ทลายเครือข่าย “ตี๋ใหญ่ 888” ยึดทรัพย์กว่า 50 ล้านบาท

5 พ.ค. – ตำรวจกองปราบ ลุยค้น 5 จังหวัด ทลายเครือข่ายเจ้าพ่อเว็บพนันอีสานใต้ “ตี๋ใหญ่ 888” ยึดทรัพย์กว่า 50 ล้านบาท


วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ป. กว่า 80 นาย เปิดปฏิบัติการถอนสมอเจ้าพ่อเว็บพนันอีสานใต้ “ตี๋ใหญ่ 888” นำกำลังปูพรมเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 14 จุด ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.บุรีรัมย์ จ.นครนายก และ จ.ชลบุรี

จากปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจับกุม เจ้าของเว็บ, บุคคลที่ทำหน้าที่บัญชีม้า, แอดมิน, คนทำบัญชี รวมถึงคนเล่นพนัน รวม 13 ราย ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือ ชักชวน ให้ผู้อื่นเล่นพนันออนไลน์, ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน, ร่วมกันฟอกเงิน และ สมคบฟอกเงิน” พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์ 23 คัน โฉนดที่ดิน 49 รายการ ของใช้แบรนด์เนม 46 รายการ ทองคำ 5 รายการ อาวุธปืน 1 กระบอก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 22 รายการ สมุดบัญชีธนาคาร 30 เล่ม บัตร ATM 29 ใบ และพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 160 รายการ รวมมูลค่า 50 ล้านบาท


สำหรับปฏิบัติการ “ถอนสมอตี๋ใหญ่ 888” สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “ตี๋ใหญ่ 888” เคยถูกเจ้าหน้าที่บุกทลายไปเมื่อประมาณปี 2566 แต่ต่อมากลุ่มเครือข่ายเว็บพนันดังกล่าวไม่เข็ดหลาบ กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง โดยเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ใหม่ พร้อมทั้งเปิดให้บริการเล่นพนันแบบเต็มรูปแบบ ทั้งแทงบอล บาคาร่า สล็อต และเกมเสี่ยงโชคเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังพบว่ามีการนำเงินที่ได้มาจากธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ ไปฟอกขาวผ่านธุรกิจถูกกฎหมาย อย่าง บริษัทรับเหมาก่อสร้าง, เต๊นท์เช่ารถ ที่เปิดขึ้นมาเพื่อบังหน้าอำพรางธุรกรรมการเงิน

ประกอบกับการกลับมาเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ใหม่อีกครั้งของเครือข่ายนี้ยังสร้างผลกระทบต่อสังคมเป็นอย่างมาก หลังพบว่าเยาวชน และ ประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานหลายจังหวัด ติดการพนันอย่างหนัก ชีวิตครอบครัวพังทลาย กลายเป็นหนี้สิน บางรายคิดสั้น ขณะที่อาชญากรรมความรุนแรงในพื้นที่ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล โดยเฉพาะกรณีเด็กและเยาวชนที่เริ่มก่อเหตุรุนแรง เช่น การชิงทรัพย์ หลังเสียพนันหมดตัวจากโลกออนไลน์

ตำรวจกก.3 บก.ป. จึงจัดกำลังลงพื้นที่เร่งสืบหาข้อมูลเบาะแส เพื่อกวาดล้างขบวนการดังกล่าวให้สิ้นซาก ตั้งแต่หัวหน้าขบวนการ เจ้าของเว็บไซต์ ไปจนถึงระดับลูกน้อง จนกระทั่งพบเบาะแสสำคัญ นำไปสู่การเปิดโปงเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายนี้ หลังพบว่า นายทุนหรือเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าว คือ นายนิธิทิวัตถ์ อายุ 53 ปี และ น.ส.นวพร อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา ที่ปัจจุบันใช้ชีวิตหรูหรา ขับรถหรู เที่ยวเมืองนอก


จากการตรวจสอบยังพบว่า เว็บไซต์ “ตี๋ใหญ่ 888” เปิดมาตั้งแต่ปี 2565 โดยมีการเปลี่ยนชื่อ เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า ในช่วงระยะเวลาเพียง 2 ปี มีเงินหมุนเวียนในระบบรวมกว่า 600 ล้านบาท และยังพบว่าเครือข่ายเว็บพนันดังกล่าวมีการจัดทำรูปแบบการบริหารเงินอย่างเป็นระบบ และมีความซับซ้อนยากต่อการตรวจสอบ ด้วยการใช้บัญชีธนาคารในประเทศ และ e-wallet ในการรับโอนเงิน ก่อนแยกกระจายไปยัง “บัญชีม้า” ที่มีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติ หรือมีความใกล้ชิดกัน แม้แต่ละบัญชีจะมีเงินหมุนเวียนในระยะเวลาสั้นๆ เป็นจำนวนมหาศาล แต่กลับไม่มีเงินคงเหลือในบัญชี

เจ้าหน้าที่จึงเร่งแกะรอยทุกธุรกรรมทางการเงินอย่างละเอียด พร้อมรวบรวมหลักฐานให้แน่นหนา จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการบุกทลายเครือข่ายดังกล่าว เพื่อขุดรากถอนโคนอาณาจักรพนันออนไลน์ให้หมดไป จนนำมาสู่การจับกุม สองสามีภรรยาพร้อมกลุ่มบัญชีม้า, แอดมินดูแลเว็บ และ คนทำบัญชี รวม 13 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

จาการสอบสวน นายนิธิทิวัตถ์ และ น.ส.นวพร เจ้าของเว็บพนัน รวมถึงลูกน้องบางส่วนให้การรับสารภาพ มีเพียงบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นบัญชีม้าบางราย ที่ยังคงยืนกรานปฏิเสธ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .-419 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

RBC ไทย-กัมพูชา (ทภ.1) เห็นพ้อง 13 ข้อหยุดยิง ตอบรับเพิ่ม 3 ประเด็น

สระแก้ว 22 ส.ค.- ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง GBC ฝ่ายกัมพูชา ตอบรับ 3 ข้อเสนอ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ตั้งชุดประสานงานร่วม แต่ไม่ตอบรับแก้ปัญหา MOU 43 ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ RBC โยนถกวง JBC แทน พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงด้วยดี ตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิง จากการประชุม GBC ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ไทยเสนอ 4 ประเด็น คือ […]

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1

สระแก้ว 22 ส.ค.-เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 รอผล “กัมพูชา” ตอบรับ 3 ข้อ เวลา 10.00 น. ที่สโมสรสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 เริ่มแล้วสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ฝ่ายไทยนำโดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอกแอก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 โดยจะใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงต้นได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อนเชิญออกเพื่อเข้าสู่วาระการประชุม ทั้งนี้ รายงานข่าวยืนยันว่า ในวงประชุมวันนี้ จะเป็นการหารือ 13 + 3 ข้อตกลง คือ 13 ข้อจากเดิม GBC เพื่อนำสู่การปฏิบัติ และข้อเสนอใหม่ ของฝ่ายไทย 3 […]

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย