“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

ปทุมธานี 20 เม.ย. – “นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม


ความเคลื่อนไหวคดี นายพีช ซิ่งรถหรูชนกระบะบนทางด่วนมอเตอร์เวย์ หลังจากเมื่อวาน (20 เม.ย.) มีการขอขมา ลูกสาวผู้เสียหาย ที่ สภ.ลำลูกกา แต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จวันนี้เจ้าตัวก็ไปเยี่ยมที่ รพ. พร้อมฝากเงินค่ารักษา 2 แสนบาท

เมื่อช่วงบ่ายโมงวันนี้ นายกฤษฎา หรือ นายกเบี้ยว พานายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช มาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อติดต่อขอเข้าเยี่ยมคุณลุงคุณป้า ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถกระบะสีดำ โดยวันนี้ทั้งสองคน ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน จากนั้นทั้งคู่ได้สอบถามค่ารักษาพยาบาล ตั้งแต่เข้ามารับการรักษาตัวตั้งแต่วันแรก โดยมีความประสงค์ชำระค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นให้กับโรงพยาบาล


อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลได้ติดต่อญาติคุณลุงคุณป้าแล้วแจ้งว่า ยังไม่อนุญาตให้เยี่ยม เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบค่ารักษาพยาพยาบาล ตั้งแต่เข้ารักษาพยาบาล จนถึงวันนี้ ของคุณลุงกว่า 80,000 บาท และคุณป้ากว่า 40,000 บาท และทางญาติได้ชำระแล้วในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตามนายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช ได้นำเงินสด 200,000 บาท ออกมาเพื่อขอฝากเป็นค่ารักษาพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่สามารถรับฝากได้ แต่ถ้าอยากจะเขียนจดหมายฝากถึงคุณลุงคุณป้า ก็สามารถเขียนฝากไว้แล้วทางโรงพยาบาลจะนำไปให้คุณลุงคุณป้า

นายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช ได้เขียนจดหมายว่า “ผมนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ได้เดินทางมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลกับทางคุณพ่อ ขอให้คุณลุงคุณป้าหายไว ๆ ครับ ผมขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยครับ วันนี้ผมได้เดินทางมาเยี่ยมคุณลุงคุณป้า แต่คุณลุงคุณป้ายังไม่อนุญาตให้เยี่ยม และผมได้นำเงินมาเพื่อจะจ่ายค่ารักษา แต่ได้มีทางญาติคุณป้าและคุณลุงชำระค่ารักษาพยาบาลแล้วครับ ผมยินดีที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล คุณลุงคุณป้าจนหายเป็นปกติครับ”

ด้านกัน จอมพลัง วันนี้ช่วงบ่ายได้ไปเยี่ยมลุงและป้า พร้อมเปิดเผยว่าตนมาเยี่ยมคุณลุง คุณป้า ทุกวันอยู่แล้ว เพราะทั้งสองคนยังเจ็บอยู่ ส่วนคุณลุงก็ยังอยู่ในห้องไอซียู และเมื่อคืนนี้มีโอกาสคุยกับครอบครัวคุณลุง คุณป้า เรื่องค่ารักษาพยาบาล ซึ่งตนรู้สึกสงสารเพราะตอนนี้ค่ารักษาพุ่งไปกว่า 130,000 บาท แล้ว ซึ่งฝั่งคู่กรณียังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้อย่างชัดเจนว่าจะจ่ายส่วนไหนยังไงบ้าง จนญาติบอกว่าจะไปกู้เงินมาจ่าย ตนจึงใช้เงินส่วนตัวและเงินจากมูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้ จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลุงกับป้าไปก่อน และวันนี้ทราบมาว่านายพีชนำเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลุงกับป้า ตนจึงฝากถึงคู่กรณีว่าเงินส่วนนี้ถ้าอยากจะคืนให้ ตนก็ยินดี และอยากให้แสดงถึงความรับผิดชอบว่าจะรับผิดชอบส่วนไหน ยังไงบ้าง ซึ่งเมื่อวานนี้เฮียเบี้ยวและนายพีชยังพูดไม่ตรงกัน อยากให้ไปคุยกันก่อนเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อแสดงความจริงใจ และหากมีการพูดคุยกันกับครอบครัวลุงกับป้าก็น่าจะดีขึ้น ส่วนเรื่องรถ ลุงกับป้าบอกว่าควรรีบเข้ามาดำเนินการ เพราะตอนนี้บริษัทประกันยังไม่ติดต่อเข้ามา แต่ถ้าเป็นตน ตนจะซื้อรถใหม่ให้ลุงกับป้า


ส่วนประเด็นที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กให้ กัน จอมพลัง ถอยจากเรื่องนี้ เพราะพี่ชายสั่ง กัน จอมพลัง บอกว่าตนคุยกับพี่ชายทุกวัน เชื่อว่าพี่ชายรู้จักนิสัยตนเองดีและรู้ว่าตนเป็นคนยังไง ตนเป็นคนที่มาเพื่อเคสจริงๆ ซึ่งพี่ชายบอกว่าให้หาทางออกร่วมกัน ตนก็พยายามถอยออกมาคนละก้าวแล้วเพื่อเปิดช่องให้คู่กรณีได้แสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจและเป็นรูปธรรม อยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ให้นายมงคลกิตติ์ดูแลโซนพระราม 7 ได้เลย ทางนี้ต้นจัดการเอง

ส่วนกรณี “สป.สายไหม” โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงถึงตน มองว่าเป็นแค่เด็กน้อย คนละเบอร์กัน ตนไม่ได้สนใจ เพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งตอนนี้สังคมได้เข้าไปตอบคอมเม้นต์แทนหมดแล้ว และวันนี้ก็อยากโฟกัสที่เคสและฝั่งคู่กรณีว่าจะมาเยียวยาหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานตนก็เจอกับเฮียเบี้ยว ก็ถือว่าผู้ใหญ่คุยกัน ส่วนเด็กน้อย ไม่ใช่เวทีของเขา

ด้านนางยุพเยาว์ แม่ของพีช ได้ออกมาเคลื่อนไหวครั้งแรกโดยในโพสต์ข้อความ ระบุว่า เข้าใจค่ะการที่เป็นบุคคลสาธารณะ ต้องยอมรับการโดนตำหนิ การมีคำด่าที่รุนแรง สนุกปาก สนุกมือ สะใจ ทุกช่องทาง ทุกคอมเมนต์จนล้ำเส้น คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ลูกทำตัวไม่ดี คนที่ต้องรับว่า อบรมสั่งสอนไม่ดี คือคนเป็นพ่อเป็นแม่ค่ะ เราทั้งคู่ยอมรับค่ะ เรื่องของขบวนการทางกฎหมายที่น้องพีชจะต้องได้รับ ทางเราไม่ได้ปฏิเสธสิ่งเหล่านี้เลยค่ะ ทุกอย่างต้องมีการดำเนินการ

ช่วงท้ายข้อความ นางยุพเยาว์ ระบุว่า ดิฉันในฐานะ “แม่” ไม่ได้เห็นแก่ตัวเข้าข้างมองว่าลูกตัวเองทำถูก ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความห่วงใยครอบครัวจิตใจคุณลุงคุณป้า แต่คนในโลกโซเซียลคนในสังคมที่มีคำพูดอันเลวร้ายเกินกว่าจะรับได้ ทางเราไม่ใช่จะไม่รับผิดชอบ เราทุกคนร้อนใจเสียใจค่ะ พีช ก็คือเด็กคนนึงที่ทำผิด อารมณ์วู่วาม ดิฉันเป็นแม่ ยอมรับในการขาดการอบรมสั่งสอนลูกค่ะ กราบขอโทษสังคม กราบขอโทษครอบครัวคุณลุงคุณป้า กราบขอโทษผู้ใหญ่ที่โดนดึงลงมาเกี่ยวข้อง ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ครอบครัวดิฉันเป็นทุกข์ เป็นวิบากกรรมที่มีความทุกข์ที่สุดในชีวิตค่ะ ขอโอกาสสังคม ทุกอย่างไปตามขบวนการตามกฎหมาย ขอให้มีพื้นที่ในสังคมให้กับครอบครัวเราบ้างนะคะ โปรดเห็นใจคนเป็นแม่คนนี้ด้วยนะคะ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย