“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

18 เม.ย. – กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว


ความคืบหน้ากรณีนายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช ลูกของนายกฤษฎา หรือ นายกเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ที่ขับ BMW ปาดหน้ากระบะบนมอเตอร์เวย์ เป็นเหตุให้นายสมบูรณ์ วัย 65 ปี คนขับกระบะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

วันนี้ (18 เม.ย.) ที่สถานีตำรวจทางหลวง 2 มีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยภายหลังประชุม ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในส่วนของการขับขี่ช่วงแรกที่เกิดการเบียดช่องทางจราจรหลังออกจากช่อง M-Flow พบว่ารถกระบะมีการเบี่ยงเข้าช่องทางจราจร โดยไม่ให้สัญญาณไฟ ส่วนรถหรูขับมาตามเส้นทางถูกต้องจริง แต่ใช้ความเร็วสูงและไม่ระมัดระวังเต็มที่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้นแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การจราจร คือขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย กับทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะมีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท แต่หากมีการแย้งจากผู้ก่อเหตุก็ให้คำตัดสินขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล


“พีช ” โดนแจ้งเพิ่มขับรถไม่มีใบอนุญาต
นายพีชจะโดนข้อหาเพิ่มเติมคือ ขับขี่รถโดยไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของนายพีชหมดอายุตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 64 ส่วนป้ายทะเบียนรถหรูซึ่งเป็นป้ายแดง จากการตรวจสอบเบื้องต้นตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ พบว่ามีตราปั๊มนูนลักษณะเหมือนป้ายจริง แต่ตรวจสอบไม่พบในระบบของกรมขนส่ง จึงต้องให้เจ้าของรถนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่าเป็นทะเบียนที่ได้รับจากผู้ขายรถให้จริง และต้องส่งป้ายให้ทางกรมการขนส่งทางบก ไปตรวจสอบว่าเป็นป้ายปลอมหรือไม่ หากพบความผิดจึงจะส่งให้ สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีอาญาในความผิดปลอมแปลงเอกสารทางราชการ รวมถึงหากมีคลิปการขับรถประมาทหวาดเสียวของนายพีช ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกันก็จะนำมารวบรวมเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีเพิ่มได้

สภ.ลำลูกกา ยืนยันเจตนาทำผิดเข้าข่ายคดีอาญา
พันตำรวจเอก ถิรเดช จันทร์ลาด ผู้กำกับการ สภ.ลำลูกกา เปิดเผยว่า ในส่วนของคดีอาญา เบื้องต้น สภ.ลำลูกกา พิจารณาพฤติการณ์แล้ว ไม่ใช่แค่การขับรถโดยประมาท แต่เป็นเจตนากระทำผิด เข้าข่ายคดีอาญา ส่วนจะเป็นข้อหาใด ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้ได้สอบปากคำนางวรรณา ภรรยาของนายสมบูรณ์ ไปแล้ว ส่วนนายสมบูรณ์ที่ยังอยู่ไอซียู หากให้ปากคำได้ พนักงานสอบสวนจะรีบเข้าไปพบ ขณะที่หลักฐานต่างๆ กำลังเร่งรวบรวมให้ทุกอย่างรัดกุมที่สุด เพื่อจะได้ออกหมายเรียกนายสมิทธิพัฒน์มาให้ปากคำ ย้ำว่าส่วนตัวไม่กังวลที่นายสมิทธิพัฒน์เป็นครอบครัวนักการเมืองท้องถิ่นหรือเกี่ยวพันกับพรรคการเมืองใหญ่ เพราะตำรวจทำตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทะเบียนรถไม่มีอยู่ในระบบขนส่ง คงต้องตรวจสอบอีกครั้ง

“ภูมิธรรม” ลั่นอย่าจับแพะชนแกะ-โยงสัมพันธ์พิเศษ
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงประเด็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กังวลกรณีนายกฯ สนิทสนมกับครอบครัวนายกเบี้ยว ว่าประเด็นดังกล่าวต้องแยกให้ออกระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับข้อกฎหมาย ขอทุกฝ่ายอย่ากังวล ไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว และกรณีฝ่ายค้านพยายามชี้ว่านายทักษิณ ชินวัตร ไปร่วมงานบวชนายสมิทธิพัฒน์ ยืนยันว่านายทักษิณ ไม่ได้ไปงานลูกนายกเบี้ยวคนเดียว และนายกเบี้ยวเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ลูกชายคนโตก็เป็น สส.พรรค เมื่อ สส. จะบวชน้องชายก็เชิญนายทักษิณ ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย และนายกฯ แพทองธาร ก็เป็นหัวหน้าพรรค หากมีการร้องขอให้ไปร่วมงานทุกคนก็ไป เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งเกิด ไปทุกงานของสมาชิกพรรค หรือญาติ ทั้งงานแต่ง งานศพ งานบวช ไม่ควรมองว่าเป็นความสัมพันธ์พิเศษ เพราะทุกพรรคก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน กังวลได้แต่อย่าจับแพะมาชนแกะ


ด้านครอบครัวของคู่กรณี เปิดใจยืนยันได้คุยกับพ่อแม่แล้ว ได้รับคำตอบว่าพ่อมองไม่เห็นคู่กรณีจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจขับเบียดหรือปาดหน้า และตอนนั้นไม่ได้ใช้ความเร็วมาก เป็นการขับปกติ แต่หลังจากนั้นคู่กรณีขับมาจี้ท้ายรถ บีบแตรเรียกให้จอด พ่อแม่ที่มีอายุมากจึงไม่กล้าลงไปคุย เพราะกลัวถูกทำร้าย จึงแค่ลดกระจกและยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนขับรถออกไป แต่เรื่องไม่จบ เพราะคู่กรณีขับมาชนตามที่ปรากฏในคลิป

ส่วนตัวยอมรับว่ารู้สึกรับไม่ได้ เพราะมองว่าหากพ่อขับมาเร็วกว่านี้อาจเกิดความเสียหายที่มากกว่านี้ก็เป็นได้ ที่สำคัญคู่กรณียังลงมาชี้หน้าด่าทอพ่อแม่ โดยไม่สนว่าพ่อได้รับบาดเจ็บ วันนี้จึงอยากมาเรียกร้อง มาสื่อสารอีกด้าน ไม่ได้มาอาฆาตอะไร แต่กังวลใจที่คู่กรณีเป็นลูกนักการเมือง เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยทำคดีนี้ด้วยความเป็นธรรม ส่วนที่นายกเบี้ยวมาเยี่ยมครอบครัว ก็พูดคุยกันเล็กน้อย โดยนายกเบี้ยวยอมรับว่าหากลูกชายผิดก็ให้ว่าไปตามผิด และยินดีชดใช้เยียวยาให้ อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด

“นายกเบี้ยว“ รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว
ด้านนายกฤษฎา อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี หรือนายกเบี้ยว ให้สัมภาษณ์เพียงคนเดียว โดยไร้เงานายพีช ลูกชาย ที่ไม่พร้อมออกมาให้สัมภาษณ์ด้วย เพราะยังตกใจไม่หาย

นายกเบี้ยว เปิดเผยว่า ตำรวจทางหลวงได้ประสานว่าจะให้ตนเองพาลูกชายไปรับทราบข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่ได้หนี แต่วันนี้ตนและลูกชายเสร็จธุระไม่ทัน จึงจะแจ้งขอเลื่อนไปก่อน ซึ่งตนยังคงสับสน เนื่องจากคดีมีอยู่ 2 ที่ อีกที่คือ สภ.ลำลูกกา อย่างไรก็ตาม ตนเองและลูกชาย พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ส่วนเรื่องสภาพจิตใจหลังจากตนเองได้พบกับลูกเมื่อวานนี้ ลูกชายยังคงตื่นตระหนกตกใจ เนื่องจากอายุยังน้อยและอยู่ในช่วงของวัยรุ่น จึงมองว่าตนเองไม่ผิดและโต้เถียง ตนเองจึงอธิบายให้เข้าใจว่าลูกเป็นคนผิด โดยคดีแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคุณลุงอาจจะเข้าข่ายมีความผิด และถึงแม้ในส่วนที่สองที่มีภาพปรากฏว่าลูกชายของตนเองขับปาดจนทำให้รถกระบะเสียหลัก ลูกชายตนเองจะบอกว่าไม่มีเจตนา แต่สังคมที่ดูคลิปได้ตัดสินไปแล้วว่าลูกชายทำเกินเหตุ ฉะนั้นตนเองและลูกชายจึงยอมรับผิดทุกกรณี และขอโทษสังคม ทั้งนี้ ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน และเมตตา หากตัดสินว่าลูกชายผิดก็น้อมรับ

ส่วนเรื่องที่ลูกชายไม่ไปเยี่ยมคุณลุงและคุณป้านั้น เนื่องจากกลัวถูกโวยวายให้อับอาย แต่เมื่อวานและวันนี้ตนเองได้เดินทางไปเยี่ยมคู่กรณีแล้ว และได้ขอโทษ พร้อมนำกระเช้าไปให้ และแจ้งกับทางคู่กรณีว่าจะพาลูกชายเข้ามากราบขอโทษ ซึ่งทางคู่กรณียินดีให้มา โดยลูกชายพร้อมยินดีจะชดใช้ค่ารักษาและค่าซ่อมรถอย่างเต็มที่

สำหรับการพาลูกชายมาชี้แจงผ่านรายการในวันนี้ เนื่องจากไม่อยากปล่อยเวลาให้นานกว่านี้ หากสังคมจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อยู่ที่ดุลยพินิจของแต่ละคน ยืนยันที่ออกมาชี้แจงในวันนี้ไม่ได้เป็นการฟอกขาว และไม่ได้จะนำมาต่อสู้คดี รวมถึงไม่มีผู้ใหญ่เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งภาพที่ลูกชายร่วมอดีตนายกฯ ทักษิณ และนายกฯ แพทองธาร ร่วมเฟรม ขณะนั้นนายกฯ แพทองธาร ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง เป็นเพียงหัวหน้าพรรคที่มาร่วมงานเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่ได้สนิทกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน เพราะท่านเป็นตำรวจน้ำดี

ทั้งนี้ หลังจากดูคลิปการขับรถของลูกชาย มองว่าขับรถหวาดเสียว จึงตักเตือนลูกชายให้ได้สติ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าลูกชายไม่ได้เจตนาจะชน จากคำกล่าวอ้างว่าขับรถมือเดียวและเสียหลัก อย่างไรก็ตาม ต่อให้มีหลักฐานว่าลูกชายไม่ผิดตนเองก็ยังยอมรับผิด

ส่วนเรื่องใบขับขี่นั้นตนเองเพิ่งทราบในวันนี้ว่าใบขับขี่ลูกชายหมดอายุตั้งแต่ปี 64 และเรื่องป้ายแดงที่ยังไม่ได้เข้าระบบนั้น ลูกชายกล่าวอ้างว่ามีการออกรถมาได้ไม่ถึงปี และจองป้ายทะเบียนเลข 27 ซึ่งเป็นเลขวันเกิดเอาไว้ มองว่าเรื่องนี้มีผลกระทบด้านการเมืองหรือไม่ นายกฤษฎา ระบุว่า เชื่อว่าอยู่ที่ประชาชนจะมอง ให้วันที่ 11 นี้ เป็นวันตัดสิน

สำหรับนิสัยของลูกชายนั้นเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยมาก่อน แต่ด้วยระยะหลังที่ห่างจึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ ตนเองขอโทษสังคมที่ไม่ได้ดูแลลูก อยู่ห่างกับลูกและมัวแต่ยุ่งกับงาน จึงทิ้งลูกไว้ถึงเป็นอย่างนี้ หลังจากนี้จะดูแลให้มากขึ้น ขอโอกาสให้ลูกชายได้มีที่ยืนในสังคม และจะกลับตัวหลังทำผิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]