ทอท.รับผู้โดยสารวูบหนัก แต่มั่นใจไม่ขาดทุนในปีนี้

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. -ทอท.ยอมรับผู้โดยสารวูบ 70% เสี่ยงขาดทุนปีหน้า แต่จะไม่ชะลอแผนการลงทุน เพื่อรอรับการกลับมาขยายตัวธุรกิจการบินหลังปี 65 และ เตรียมดัน 4 กลุ่มธุรกิจต่อยอดรายได้ฝ่าวิกฤติโควิด-19 พ่วงแผนผนึกกำลังบริษัทลูกคุมกิจการสนามบิน


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)หรือ ทอท. เปิดเผยว่า วิกฤติโควิด-19 ส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการบิน ทั้งด้านผู้ประกอบการเที่ยวบินต้นทุนต่ำ ทราบมาว่ามีสภาวะพนักงานล้นเกินความต้องการ (Over Employment) จึงต้องพยายามรักษาอัตราจ้างงานไว้ ขณะที่สายการบินแห่งชาติอยู่ระหว่างพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ ขณะที่ ทอท .เอง เจอสภาวะตัวเลขผู้โดยสารลดลงมากจนถึงจุดต่ำสุดและคาดว่าจะใช้เวลาฟื้นกลับมาเป็นปกติในเดือน ตุลาคม 2565 หรืออีกกว่า 2 ปีนับจากนี้ โดยเฉพาะช่วงที่ไทยยังไม่เปิดประเทศ ผู้โดยสารรวมของ ทอท.จะเหลือยอดอยู่เพียง 25% จากยอดผู้โดยสารปกติ


เนื่องจากเที่ยวบินระหว่างประเทศผู้โดยสารต่างชาติหายไปทั้งหมด และเที่ยวบินภายในประเทศชาวต่างชาติที่เป็นสัดส่วน 50% ไม่มีการเดินทาง อย่างไรก็ตามสำหรับตัวเลขผู้โดยสารล่าสุดในวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 พบว่ามีผู้โดยสารเพียง 52,000 คน/วัน จากช่วงปกติมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 140,000 คน แบ่งเป็น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เหลือ 15,000 คน จากเดิม 187,000 คน/วัน ลดลง 91.6% ท่าอากาศยานดอนเมือง เหลือ 40,000 คน/วัน จากเดิม 114,000 คน/วัน ลดลง 65% ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ตลดลง 84% ท่าอากาศยานหาดใหญ่ลดลง 35% และท่าอากาศเชียงรายลดลง 40%


ดังนั้น ทอท.คาดการณ์ผู้โดยสารตลอดปี 2563 จะหดตัวลง 72% เหลือ 38.81 ล้านคน เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งมียอดผู้โดยสาร 141 ล้านคน ขณะที่ปี 2564 ตัวเลขผู้โดยสารจะเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งที่ 14% ยอดรวมทั้งปี 55 ล้านคน ส่วนปี 2565 ตัวเลขผู้โดยสารจะเติบโตต่อเนื่องที่ 132% ยอดรวมทั้งปี 128 ล้านคน จากนั้นปี 2566 ตัวเลขผู้โดยสารจะกลับมาเติบโตกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดอีกครั้งที่ 150 ล้านคน ส่งผลให้ ทอท.ต้องเดินหน้าลงทุนพัฒนาสนามบินต่อเนื่องและยืนยันว่าจะไม่หยุดลงทุนเพื่อเตรียมพร้อมรับยุครุ่งเรืองของตลาดการท่องเที่ยวไทยอีกครั้ง

“สภาวะตลาดการบินจะยังคงมืดมิดและคาดการณ์ไม่ได้จนกว่าจะมีวัคซีนรักษาโควิด-19 ถือเป็นอุปสรรคของ ทอท.ซึ่งต้องแบกรับต้นทุนไปพร้อมกับลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2563-2564 มีความเสี่ยงที่จะเจอปัญหาสภาพคล่อง จนต้องเตรียมแผนสำรองเพื่อรับมือ แต่ทุกอย่างนี้ต้องอยู่บนเงื่อนไขว่าจะไม่มีโควิดระลอกที่ 2” นายนิตินัยกล่าว

นายนิตินัยกล่าวถึงผลประกอบการของ ทอท.ว่า แม้ปี 2563 ทอท.ยังไม่ขาดทุน เนื่องจากมีรายได้สะสมไว้แล้วจากช่วงพีคของการท่องเที่ยวช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ดังนั้นปัญหาสภาพคล่องและสภาวะขาดทุนของ ทอท.อาจเกิดขึ้นในปี 2564 ซึ่งถือเป็นอีกปีที่ตัวเลขผู้โดยสารตกต่ำมาก แม้ปัจุบันจะมีเงินสดในมือ 50,000 ล้านบาท แต่ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะไม่เพียงพอในปี 2564 จากงบเบิกจ่ายและลงทุนต่อเนื่อง หลังจากนี้จึงต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง หากมีความจำเป็นต้องกู้คงดำเนินการกู้ภายในประเทศ ซึ่งมี 2 รูปแบบ คือ 1.กู้สถาบันการเงิน 2.ออกหุ้นกู้(บอนด์) เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ทั้งนี้สมมติฐานทั้งหมดอยู่บนเงื่อนไขที่ว่าไม่มีการแพร่ระบาดโควิด ระลอกที่ 2
เมื่อผู้ประกอบการแบกรับต้นทุนหนักอึ้งและผู้โดยสารลดลงอย่างรุนแรง ส่งผลโดยตรงกับกิจการเกี่ยวเนื่องภายในสนามบิน ซึ่ง ทอท.มองเห็นปัญหาอยู่ 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.ครัวการบิน 2.คลังสินค้า 3.บริการภาคพื้น 4.ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เพราะมีความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการรายเดิมอาจปิดกิจการ จนอาจส่งผลกระทบงานบริการผู้โดยสารภายในสนามบิน โดยเฉพาะกลุ่ม คลังสินค้าและบริการภาคพื้น ซึ่งมีผู้ประกอบการเพียงไม่กี่ราย หากรายใหญ่ล้มเลิกไป รายที่เหลือไม่มีศักยภาพเพียงพอบริการผู้โดยสารแน่นอน ขณะที่กลุ่มครัวการบินยังคงไม่มีความแน่นอนว่า การบินไทย จะเดินไปทางไหนต่อ ดังนั้น ทอท.จึงเตรียมสรุปข้อมูลเพื่อเสนอคณะกรรมการ ทอท.เพื่อเตรียมมาตรการรองรับ เช่น การเตรียมความพร้อมบริษัทลูกของ ทอท.เพื่อเข้าไปดำเนินงานแทนผู้ประกอบการเดิม


สำหรับแผนการเพิ่มรายได้ในช่วงวิกฤติการบินปี 2563-2564 นั้น ทอท.ได้ต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ใหม่ไว้ 4 ด้าน โดยทุกกลุ่มธุรกิจจะเริ่มทำเงินในปี 2564 ประกอบด้วย 1.ศูนย์รับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร (Certify Hub) จดทะเบียนบริษัทแล้วเสร็จ ส.ค.นี้ก่อนเปิดบริการเต็มรูปแบบในเดือน ธ.ค.ปลายปีนี้ 2.เมืองการบินสุวรรณภูมิ (Airport City) ขณะนี้แปลงสีผังเมืองเสร็จแล้ว เปิดให้เอกชนเริ่มลงทุนในเดือน ก.ย.-ต.ค. ควบคู่ไปกับการขยายสัญญาสัมปทานที่ดินแปลงบี 723 ไร่ ให้หมดอายุในปี 2595 จากเดิมปี 2575 เพื่อจูงใจนักลงทุน 3.บริษัทลูก ทอท. ขณะนี้เริ่มให้บริการด้านภาคพื้นแล้วที่สนามบินดอนเมืองและจะขยายไปสนามบินภูเก็ตเร็วๆนี้ 4.แอพพลิเคชั่น AOT Airports พบว่าได้รับความนิยมอย่างมากมีผู้ดาวน์โหลดถึง 500,000 ครั้ง สูงกว่าสนามบินชั้นนำในต่างประเทศขึ่งมียอดดาวน์โหลดเพียง 200,000 ครั้ง

ส่วนด้านข้อพิพาทหนี้สินกับการบินไทยนั้น ยังต้องรอดูความชัดเจนของศาลล้มละลายกลางวึ่งจะมีคำตัดสินในวันที่ 17 ส.ค.นี้ เบื้องต้นพบว่าตัวเลขหนี้ดังกล่าวไม่กระทบต่องานบริการสนามบินของ ทอท. เพราะมีวงเงินไม่มาก แบ่งเป็น หนี้สินค้างจ่ายหมุนเวียน 700-800 ล้านบาท และหนี้สินข้อพิพาทด้านการใช้ที่ดินราว 2,000 ล้านบาท ขณะที่สัญญางานเดิมระหว่าง ทอท.และการบินไทยเมื่อเปลี่ยนเป็นเอกชนแล้ว ต้องเปลี่ยนสัญญามาใช้รูปแบบการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) แทน

สำหรับความคืบหน้าด้านโครงการอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทิศเหนือ (North Expansion) วงเงิน 42,000 ล้านบาท ที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้เห็นชอบ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาพัฒน์ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป ขณะที่โครงการรันเวย์ 3 วงเงิน 22,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ใช่วง ต.ค.นี้ ใช้เวลา 2 ปี แล้วเสร็จช่วงปลายปี 2565 ส่วนด้านโครงการพัฒนาสนามบินดอนเมืองเฟส 3 วงเงิน 32,000 ล้านบาทนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งขั้นตอนจะไม่ช้าแน่นอน เพราะเป็นการพิจารณาร่วมกันภายในกระทรวงคมนาคม ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอื่นแล้ว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]