กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – แบงก์ชาติชี้ แม้ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนกรกฎาคมดีขึ้น แต่ยังเปราะบาง หลังการลงทุนของเอกชนยังติดลบสูง และไร้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยต่อเนื่องเดือนที่ 4 โดยเตรียมปรับลดตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีลง จากที่เคยคาดการณ์ไว้ 8 ล้านคน พร้อมระบุกลุ่มแรงงานรายได้ลดลงน่าห่วงไม่แพ้คนตกงาน
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจเดือนกรกฎาคม2563 โดยระบุว่าเป็นไปตามที่ ธปท. คาดการณ์ไว้ ที่ปรับตัวดีขึ้น ตามการใช้จ่ายภาครัฐและการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังมีความเปราะบางสะท้อนจากเครื่องชี้การลงทุนของภาคเอกชน ยังหดตัวสูงขึ้น เนื่องจากกำลังการผลิตส่วนเกินยังมีอยู่มาก และภาคเอกชนยังมีความกังวลจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการระบาดโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ยังลังเลที่จะลงทุนเพิ่ม
ส่วนภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทย ที่ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ทั้งนี้ ธปท. เตรียมปรับลดตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยในปีนี้ลง จากเดิมที่คาดว่าทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งสภาพัฒน์คาดว่าจะมีเพียง 6.7 ล้านคน โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่หายไปก็มีผลต่อตัวเลขจีดีพีพอสมควร ทั้งนี้หากช่วงที่เหลือของปีไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาหรือเข้ามาน้อยก็จะส่งผลต่อตัวเลขเศรษฐกิจไทย ซึ่งหากจะดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามา รัฐบาลต้องมีมาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันการระบาดรอบ 2 ที่ขณะนี้มีความเสี่ยงมากขึ้นจากการที่เกิดการระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่การท่องเที่ยวในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้นส่วนหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของรัฐบาล โดยส่วนใหญ่จังหวัดที่ได้รับอานิสงค์คือจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
ขณะที่สถานการณ์ตลาดแรงงานแม้ปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ในภาพรวมยังมีความเปราะบาง โดยเฉพาะรายได้จากการทำงานที่ลดลง ซึ่งถือว่ามีความน่ากังวลไม่น้อยกว่ากลุ่มแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง ซึ่งภาครัฐจำเป็นต้องเข้ามาดูแลกลุ่มนี้ด้วย
ด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลง ส่วนหนึ่งจากการสิ้นสุดมาตรการบรรเทาค่าครองชีพของภาครัฐ ซึ่งมองไปข้างหน้าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงติดลบน้อยลงและจะยังไม่กลับมาเป็นบวก ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจและราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงเนื่องจากการส่งออกสินค้าทองคำ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายใกล้สมดุล .- สำนักข่าวไทย