BIG STORY: ย้าย ผบก.น. 5 พร้อม 4 เสือ สน.ทุ่งมหาเมฆ เซ่นยิงกันในบ่อนย่านพระราม 3

กทม. 4 ส.ค. – สั่งย้ายผู้การนครบาล 5 พร้อม 4 เสือ สน.ทุ่งมหาเมฆ เซ่นเหตุยิงกันในบ่อนพนันย่านพระราม 3 ส่วน “ชูวิทย์” ตั้งโต๊ะแถลงเปิดโปงธุรกิจบ่อนพนัน อ้างบ่อนดังกล่าวลอบเปิดมานานนับสิบปี และเหตุการณ์ยิงกันในบ่อนไม่เคยเกิดขึ้นมา 30 ปีแล้ว


สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 22.00 น. ภายในอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น บนถนนพระราม 3 ซอย 66 แขวงช่องนนทรี โดยในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต 4 ศพ หนึ่งในนั้นคือ พันตำรวจตรีวัทธเศรษฐ์ สำเนียงประเสริฐ สารวัตร (สอบสวน) สน.แสมดำ อายุ 32 ปี หรือ “สารวัตรแม็กซ์” ส่วนอีก 3 คน ประกอบด้วย นายถาวร สีสด อายุ 51 ปี, นางสาวพีรญา นุ่มละมูล อายุ 44 ปี และนางเมา เซรีย์โปฟ สัญชาติกัมพูชา อายุ 29 ปี ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุได้หลบหนีไปได้ โดยมีข้อมูลว่าขณะเกิดเหตุชาวบ้านละแวกใกล้เคียงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด

ด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลางเข้าตรวจสอบหาวัตถุพยาน โดยพบคราบเลือดและร่องรอยกระสุนหลายจุด พร้อมเก็บปลอกกระสุน 9 มม. ได้ 20 ปลอก และปืนพก 1 กระบอก ใกล้กับจุดที่พบศพนายถาวรในห้องน้ำ และจากการตรวจวิถีกระสุนพบการใช้ปืนมากกว่า 1 กระบอก แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัด อีกทั้งพบร่องรอยเขม่าดินปืนที่ร่างของ “สารวัตรแม็กซ์” และผู้ตายอีกคน คือนายถาวร


ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในขณะนั้น หลังจากนั้นในช่วงเที่ยงได้เรียกผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 และตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เข้าชี้แจง

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับว่าจุดดังกล่าวมีการลักลอบเล่นการพนัน แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นบ่อนการพนันหรือไม่ ส่วนเหตุยิงกันเชื่อว่าเป็นความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างผู้ก่อเหตุกับสารวัตรแม็กซ์ โดยสารวัตรแม็กซ์ไม่ได้เข้าไประงับเหตุ หรือได้รับมอบหมายให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด และเชื่อว่าก่อนเกิดเหตุได้มีความพยายามเจรจายุติปัญหา แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่กัน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบกล้องวงจรปิด

ด้านพลตำรวจตรีโชคชัย งามวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากผู้บังคับบัญชาของสารวัตรแม็กซ์ว่า ผู้ตายชอบเล่นการพนัน แต่จะเล่นมากน้อยเพียงใด หรือมีหนี้สินหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด โดยที่ผ่านมายังไม่พบว่าบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่


ด้านนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยยอมรับว่าการกวาดล้างเป็นไปด้วยความยากลำบากเหมือนแมวไล่จับหนู เพราะมีทั้งบ่อนลอย และบ่อนวิ่งที่หลบหลีกเจ้าหน้าที่ หากพบใครอยู่เบื้องหลังต้องรับผิดชอบ พร้อมขอให้ประชาชนร่วมแจ้งเบาะแส ส่วนกรณีกล้องวงจรปิดที่ไม่มีในจุดเกิดเหตุนั้นจะรับไปตรวจสอบให้

ด้านพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ทั้งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบที่ปล่อยปละให้เกิดเรื่องยิงกันในบ่อนขึ้น และเชื่อว่าหากจะจับจริงก็สามารถทำได้ พร้อมเผยข้อมูลว่าการเปิดบ่อนในปัจจุบันนั้น ใครเป็นเจ้ามือจะไปเช่าที่เปิด และอาจทำรายได้วันละ 12 ล้านบาท

ขณะที่ล่าสุดนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง แถลงเปิดโปงเกี่ยวกับบ่อนการพนันแห่งดังกล่าว พร้อมเขียนแผนผังข้อมูลบ่อน อาทิ บ่อนใคร, ที่มาของบ่อน และข้อมูลอื่นๆ โดยอ้างว่าบ่อนนี้เป็นของคนที่ชื่อว่า “เฮียตี้” ปักหลักลอบเปิดให้เล่นที่ย่านพระราม 3 มานานนับสิบปี ภายในบ่อนแบ่งออกเป็นโซนๆ มีจำนวนประมาณ 30 โต๊ะ อย่างไรก็ตาม ตามหลักฐานในคดีนี้คงไม่สามารถไปเอาผิดกับ “เฮียตี้” ได้ เพราะไม่มีหลักฐานเกี่ยวข้องกับบ่อนพนัน

นายชูวิทย์ให้ข้อมูลว่า การยิงกันในบ่อนการพนันเกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อ 30 ปีก่อน ทำให้เหตุครั้งนี้สะเทือนวงการตำรวจอยู่ไม่น้อย ฉะนั้นตำรวจต้องออกมาพูดความจริง พร้อมกันนี้ยังเปิดเผยว่าบ่อนออนไลน์มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท และเปิดเผยข้อมูลเด็ดว่ามีดาวรุ่งคนหนึ่งที่ทำบ่อนพนันออนไลน์และกำลังมาแรง โดยเป็นนายตำรวจอักษรย่อ “ซ.” โดยร่ำรวยถึงขั้นจะซื้อกิจการอาบ อบ นวด ในกรุงเทพฯ เกือบทั้งหมดได้

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจนครบาลมีคำสั่งย้าย 5 นายตำรวจระดับสูงในพื้นที่ ทั้งผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 และตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ทั้งผู้กำกับการ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สารวัตรป้องกันและปราบปราม และสารวัตรสืบสวน ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการปล่อยปละละเลยจนมีการเปิดบ่อนพนันหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

ทหารชายแดนสระแก้วซ้อมรบพร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ

สระแก้ว 12 มิ.ย. – ทหารชายแดนสระแก้วซ้อมรบด้วยกระสุนจริง พร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ หากมีคำสั่งจากหน่วยเหนือ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที กองกำลังบูรพา พร้อมด้วยกองกำลังเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12 (ฉก.ร.12) กองพันที่ 2 ได้ทำการจัดการฝึกยิงอาวุธประจำกายของกำลังพล ด้วยกระสุนจริง บริเวณพื้นที่เขาอีด่าง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อยกระดับความชำนาญในการใช้อาวุธประจำกายของแต่ละบุคคลตามตำแหน่งหน้าที่ พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมในการปกป้องดินแดนอธิปไตยของชาติ และการรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน โดยเน้นการเพิ่มทักษะและความแม่นยำในการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ประจำอยู่กับแต่ละกำลังพล หากมีคำสั่งจากหน่วยเหนือก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ในทันทีทุกเวลาเพื่อความสงบสุขของประชาชนคนไทย.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เรียกถกด่วน หลังพบการรุกป่าพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

บ้านพิษณุโลก 12 มิ.ย.-นายกฯ เรียกปลัด ก.ทรัพย์ฯ – เสนาธิการทหารบก ประชุมด่วน หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ แม่ทัพภาค 2 รายงานพบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน-พื้นที่อุทยาน เป็นปัญหาตรวจสอบพื้นที่ตามแนวชายแดน เร่งเพิ่มเส้นทางตรวจการณ์อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ภายหลังเรียกประชุมด่วนเมื่อช่วงเช้า กับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก และหัวหน้าเขตอุทยาน 5 เขตแนวชายแดน ว่า เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ที่ดิฉันและคณะได้ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ท่านแม่ทัพภาคที่2 ได้รายงานอีกเรื่องที่สำคัญค่ะ คือการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและพื้นที่อุทยาน ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาเรื่องการเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เนื่องจากเป็นพื้นที่ตามแนวชายแดน และไม่มีเส้นทางทำให้การปฏิบัติงานเป็นได้ด้วยความยากลำบากและล่าช้า วันนี้ดิฉันจึงขอประชุมด่วน โดยมีท่านปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ หัวหน้าเขตอุทยานทั้ง 5 เขตแนวชายแดน และเสนาธิการทหารบกร่วมพูดคุยกัน แผนงานที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การเพิ่มเส้นทางในการตรวจการณ์พื้นที่อุทยาน การป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติบริเวณชายแดนให้อยู่ในสภาพดี เพียงพอสำหรับการอำนวยความสะดวก และลดระยะเวลาเดินทางให้กับเจ้าหน้าที่ รวมถึงแผนเร่งพัฒนาระบบการสื่อสารและไฟฟ้าให้มีความเสถียร เพื่อให้การประสานงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น การปฏิบัติงานตามแนวชายแดนมีหลายสิ่งที่ต้องเร่งจัดการ […]

หนุ่มออสเตรียชักเกร็งหมดสติ หามส่ง รพ. เจอยาบ้าเต็มท้อง

กทม. 12 มิ.ย. – หนุ่มออสเตรีย ปวดท้อง ถูกส่งตัวจากสนามบินดอนเมืองไปโรงพยาบาลรักษาตัว ขณะรักษาเจอยาบ้า 255 เม็ด หลุดออกมาจากลำไส้ คาดกลืนยาเสพติดเข้าไปแล้วถุงยาแตก ทำให้ปวดท้องหนัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจหัวหมากได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านสวนหลวง ว่าได้รับตัวชายชาวต่างชาติมาจากสนามบินดอนเมือง เนื่องจากชายคนดังกล่าวมีอาการชักเกร็ง เมื่อถึงโรงพยาบาลประเมินอาการก่อนการรักษา แพทย์พบมีน้ำสีชมพูออกมาทางทวารของผู้ป่วย จึงทำการ CT SCAN พบวัตถุก้อนกลมๆ จำนวนหนึ่ง อยู่ภายในท้อง และวัตถุดังกล่าวจำนวน 1 ก้อน ได้หลุดออกมาจากทวาร มีลักษณะคล้ายห่อสิ่งเสพติด แพทย์จึงแจ้งตำรวจตรวจสอบ ผลปรากฏว่า ห่อดังกล่าวบรรจุยาบ้าชนิดกลม-แบน สีแดง มีตัวอักษร WY ปั๊มอยู่ เมื่อนับจำนวนพบมีทั้งหมด 255 เม็ด ไม่นับรวมที่เหลืออยู่ในท้องของผู้ป่วยซึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ส่วนผู้ป่วย ตรวจสอบแล้ว ชื่อว่า นายกานท์เนอร์ อายุ 43 ปี สัญชาติออสเตรีย ขณะทำการตรวจยึดผู้ป่วยไม่ได้สติ รอการผ่าตัด ทำให้คาดว่าผู้ป่วยกลืนถุงยาบ้า […]

จากด่านสู่ดุลอำนาจ

จากด่านสู่ดุลอำนาจ : ไทย-กัมพูชา กับบทบาทใหม่ของเศรษฐกิจ

ใครพึ่งใคร? – วิเคราะห์แรงกดดันเศรษฐกิจชายแดนต่อกัมพูชา หลังไทยจำกัดการข้ามแดน กรณีพิพาทบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี แม้เคยเกิดเหตุปะทะเล็กน้อยระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย แต่ในเวลาต่อมา กัมพูชาตัดสินใจถอยกำลังออกจากพื้นที่ โดยไม่มีการยกระดับความขัดแย้ง กลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญของ “ความมั่นคงยุคใหม่” ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเป็นตัวตัดสิน หากแต่เกิดจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ไทยเลือกใช้ แทนการเผชิญหน้าด้วยแสนยานุภาพ ผ่าน “มาตรการจำกัดการข้ามแดน” ที่บีบช่องทางการเคลื่อนย้ายคน สินค้า และระบบโลจิสติกส์ โดยเฉพาะที่ด่านอรัญประเทศ – จุดยุทธศาสตร์ซึ่งถือเป็นหัวใจของการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา จุดเปลี่ยน : เมื่อเศรษฐกิจกลายเป็นเครื่องมือของความมั่นคงไทยเลือกใช้ “แรงบีบเชิงเศรษฐกิจโดยสันติวิธี” เป็นกลยุทธ์กดดันคู่ขนานกับการเจรจา ผ่านมาตรการสำคัญ ได้แก่ : ไทยยังส่งสัญญาณชัดว่า พร้อมจะยกระดับมาตรการเหล่านี้ หากสถานการณ์ตามแนวชายแดนยังตึงเครียด มาตรการซึ่งสำหรับกัมพูชาแล้ว เปรียบเสมือนกดทับ “เส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจ” ของฝั่งตะวันตกที่ต้องพึ่งพาการค้าข้ามแดนจากไทยเป็นหลัก ไทย : ผู้ถือ “กุญแจด่าน” และพลังการค้าข้ามพรมแดนข้อได้เปรียบของไทยยิ่งชัดเจน เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการค้าข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ (เมษายน 2568) ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชามีมูลค่ารวม 64,612 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น […]