ผู้ว่าฯ สตง. เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบสาเหตุตึกถล่ม

กทม. 11 เม.ย.-ผู้ว่าฯ สตง. เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบสาเหตุตึกถล่มจากผู้เชี่ยวชาญ 22 ท่าน พร้อมให้ข้อมูลเต็มที่ ผลสอบออกมาเป็นอย่างไร ก็จะยอมรับ ย้ำเชื่อมั่นความโปร่งใส ขณะนี้ สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง บ.อิตาเลียนไทยฯ เพื่อให้รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด

นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไปยังศูนย์พักคอยผู้ประสบภัย เพื่อให้กำลังใจแก่ญาติของผู้สูญหายจากเหตุการณ์อาคารถล่ม และได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์


นายมณเฑียร เปิดเผยว่า สาเหตุที่ สตง. ยังไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ เป็นเพราะต้องการรอและเคารพกระบวนการดำเนินการของรัฐบาล ซึ่งได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมกว่า 22 ท่าน ซึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ มาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทาง สตง. จึงต้องรอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการชุดนี้ ควบคู่ไปกับการสืบสวนของตำรวจนครบาล และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ได้เข้ามาขอเอกสารทั้งหมดไปแล้ว โดยย้ำว่า สตง. พร้อมให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ และไม่อยากออกมาให้ข้อมูลที่อาจถูกมองว่าเป็นการแก้ตัว แต่ต้องการนำเสนอข้อเท็จจริงที่ผ่านการพิสูจน์และตรวจสอบแล้วเท่านั้น

คณะกรรมการตรวจสอบได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดในทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบ การควบคุมงานก่อสร้าง หรือวัสดุที่ใช้ ซึ่ง สตง. ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการพิสูจน์ทางเทคนิคของช่าง ซึ่งในตอนนี้พวกเรายังไม่ทราบผลการสอบสวน จึงไม่อยากคาดเดา และพร้อมให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการในทุกเรื่อง เมื่อผลสอบออกมาเป็นอย่างไร เราก็จะยอมรับ


ส่วนกรณีที่รัฐบาลเลื่อนการแถลงผลการสอบสวนจากเดิมวันที่ 10 เมษายน ทำให้ สตง. ต้องเลื่อนการแถลงในวันนี้ตามไปด้วย โดยตอนแรกเราตั้งใจจะแถลงวันนี้ ว่าเราได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง แต่เมื่อรัฐบาลเลื่อน เราก็ต้องเลื่อนตาม เพราะเราต้องรอผลการตรวจสอบก่อน ขณะนี้เรายังไม่สามารถบอกได้ว่าคนของเราถูกหรือผิด ต้องรอผลการตรวจสอบก่อน

เมื่อถูกถามถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับการนำวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้ในการก่อสร้างอาคาร นายมณเฑียร กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ และอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจสอบ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันต่างๆ จะไม่มีใครโกหกหรือปกป้อง สตง. อย่างแน่นอน

สำหรับกรณีที่รองผู้ว่าฯ สตง. ชี้แจงว่าไม่ทราบว่ามีบริษัทจากจีนเข้ามาร่วมกิจการกับคู่ค้า ตนเห็นว่าควรฟังรายละเอียดคำชี้แจงทั้งหมดก่อน อย่างไรก็ตาม จากที่ตนได้รับฟังและเข้าใจมา การที่ทั้งสองฝ่ายจะมีการร่วมมือกันก่อนที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจะทราบนั้น อาจเป็นไปได้ แต่เมื่อมีการร่วมมือเสร็จสิ้นและมายื่นข้อเสนอเข้าร่วมประมูลแล้ว การกล่าวว่าไม่ทราบนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากตามระเบียบในการเข้าร่วมประมูล หากมีการร่วมมือระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทยและบริษัทไชน่าเรลเวย์จริง จะต้องมีการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาในขั้นตอนนั้น ดังนั้น จึงต้องแยกแยะว่า เราจะสามารถทราบได้หรือไม่ก่อนที่เขาจะมีการร่วมมือกัน ซึ่งประเด็นนี้เป็นข้อมูลที่ตนได้รับมาในเบื้องต้น


ในประเด็นจะมีการสร้างอาคาร สตง. แห่งใหม่ หรือไม่ นายมณเฑียร กล่าวว่า ยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่โฟกัสในขณะนี้คือเรื่องของการสูญเสียและการช่วยเหลือเยียวยา

ขณะนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทอิตาเลียนไทยฯ เพื่อให้รับผิดชอบในส่วนของการประกันภัยต่างๆ ที่บริษัทได้ดำเนินการไว้ ไม่ว่าจะเป็นประกันอาคารหรือประกันความเสียหายอื่นๆ โดยบริษัทจะต้องรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว

พร้อมกันนี้ สำนักงานฯ ได้มีหนังสือถึงบริษัทประกันภัย เพื่อให้ชำระค่าสินไหมทดแทนมายังสำนักงานฯ ในฐานะผู้ว่าจ้าง และในกรณีที่บริษัทได้ทำประกันกับบุคคลที่สามไว้ ก็ได้มีการแจ้งไปยังบริษัทประกันในลักษณะเดียวกันว่า บริษัทต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ด้วย

นอกจากนี้ ยังได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทผู้รับประกัน รวมถึงแจ้งเลขาธิการ คปภ. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนด้านประกันภัย ซึ่งทั้งหมดได้จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรเรียบร้อยแล้ว

ส่วนในกรณีค่าน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อสองวันก่อนทางกรุงเทพมหานครได้แจ้งปัญหาเข้ามา สำนักงานฯ จึงได้ประสานไปยังผู้รับจ้างให้รับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยผู้รับจ้างได้ยินยอมรับผิดชอบและได้จัดส่งค่าน้ำมันวันละ 4,000 ลิตรให้กับกรุงเทพมหานครแล้วตามที่แจ้ง

สำหรับการเยียวยาผู้เสียชีวิต สำนักงานฯ ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พิจารณาจ่ายเงินชดเชยตามระเบียบกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจำนวนเงินแล้วเห็นว่ายังไม่เพียงพอ จึงได้เสนอขอเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งขณะนี้ได้มีการหารือกับกระทรวงการคลังในเบื้องต้นแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นความรับผิดชอบที่สำนักงานฯ ในฐานะผู้ว่าจ้าง ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ รวมถึงมีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว

ในเรื่องการเยียวยา สตง. ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอเงินชดเชยผู้เสียชีวิตตามระเบียบ และขอเงินชดเชยเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับกระทรวงการคลังแล้ว

นายมณเฑียร ยังกล่าวถึงข้อสงสัยของประชาชนว่า สตง. พร้อมให้คณะกรรมการตรวจสอบในทุกเรื่อง เพื่อแสดงความโปร่งใส ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับความสนิทสนมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายมณเฑียร กล่าวว่า รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2549 และสนิทกันในช่วงปี 2553 ในฐานะเพื่อน ก่อนที่นายอนุทิน จะเข้ามาทำงานการเมือง และเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการสอบสวนจะไม่นำชื่อเสียงมาเสื่อมเสียหรือให้ความช่วยเหลือใครอย่างแน่นอน

สำหรับข้อสงสัยเรื่องการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายใน สตง. เอง นายมณเฑียรกล่าวว่า หาก สตง. ตรวจสอบกันเอง สังคมอาจไม่เชื่อมั่น จึงต้องอาศัยหน่วยงานอื่นมาตรวจสอบ และ สตง. ยินดีรับการตรวจสอบอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]