เมลเบิร์น 3 ส.ค. – ยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั่วโลกแตะ 18 ล้านคน ขณะที่สถานการณ์ระบาดยังคงรุนแรงต่อเนื่อง หลังนครเมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย ประกาศเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกกว่า 687,000 คน หลังองค์การอนามัยโลกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อหกเดือนก่อน และตรวจพบการระบาดครั้งแรกในจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว หลายประเทศตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อกลุ่มก้อนใหม่ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยควบคุมการระบาดได้ดี ส่งผลให้ทางการต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ แม้วิตกกังวลเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจ ดังเช่นรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลีย ที่ประกาศใช้มาตรการเข้มงวดอีกครั้งเมื่อวานนี้ รวมถึงคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า ห้ามจัดงานแต่งงาน และสั่งให้โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเปิดการสอนรูปแบบออนไลน์ แม้ว่าทางการรัฐวิกตอเรียได้บังคับใช้มาตรการเข้มงวด แต่ก็ยังตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่หลายร้อยคนต่อวันในนครเมลเบิร์น ในขณะที่รัฐอื่น ๆ ของออสเตรเลียมีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีเลย
หลายประเทศทั่วโลกยังคงเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในแอฟริกาใต้รายงานว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อมากกว่า 500,000 คน หลังทางการประกาศผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด ส่งผลให้แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงที่สุดในทวีปแอฟริกา แม้ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้ ระบุว่า อัตราการเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวในแอฟริกาใต้ยังต่ำกว่าอัตราเสียชีวิตเฉลี่ยทั่วโลก ด้านกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาและประเทศในแถบทะเลแคริบเบียน มียอดผู้เสียชีวิตรวมกันมากกว่า 200,000 คน โดย 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตอยู่ในบราซิลและเม็กซิโก ขณะที่อิหร่านรายงานว่า มียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 1 เดือน และพบการระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายจังหวัดของประเทศอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย