ.ปราการ กล่าวว่า ในอดีตภาวะวิกฤติต้มยำกุ้ง มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงก็คล้ายๆ กับตอนนี้ ดังนั้นในภาวะวิกฤติที่คนเราต้องเผชิญปัญหา ขอให้ยึดหลัก อดทน แม้ว่าจะฟ้าฝนเมฆครื้มก็เป็นแค่ระยะเวลาหนึ่ง 2-3 เดือน ไม่นานก็คลี่คลาย เหมือนคนที่เผชิญวิกฤติต้มยำกุ้งที่บางคนฝ่าฟันไปได้ ขอแค่อดทน มีกำลังใจ และพยายามยิ้ม ไม่จะเป็นการแกล้งยิ้ม แต่หัวใจเรา ฝึกบ่อย ๆ มันก็จะยิ้มได้ ปัจจุบันพบว่ารอยยิ้มของคนไทย หรือรอยยิ้มสยามหายไป เพราะความเร่งรีบ ทำให้หลงลืม ความสุขเกิดจากความสงบ การค่อยๆดำเนินชีวิต ไม่เร่งรีบ ควรมองช่วง โควิดเป็นโอกาสได้อยู่กับตนเองได้แบ่งปัน และสำคัญอย่าหลงลืมการ รับฟังและสร้างรอยยิ้ม หากทุกข์อยากระบายให้คิดถึงสายด่วน 1323 .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก