“พีช” ยกมือไหว้คุกเข่าขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย ต่อหน้าสื่อ

พีชไหว้ขอโทษ

ปทุมธานี 19 เม.ย.-“นายกเบี้ยว” พา “พีช” ลูกชาย ขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย ยกมือไหว้คุกเข่าต่อหน้าสื่อ ด้าน “กัน จอมพลัง” ดึงครอบครัวผู้เสียหายออกไม่รับคำขอโทษ พร้อมบอกแบบนี้เรียกมัดมือชก ก่อนพยายามถาม “พีช” ทำไมวันเกิดเหตุไม่เรียกรถพยาบาล “นายกเบี้ยว” ปัดตอบพร้อมดึงลูกขึ้นรถทันที

เวลา 15.40 น. “กัน จอมพลัง” พร้อมครอบครัวของผู้เสียหาย ได้เดินมาที่ สภ.ลำลูกกา เพื่อมาพบกับพนักงานสอบสวนและนายพีช โดย “กัน จอมพลัง” ระบุว่า วันนี้พาทางครอบครัวพร้อมกับพยานที่เห็นเหตุการณ์มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้ถือเป็นการเปิดทางให้ฝั่ง “พีช” ที่พูดว่าอยากจะพบเจอเพื่อขอโทษ หรือพูดคุยกับทางฝั่งครอบครัวของผู้เสียหาย แต่จากที่ตนเองพูดคุยกับครอบครัวก็อยากให้พบเจอกันในที่แจ้งต่อหน้าสื่อ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า “พีช” สำนึกผิดจริงหรือไม่ หรือถูกกดดันจากสังคมจึงออกมาขอโทษ เนื่องจากเมื่อวานนี้ “พีช” ได้พูดในรายการหนึ่งว่า หากลุงและป้าผู้เสียหายจอดรถ ก็จะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น


“กัน จอมพลัง” กล่าวต่อว่า คดีในช่วงแรก ทางฝั่งตำรวจทางหลวงก็ได้สรุปแล้วว่าเป็นการประมาทร่วม ตนเองมองว่า หากมีความเอื้ออาทรกันบนท้องถนน เหตุการณ์ทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้น และจากคำกล่าวอ้างต่างๆ ของ “พีช” เมื่อเทียบกับคลิปและตามคำบอกเล่าของฝั่งครอบครัวผู้เสียหาย ตนมองว่าคนละเรื่อง

ในวันนี้จะนำข้อมูลต่างๆ ที่พยานนำมาให้ คือ เรื่องของความเร็ว ที่มีพยานบางคนเห็นว่าก่อนหน้านี้เจอกับรถของ “พีช” บนเส้นทางด่วนดังกล่าว พบว่ามีการขับเร็วถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงอยากให้ทางตำรวจตรวจสอบว่าความเร็วที่ใช้ในเวลานั้นอยู่ที่เท่าไร หากความเร็วออกมาสูง การเบียดในลักษณะแบบนั้นจะสามารถทำให้ลุงกับป้าเสียชีวิตได้หรือไม่ อีกประเด็นคือให้สอบหมอที่รักษาลุง ว่าอาการกระดูกซี่โครงหัก 6 ซี่ สามารถทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่ จะสามารถเพิ่มข้อกล่าวหาได้หรือไม่ รวมถึงเรื่องที่ “พีช” มีการลงบันทึกประจำวันไว้ในช่วงวันเกิดเหตุที่แจ้งว่าลุงขับชนตัวเอง ส่วนนี้จะเป็นการลงข้อความเท็จในเอกสารหรือไม่


“กัน จอมพลัง” เปิดเผยอีกว่า ก่อนที่ตนเองจะมา มีพี่ชายโทรมาหา ขอตนเองในบางเรื่อง ตนจึงขอกลับไปว่า ให้หยุดปากแจ๋ว และขอให้ “พีช” รู้สึกผิดจริงๆ และให้รับผิดชอบผู้เสียหายแบบเต็มที่ มองว่าจะเยียวยาในส่วนใดบ้าง เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นให้ใครมาบอก คนที่จะอาสารับใช้ประชาชนต้องคิดได้ และตามคำกล่าวอ้างของ “นายกเบี้ยว” ที่บอกว่า “พีช” ยังเด็ก อ่อนไหวและอ่อนประสบการณ์ จึงอยากถามกลับอีกว่า หากยังอ่อนไหวและอ่อนประสบการณ์จะมารับใช้ประชาชนได้หรือ

“กัน จอมพลัง” ย้ำว่า ไม่กังวลว่า “พีช” จะเป็นลูกนักการเมือง หรือนามสกุลดัง หรือรวย อยากให้ทราบว่าคนจนก็มีแรงสู้ และต้องได้รับความยุติธรรม นอกจากนี้ที่ตำรวจได้ปล่อยตัว “พีช” โดยไม่ให้วางหลักทรัพย์ในการประกันตัว โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะ “พีช” มามอบตัว บรรทัดฐานตรงนี้เป็นแบบนี้กับทุกคนหรือไม่

ด้านลูกสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวานที่ “พีช” ขอโทษผ่านทางรายการ มองว่า “พีช” ถูกกดดันจากสังคมและสื่อ ซึ่งไม่รู้ว่ารู้สึกผิดจริงๆ หรือไม่ แต่จากเมื่อวานที่ดูไม่เห็นความจริงใจเท่าไร มองว่าที่ออกมาขอโทษจะนำไปประกอบในการลดทอนโทษของคดีหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถพูดคำว่าอภัยได้ เพราะพ่อแม่ตนเองยังอยู่โรงพยาบาล อยากเห็นความรับผิดชอบแบบชัดเจน รวมถึงอยากได้รับความปลอดภัยทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งตนเองและแม่ยังคงหวาดระแวงอยู่ นอนไม่หลับตั้งแต่วันเกิดเหตุ รู้สึกว่าครอบครัวตนเองเป็นเพียงคนธรรมดาตัวเล็กๆ ซึ่งตัวแม่เองก็ยังไม่พร้อมเจอเพราะยังคงกลัวอยู่


ตนเองคิดว่าหาก “กัน จอมพลัง” ไม่มาช่วย คงไม่ได้รับคำขอโทษ และเรื่องคงไม่ดำเนินไว ส่วนเรื่องการเมือง ตนไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ ตนเองอยากให้มาขอโทษกลางสื่อ เพื่อแสดงความจริงใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ทาง “นายกเบี้ยว” และนายพีช ถือพวงมาลัย 2 พวง พร้อมยกมือไหว้ กัน จอมพลัง และถามถึงเรื่องที่กล่าวในรายการที่นายพีชพูด ว่า “หากลุงจอด เรื่องจะไม่เกิดขึ้น” ทางครอบครัวติดใจในเรื่องนี้ แต่ทาง “นายกเบี้ยว” ตอบว่า “เข้าใจ แต่เห็นใจผมบ้าง ผมเหนื่อยแล้วนะ” ก่อนที่ “กัน จอมพลัง” จะบอกว่า ”ก็เข้าใจฝั่งครอบครัวบ้าง“ ในจังหวะนั้นนายพีชก็ได้คุกเข่าลงต่อหน้าลูกสาวของผู้เสียหายเตรียมที่จะขอโทษ จากนั้นลูกสาวของผู้เสียหายก็ยื่นมือจะรับพวงมาลัย แต่ทางด้าน กัน จอมพลัง ได้ดึงตัวลูกสาวผู้เสียหายออก พร้อมกล่าวว่า ”แบบนี้มัดมือชกเกินไป“

จากนั้นนายพีช ได้พูดน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมก็ขอโทษพี่นุ๊ก พี่นิก และคุณลุงคุณป้า ผมไม่เจตนาให้เป็นอย่างนั้น” กัน จอมพลัง สวนกลับมาทันทีว่า “ร้องไห้แล้วหรอ” นายพีช จึงกล่าวต่อว่า ”และเรื่องค่าเสียหายทั้งหมดค่ารถ, ค่าพยาบาล ยินยอมที่จะดูแลให้ ซึ่งเรื่องที่ตนไม่ได้ดูแลตั้งแต่วันแรก ยอมรับว่าตกใจจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาที่จะหนีไปไหน รู้สึกผิดที่ทำให้ลุงบาดเจ็บ หากมองย้อนกลับเป็นเป็นครอบครัวตนเอง ก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน มาวันนี้ก็ตั้งใจที่จะมาขอโทษแล้วก็ขอโอกาสสังคม ให้หยุดด่าตนเอง“

กัน จอมพลัง ถามกลับว่า “ทำไมวันเกิดเหตุถึงไม่เรียกรถพยาบาล” ด้านนายกเบี้ยวก็ประคองนายพีชลุกขึ้นพาเดินออกจากวงสัมภาษณ์และพากลับขึ้นรถ โดยระหว่างที่ขึ้นรถนั้น นายพีชร้องไห้ออกมา พร้อมบอกว่า “ผมรู้สึกผิดแล้ว ก็ขอโทษแล้วนะพี่ ขอโทษอย่างจริงใจ รู้สึกผิด และทุกอย่างโจมตีมาที่ผม ทั้งที่ผมผิดคนเดียว แต่มันตามมาที่พ่อแม่ผม ผมรู้สึกว่ามันเยอะเกินไปแล้ว ผมรู้สึกไม่สบายใจ” จากนั้น พีชก็ได้ขึ้นรถไป นายกเบี้ยวเดินตามหลัง ก่อนจะพูดส่งท้ายว่า “พอแล้วนะ”

จากนั้น กัน จอมพลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นการเจรจาตรงไหน ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่รู้เลยว่าค่ารักษาพยาบาล ค่ารถ ใครจะเป็นคนจ่าย สิ่งที่เกิดขึ้นยังไม่มีความชัดเจน มองว่าที่ทำแบบนี้ทำไปเพื่อประกอบในการลดโทษ หากขอโทษด้วยความจริงใจ ในเมื่อครอบครัวมีคำถามทำไมถึงไม่สามารถตอบคำถามให้ครอบครัวสบายใจได้ ไม่ใช่ว่าอยากจะทำอะไรตามใจตัวเอง พอทำตามใจเสร็จแล้วก็ไป และวันนี้เป็นโอกาสของนายพีช ถ้าหากตัวเขาต้องการที่จะพูดคุยตกลงทางครอบครัวก็ตกลงที่จะพูดคุย และให้เจอกับทางคุณลุงคุณป้าได้อย่างสบายใจ “คำขอโทษใครๆ ก็พูดได้”

ในขณะที่ลูกสาว บอกว่า มีคำถามที่อยากจะถามคู่กรณี แต่เขาไม่ให้ถาม ครอบครัวติดใจว่า “นายพีช รู้สึกผิดจริงๆ ใช่ไหม ไม่ได้คิดว่าครอบครัวของตนเองเป็นคนผิดใช่ไหม” มองว่าการขอโทษครั้งนี้ “เหมือนอยากจะมาขอโทษให้เห็นว่าเขามาขอโทษแล้ว” และคิดว่าที่อีกฝ่ายร้องไห้ เนื่องจากคนเยอะและถูกกดดัน เป็นการขอโทษไปตามสภาพที่อยากจะขอโทษ และคิดว่าไม่มีความจริงใจ

ที่ผ่านมา “นายกเบี้ยว” ได้มีการมาขอโทษแทนลูกชายหลายครั้ง แต่คำว่าขอโทษควรจะทำให้ชัดเจนมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเอาตะกร้ามาให้แล้วบอกว่าขอโทษเพียงเท่านั้น ที่ผ่านมามีเพียงแค่คำขอโทษ แต่ไม่มีการพูดคุยในเรื่องของการเยียวยาครอบครัว ส่วน “นายกเบี้ยว” มาคอยอยู่กับลูกตลอดเวลา มองว่าพ่อเขาก็รักลูกของเขา เหมือนที่เราก็รักพ่อกับแม่ของเรา เขาแสดงความชัดเจนในการเป็นพ่อที่รักลูก

ทั้งนี้ ที่หลายคนตั้งคำถามว่า จะสามารถทำหน้าที่ดูแลประชาชนต่อไปได้หรือไม่นั้น ในเรื่องของการเมือง ตนขอไม่ตอบ ตนตอบในฐานะของลูกสาวผู้เสียหายเท่านั้น ยืนยันว่าคุณลุงกับคุณป้ายังไม่อยากเจอในนายพีช เนื่องจากยังติดตากับภาพวันเกิดเหตุ ยังไม่สะดวกใจ รวมถึงยังมีความกังวล.-420.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภราดร” ประกาศลาออก “รองปธ.สภาฯ”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภาฯ” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯ เลือกใหม่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และ สส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ โดยมีผลทันทีในวันนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้เช่นกัน นายภราดรให้เหตุผลว่า ตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ในวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าควรคืนอำนาจให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกรองประธานฯคนใหม่ด้วยมติเสียงข้างมาก ตามธรรมเนียมที่เคยถือปฏิบัติมา “ผมขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้เกียรติเลือกผมมาปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการทำงานที่มีคุณค่า และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทีมงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานจนบรรลุภารกิจไปหลายประการ ซึ่งล้วนสร้างความก้าวหน้าให้กับสภาของประชาชน กราบขอบพระคุณท่านประธานและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ได้ให้ความเมตตาผมอย่างยิ่งในการทำงาน” นายภราดรกล่าว พร้อมย้ำว่าจะฝากงานหลายอย่างที่ได้ดำเนินการไว้ โดยเฉพาะโครงการเปิดพื้นที่รัฐสภาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริง โครงการวันรัฐธรรมนูญ กิจกรรมสภาวาที การพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม และการต่อยอดโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่สร้างเสริมศักยภาพเยาวชน ให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปได้มาสานต่อ นอกจากนี้ นายภราดรยังยืนยันจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]

“กัญจนา” เชื่อ “วราวุธ’” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- “หนูนา กัญจนา” ชี้พรรคชาติไทยพัฒนาแม้เป็นพรรคเล็ก แต่ศักดิ์ศรีรักบ้านเกิดเมืองนอนยิ่งใหญ่เสมอ เชื่อ “วราวุธ” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีคลิปเสียงสนทนาสองผู้นำไทย-กัมพูชา ว่า “ณ วันนี้ ดิฉันไม่ได้นิยามตัวเองเป็นนักการเมืองแล้ว ถอยออกมามานานแล้ว แต่ที่ดิฉันเป็นเสมอคือ เป็นคนไทยที่รักแผ่นดินเกิด “จุดยืนของดิฉันมั่นคงมาตลอดเหมือนพ่อ คือยึดมั่นต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเชื่อว่าน้องชายดิฉัน (นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ก็เช่นกัน” น.ส.กัญจนา ยังระบุอีกว่า “แม้ที่ผ่านมา เขาอาจจะพูดอะไรพลาดบ้าง นั่นก็เป็นบทเรียนในชีวิตให้เขาต้องจดจำ วันนี้ดิฉันแม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แม้พรรคชาติไทยพัฒนาในวันนี้ จะเป็นพรรคขนาดเล็ก แต่ศักดิ์ศรี และความรักบ้านเกิดเมืองนอนต้องยิ่งใหญ่เสมอ” “ดิฉันเชื่อว่า พรรค และหัวหน้าพรรคจะมีการตัดสินใจที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนการกระทำใดที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ทำในสิ่งที่ควรทำ” -สำนักข่าวไทย

นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัว

19 มิ.ย.- นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี กลางดึก หลัง “ภูมิใจไทย” ประกาศถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ความเคลื่อนไหวช่วงกลางดึกในเวลา 21.08 น. ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะยื่นใบลาออกมีผลวันนี้ (19 มิ.ย.) พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบทำประเทศเสียเกียรติภูมิ นั้น พบว่าสตอรี่อินสตราแกรมของ นายกรัฐมนตรี ยังคงมีการเคลื่อนไหวผ่านการรีโพสต์สตอรี่ ที่มีคนโพสต์และแท็ก โดยเป็นภาพระหว่างสื่อมวลชนตามสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และเป็นโพสต์รูปภาพของนายกรัฐมนตรี พร้อมใส่เพลง “ทำด้วยหัวใจ” โดยไม่มีการใส่แคปชั่น หรือระบุข้อความใดใดในภาพ รวมถึงคลิปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ด้วย -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย