นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

ทำเนียบ 8 เม.ย.-นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมายืนร่วมในการแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังจบการประชุมคณะรัฐมนตรีได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ถึงปัญหาและวิกฤตต่างๆ ที่ประเทศเรากำลังประสบอยู่ทุกวันนี้ ทั้งเรื่องแผ่นดินไหว และการเยียวยาต่างๆ ซึ่งกระทรวงแรงงานยืนยันแล้วว่าดูแลแน่นอน ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ โดยรัฐบาลจะดูเรื่องการยกเว้นกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อช่วยให้พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีการพูดคุยกันในเรื่องของภาษี ที่ทางอเมริกามีมาตรการออกมา ซึ่งจะประชุมกันในช่วงบ่ายวันนี้ (8 เม.ย.) เวลา 13.30 น. โดยจะมีในรายละเอียดต่างๆ ที่จะพูดคุย และจะชี้แจงอีกครั้ง เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรีบในการแก้ปัญหาต่อ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็คงจะรอได้ พรรคร่วมรัฐบาลคุยกันหมดแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร ไม่ว่าเรื่องที่เกิดวิกฤตแล้ว หรือเรื่องก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ไม่เห็นตรงกัน เพราะเราได้นั่งคุยกันทุกๆ ขั้นตอน


ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปว่าเลื่อนการพิจารณากฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูว่าในสภาจะดำเนินการอย่างไรต่อ ส่วนพรรคร่วมที่คุยกันเห็นว่าควรเอาเรื่องที่เร่งด่วนก่อน

ส่วนจะนำเรื่องกลับมาพิจารณาอีกเมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราไม่ได้ถอนหรือดึงเรื่องกลับมา ในระหว่างนี้ก็รับฟังความคิดเห็นไปได้เรื่อยๆ อยากจะบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นพรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่า เราควรจัดลำดับความสำคัญของเรื่อง เพราะที่จริงเราจัดลำดับขั้นตอน ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องไหนบางเรื่องเราก็ไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้น เช่นแผ่นดินไหว


เมื่อถามว่า จะเอาเข้าสู่การพิจารณาสภาในสมัยหน้าใช่หรือไม่เพราะตอนนี้เหลือเวลาแค่ 2 วันก็จะปิดการประชุมสภา สมัยนี้แล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเรื่องของสภา จะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงอีกครั้ง

ส่วนระหว่างนี้รัฐบาลจะรับฟังความคิดเห็น โดยใช้รูปแบบไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากการรับฟังและพูดคุย คงต้องชี้แจงให้ชัดเจนขึ้น เพื่อทำความเข้าใจ “เพราะภาพของ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถูกมองเป็นภาพกาสิโน ซึ่งไม่ใช่ความตั้งใจของเรา คือทั้งครอบครัวลูกเด็กเล็กแดงไปได้หมด ไป เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีทุกอย่างอยู่ในนั้น แต่คำว่ากาสิโนในเมืองไทยมันไม่ใช่ว่าจะมีกาสิโนทั้งประเทศ ถูกกฎหมายหมด ไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนอยู่ในนั้น ที่ได้รับการรับรองถูกกฎหมายอยู่ในนั้น ไม่ได้แปลว่าทุกที่ จะถูกกฎหมายหมด แต่ยอมรับว่าต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจในรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะการมีการพนันนอกระบบ นอกกฎหมายสร้างผลเสียมาก ขอย้ำว่าไม่ได้เน้นเรื่องเล่นกาสิโน แต่กลายเป็นว่าเรื่อง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปถูกเรียกว่าเป็นกาสิโน รัฐบาลจะรับผิดชอบเรื่องนี้ โดยการอธิบายและสื่อสาร ให้ชัดเจนขึ้น ว่าแปลว่าอะไรกันแน่ เพราะถ้าจะทำกาสิโนตั้งแต่แรก พรรคร่วมรัฐบาลคงไม่เห็นด้วย ตั้งแต่แรกในการแถลงเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้จะเป็นการทำเม็ดเงินที่เข้ามาในประเทศ อย่างยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง”

เมื่อถามว่า ที่ต้องเอาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไว้ในลำดับหลัง เพราะมีหลายฝ่ายออกมาคัดค้าน และเรียกร้องให้มีการทำประชามติใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รับฟังทุกฝ่าย แต่ไม่ใช่เหตุผลอย่างที่ถามมา แต่เราเห็นว่าเรื่องภาษีของทรัมป์ เป็นความสำคัญลำดับแรกๆเพราะผู้ส่งออกก็เป็นห่วงเรื่องนี้ และมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ก่อน จึงจะต้องคุยกันให้ชัดเจน ถือเป็นการจัดลำดับความสำคัญ


ส่วนการรับฟังความคิดเห็นจะต้องมีใครตั้งเป็นหัวหน้าทีมในการทำความเข้าใจกับประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องสื่อสารและตนก็จะช่วยสื่อสาร ส่วนเรื่องการทำประชามตินั้นก็จะรับฟังและจะคุยว่าจะทำอะไรได้บ้าง

เมื่อถามว่า ถอนแล้ว รู้สึกเบาใจใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำ ทันทีว่าไม่ได้ถอน เรื่องนี้ แต่มีญัตติที่ด่วนกว่านี้มาพิจารณา

“เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เรามองที่ปากท้อง ไม่ได้มองเรื่องกาสิโน เรามองที่เม็ดเงินและการจ้างงานใหม่ และมองเห็นโอกาสที่ประเทศเราจะโตขึ้น โอกาสจ้างงานหลายร้อยหลายพันตำแหน่ง และจะเกิดจุดหมายปลายทางใหม่ในการท่องเที่ยว แต่พอประเด็นถูกบิดไปมา ในเรื่องของการเมืองก็มีมากเช่นกัน บิดไปบิดมากลายเป็นว่ารัฐบาลจะมุ่งเน้นในการเปิด สถานที่พนันซึ่งไม่ใช่ความตั้งใจนี้เลย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่ากระแสข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขู่จะขับพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่สนับสนุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่จริงใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้พรรคร่วมยืนอยู่ครบสัมภาษณ์ได้ และเราไม่เคยพูดเรื่องนี้ว่าพรรคร่วมเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยจะขับหรือไม่ขับ และในฐานะผู้นำรัฐบาล อยากให้พรรคร่วมเกิดความสบายใจ และพร้อมที่จะเห็นด้วยด้วยความเต็มใจ นี่คือการนำแบบของตน ส่วนจะนำอย่างอื่นในสมัยไหนใครจะเคยเป็นไม่ทราบ แต่สมัยของตนอยากให้ พรรคร่วมมีความเต็มใจ ในการโหวตในการเห็นด้วย ซึ่งหลักที่ถูกต้องตามปกติ พรรคร่วมทุกพรรคเห็นด้วยตรงกัน เป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่อยากให้ทำด้วยความรู้สึกที่เห็นด้วย ตรงกันและพร้อมที่จะ นำไปด้วยกันเต็มที่ 100%

เมื่อถามว่า การเลื่อนเวลาพิจารณาออกไป ไม่ใช่เป็นการซื้อเวลาใช่หรือไม่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นการเรียงลำดับความสำคัญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นในประเด็นดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ได้ยกมือไหว้ขอบคุณหัวหน้าพรรคร่วมทุกๆ คนอย่างอารมณ์ดี.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]

“นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่

อ่างทอง 20 ก.ย. – “นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง จังหวัดแรก ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่ ทำงานเต็มที่ หวังประชาชนเลือกกลับเข้ามาอีก พร้อมอวยพรวันเกิด “ภราดร” ครบ 46 ปี เจ้าตัวถึงกับคุกเข่ามอบมาลัยขอบคุณ “อนุทิน“ อ้อนชาวอ่างทอง อสม.แฟนเก่า ขอยืมตัว “ลูกแบด” ไปเป็น รมต. คุมสำนักงบฯ ตามติดตัว 24 ชั่วโมง บอกเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นหาเมีย ขณะครอบครัว “ปริศนานันทกุล” ปลื้ม คนดังการเมืองตบเท้าแน่น “อนุทิน” ประกาศเชียร์คืนความเป็นธรรม อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้โอกาสก่อนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม เดินทางมาที่ อบจ.อ่างทอง เพื่อพบปะกับประชาชน และร่วมอวยพรวันเกิดให้กับนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุครบ 46 ปี ซึ่งมีครอบครัว ทั้งนายสมศักดิ์ […]

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย