“วิชา” ชี้สำนวนคดีบอส บกพร่องทุกจุด

คณะกรรมการกฤษฎีกา 17 ส.ค.-“วิชา” ติงสำนวนคดีบอส ตำรวจทำบกพร่องทุกจุด พบลงวันที่เท็จ พยายามทำให้สมเหตุสมผล ยังไม่ชัดเชิญ พล.ต.อ.สมยศ-พล.ต.อ.มนู” ให้ข้อมูล หลังพบเอกสารปูดปิดห้องก่อนพยานกลับคำ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะทำงานชุดตรวจสอบตำรวจที่มี พล.อ.กฤษณะ บวรรัตนารักษ์ เป็นประธาน ได้เชิญคณะทำงานของ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.ท.วีรดล ทัมทิบดี ซึ่งเป็นผู้กำกับ สน.ทองหล่อในขณะนั้นและเป็นเจ้าของสำนวนมาให้ข้อมูลกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต โดยมีนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน มาร่วมสังเกตการณ์ และซักถาม

โดยหลังจากใช้เวลาซักถามนานกว่า 3 ชั่วโมง นายวิชา เปิดเผยหลังร่วมประชุมว่า วันนี้ได้สอบทีมงานของ พล.ต.ท.เพิ่มพูน หลังไม่เห็นแย้งอัยการ ซึ่งได้คำชี้แจงว่า
ดูเฉพาะในสำนวนของตำรวจ ไม่ได้เปรียบเทียบกับสำนวนเดิมว่าแตกต่างกันอย่างไร จึงไม่ได้พบเห็นเรื่องของข้อพิรุธ ซึ่งทำตามแค่สายงาน ทั้งที่ความจริงแล้ว ตำรวจสามารถโต้แย้งได้และสอบทวนได้ แต่สรุปแล้ว ไม่ได้ทำอะไรเลย


นายวิชา กล่าวด้วยว่า ข้อที่น่าสนใจในวันนี้ คือ คำให้การของ พ.ต.ท.วีรดล ที่ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด พ.ต.ท.วีรดล จึงเชื่อพยานที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ 2 ปาก ทั้งที่อธิบดีผู้พิพากษา ศาลอาญากรุงเทพใต้ กับ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุดในขณะนั้น เห็นว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ จึงให้ยุติคำร้องขอความเป็นธรรม แต่ พ.ต.ท.วีรดล ให้ความเห็นว่าเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือ และที่เป็นปัญหาใหญ่สุด คือ พ.ต.ท.วีรดล ลงวันที่สอบ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะสอบวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 แค่ 1 ครั้ง แต่กลับไปลงวันที่ 2 มีนาคม 2559 ซึ่ง พ.ต.ท.วีรดล ก็ชี้แจงว่า ที่ลงวันที่ไว้ เพราะว่าอัยการเร่งรัด จึงอยากลงวันที่ไว้ล่วงหน้า และคิดว่าจะเรียก พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ มาให้ถ้อยคำอีกครั้งหนึ่งเพื่อความสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.วีรดล ให้การแบ่งรับแบ่งสู้ บางอย่างก็ยอมรับ บางอย่างก็บอกไม่ใช่ จึงจะมีการตรวจสอบอีกครั้ง หลังฟังคำให้การของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์

นายวิชา กล่าวอีกว่า ตนได้ซัก พ.ต.ท.วีรดล อีกว่า ทราบหรือไม่ว่า พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ พยายามจะขอให้การเรื่องความเร็วใหม่ โดยจะยืนยันที่ 177 กม.ต่อ ชม.เหมือนเดิม ซึ่ง พ.ต.ท.วีรดล ตอบว่า ขณะนั้นไม่ได้สนใจ เนื่องจากกำลังถูกตรวจสอบอีกคดีหนึ่งอยู่ จึงไม่เป็นอันทำอะไร จึงบอกไปว่า จบแล้ว ทั้งที่จริงแล้ว ยังไม่จบ

“อย่างนี้ล่ะ เราก็รู้แล้วว่ามันบกพร่องเกือบจะทุกจุด ที่ลงวันที่ผิด ลงวันที่เป็นเท็จ ใครเป็นคนทำเล่า ซึ่งมันบ่งบอกว่ามีความพยายามทำให้เห็นว่าสอบสวนถึง 2 ครั้ง แต่ที่จริงแล้ว สอบแค่วันเดียว” นายวิชา กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า คนที่บกพร่องคือตำรวจใช่หรือไม่ นายวิชา ย้อนถามว่า คนที่ลงวันที่ผิด ใครเป็นคนทำ

ส่วนที่มีการปรากฎชื่อของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่พานายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มาพบกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ และ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่พบว่ามีการปิดห้องคุย ก่อนที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จะกลับคำให้การเรื่องความเร็วรถ จำเป็นจะต้องเชิญมาให้ข้อเท็จจริงหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า หลังจากสืบพยานที่เกี่ยวข้องแล้ว ต้องปรึกษาหารือหลังจากที่สอบ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ เสร็จสิ้น และจะดูอย่างละเอียดว่ามีข้อสังเกตใดหรือไม่ ไม่ได้สักแต่ว่าสอบเรื่อย ๆ แต่จะดูประเด็น และวันนี้ก็เห็นชัดเจนถึงความบกพร่องและความเป็นเท็จของการทำสำนวน

นายวิชา กล่าวอักว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.) จะเชิญ พล.ต.ท.เพิ่มพูน และ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ มาชี้แจงที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถนนพระอาทิตย์ ส่วนเรื่องความปลอดภัยของพยาน ขณะนี้ได้ประสานกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ดูแลเรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง พยานคนสำคัญในคดี โดยสรุปแล้วมีความเชื่อมโยงถึงบุคคลอื่นหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่จะมีการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลอีกครั้ง

เมื่่อถามย้ำว่า คณะกรรมการยังสงสัยประเด็นนี้อยู่ใช่หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ต้องขอดูผลชันสูตรศพ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี