นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

ทำเนียบ 8 เม.ย.-นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมายืนร่วมในการแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังจบการประชุมคณะรัฐมนตรีได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ถึงปัญหาและวิกฤตต่างๆ ที่ประเทศเรากำลังประสบอยู่ทุกวันนี้ ทั้งเรื่องแผ่นดินไหว และการเยียวยาต่างๆ ซึ่งกระทรวงแรงงานยืนยันแล้วว่าดูแลแน่นอน ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ โดยรัฐบาลจะดูเรื่องการยกเว้นกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อช่วยให้พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีการพูดคุยกันในเรื่องของภาษี ที่ทางอเมริกามีมาตรการออกมา ซึ่งจะประชุมกันในช่วงบ่ายวันนี้ (8 เม.ย.) เวลา 13.30 น. โดยจะมีในรายละเอียดต่างๆ ที่จะพูดคุย และจะชี้แจงอีกครั้ง เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรีบในการแก้ปัญหาต่อ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็คงจะรอได้ พรรคร่วมรัฐบาลคุยกันหมดแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร ไม่ว่าเรื่องที่เกิดวิกฤตแล้ว หรือเรื่องก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ไม่เห็นตรงกัน เพราะเราได้นั่งคุยกันทุกๆ ขั้นตอน


ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปว่าเลื่อนการพิจารณากฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูว่าในสภาจะดำเนินการอย่างไรต่อ ส่วนพรรคร่วมที่คุยกันเห็นว่าควรเอาเรื่องที่เร่งด่วนก่อน

ส่วนจะนำเรื่องกลับมาพิจารณาอีกเมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราไม่ได้ถอนหรือดึงเรื่องกลับมา ในระหว่างนี้ก็รับฟังความคิดเห็นไปได้เรื่อยๆ อยากจะบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นพรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่า เราควรจัดลำดับความสำคัญของเรื่อง เพราะที่จริงเราจัดลำดับขั้นตอน ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องไหนบางเรื่องเราก็ไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้น เช่นแผ่นดินไหว


เมื่อถามว่า จะเอาเข้าสู่การพิจารณาสภาในสมัยหน้าใช่หรือไม่เพราะตอนนี้เหลือเวลาแค่ 2 วันก็จะปิดการประชุมสภา สมัยนี้แล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเรื่องของสภา จะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงอีกครั้ง

ส่วนระหว่างนี้รัฐบาลจะรับฟังความคิดเห็น โดยใช้รูปแบบไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากการรับฟังและพูดคุย คงต้องชี้แจงให้ชัดเจนขึ้น เพื่อทำความเข้าใจ “เพราะภาพของ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถูกมองเป็นภาพกาสิโน ซึ่งไม่ใช่ความตั้งใจของเรา คือทั้งครอบครัวลูกเด็กเล็กแดงไปได้หมด ไป เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีทุกอย่างอยู่ในนั้น แต่คำว่ากาสิโนในเมืองไทยมันไม่ใช่ว่าจะมีกาสิโนทั้งประเทศ ถูกกฎหมายหมด ไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนอยู่ในนั้น ที่ได้รับการรับรองถูกกฎหมายอยู่ในนั้น ไม่ได้แปลว่าทุกที่ จะถูกกฎหมายหมด แต่ยอมรับว่าต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจในรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะการมีการพนันนอกระบบ นอกกฎหมายสร้างผลเสียมาก ขอย้ำว่าไม่ได้เน้นเรื่องเล่นกาสิโน แต่กลายเป็นว่าเรื่อง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปถูกเรียกว่าเป็นกาสิโน รัฐบาลจะรับผิดชอบเรื่องนี้ โดยการอธิบายและสื่อสาร ให้ชัดเจนขึ้น ว่าแปลว่าอะไรกันแน่ เพราะถ้าจะทำกาสิโนตั้งแต่แรก พรรคร่วมรัฐบาลคงไม่เห็นด้วย ตั้งแต่แรกในการแถลงเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้จะเป็นการทำเม็ดเงินที่เข้ามาในประเทศ อย่างยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง”

เมื่อถามว่า ที่ต้องเอาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไว้ในลำดับหลัง เพราะมีหลายฝ่ายออกมาคัดค้าน และเรียกร้องให้มีการทำประชามติใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รับฟังทุกฝ่าย แต่ไม่ใช่เหตุผลอย่างที่ถามมา แต่เราเห็นว่าเรื่องภาษีของทรัมป์ เป็นความสำคัญลำดับแรกๆเพราะผู้ส่งออกก็เป็นห่วงเรื่องนี้ และมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ก่อน จึงจะต้องคุยกันให้ชัดเจน ถือเป็นการจัดลำดับความสำคัญ


ส่วนการรับฟังความคิดเห็นจะต้องมีใครตั้งเป็นหัวหน้าทีมในการทำความเข้าใจกับประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องสื่อสารและตนก็จะช่วยสื่อสาร ส่วนเรื่องการทำประชามตินั้นก็จะรับฟังและจะคุยว่าจะทำอะไรได้บ้าง

เมื่อถามว่า ถอนแล้ว รู้สึกเบาใจใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำ ทันทีว่าไม่ได้ถอน เรื่องนี้ แต่มีญัตติที่ด่วนกว่านี้มาพิจารณา

“เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เรามองที่ปากท้อง ไม่ได้มองเรื่องกาสิโน เรามองที่เม็ดเงินและการจ้างงานใหม่ และมองเห็นโอกาสที่ประเทศเราจะโตขึ้น โอกาสจ้างงานหลายร้อยหลายพันตำแหน่ง และจะเกิดจุดหมายปลายทางใหม่ในการท่องเที่ยว แต่พอประเด็นถูกบิดไปมา ในเรื่องของการเมืองก็มีมากเช่นกัน บิดไปบิดมากลายเป็นว่ารัฐบาลจะมุ่งเน้นในการเปิด สถานที่พนันซึ่งไม่ใช่ความตั้งใจนี้เลย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่ากระแสข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขู่จะขับพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่สนับสนุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่จริงใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้พรรคร่วมยืนอยู่ครบสัมภาษณ์ได้ และเราไม่เคยพูดเรื่องนี้ว่าพรรคร่วมเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยจะขับหรือไม่ขับ และในฐานะผู้นำรัฐบาล อยากให้พรรคร่วมเกิดความสบายใจ และพร้อมที่จะเห็นด้วยด้วยความเต็มใจ นี่คือการนำแบบของตน ส่วนจะนำอย่างอื่นในสมัยไหนใครจะเคยเป็นไม่ทราบ แต่สมัยของตนอยากให้ พรรคร่วมมีความเต็มใจ ในการโหวตในการเห็นด้วย ซึ่งหลักที่ถูกต้องตามปกติ พรรคร่วมทุกพรรคเห็นด้วยตรงกัน เป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่อยากให้ทำด้วยความรู้สึกที่เห็นด้วย ตรงกันและพร้อมที่จะ นำไปด้วยกันเต็มที่ 100%

เมื่อถามว่า การเลื่อนเวลาพิจารณาออกไป ไม่ใช่เป็นการซื้อเวลาใช่หรือไม่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นการเรียงลำดับความสำคัญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นในประเด็นดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ได้ยกมือไหว้ขอบคุณหัวหน้าพรรคร่วมทุกๆ คนอย่างอารมณ์ดี.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]