นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

ทำเนียบ 8 เม.ย.-นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมายืนร่วมในการแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังจบการประชุมคณะรัฐมนตรีได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ถึงปัญหาและวิกฤตต่างๆ ที่ประเทศเรากำลังประสบอยู่ทุกวันนี้ ทั้งเรื่องแผ่นดินไหว และการเยียวยาต่างๆ ซึ่งกระทรวงแรงงานยืนยันแล้วว่าดูแลแน่นอน ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ โดยรัฐบาลจะดูเรื่องการยกเว้นกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อช่วยให้พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีการพูดคุยกันในเรื่องของภาษี ที่ทางอเมริกามีมาตรการออกมา ซึ่งจะประชุมกันในช่วงบ่ายวันนี้ (8 เม.ย.) เวลา 13.30 น. โดยจะมีในรายละเอียดต่างๆ ที่จะพูดคุย และจะชี้แจงอีกครั้ง เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรีบในการแก้ปัญหาต่อ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็คงจะรอได้ พรรคร่วมรัฐบาลคุยกันหมดแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร ไม่ว่าเรื่องที่เกิดวิกฤตแล้ว หรือเรื่องก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ไม่เห็นตรงกัน เพราะเราได้นั่งคุยกันทุกๆ ขั้นตอน


ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปว่าเลื่อนการพิจารณากฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูว่าในสภาจะดำเนินการอย่างไรต่อ ส่วนพรรคร่วมที่คุยกันเห็นว่าควรเอาเรื่องที่เร่งด่วนก่อน

ส่วนจะนำเรื่องกลับมาพิจารณาอีกเมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราไม่ได้ถอนหรือดึงเรื่องกลับมา ในระหว่างนี้ก็รับฟังความคิดเห็นไปได้เรื่อยๆ อยากจะบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นพรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่า เราควรจัดลำดับความสำคัญของเรื่อง เพราะที่จริงเราจัดลำดับขั้นตอน ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องไหนบางเรื่องเราก็ไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้น เช่นแผ่นดินไหว


เมื่อถามว่า จะเอาเข้าสู่การพิจารณาสภาในสมัยหน้าใช่หรือไม่เพราะตอนนี้เหลือเวลาแค่ 2 วันก็จะปิดการประชุมสภา สมัยนี้แล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเรื่องของสภา จะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงอีกครั้ง

ส่วนระหว่างนี้รัฐบาลจะรับฟังความคิดเห็น โดยใช้รูปแบบไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากการรับฟังและพูดคุย คงต้องชี้แจงให้ชัดเจนขึ้น เพื่อทำความเข้าใจ “เพราะภาพของ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถูกมองเป็นภาพกาสิโน ซึ่งไม่ใช่ความตั้งใจของเรา คือทั้งครอบครัวลูกเด็กเล็กแดงไปได้หมด ไป เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีทุกอย่างอยู่ในนั้น แต่คำว่ากาสิโนในเมืองไทยมันไม่ใช่ว่าจะมีกาสิโนทั้งประเทศ ถูกกฎหมายหมด ไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนอยู่ในนั้น ที่ได้รับการรับรองถูกกฎหมายอยู่ในนั้น ไม่ได้แปลว่าทุกที่ จะถูกกฎหมายหมด แต่ยอมรับว่าต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจในรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะการมีการพนันนอกระบบ นอกกฎหมายสร้างผลเสียมาก ขอย้ำว่าไม่ได้เน้นเรื่องเล่นกาสิโน แต่กลายเป็นว่าเรื่อง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปถูกเรียกว่าเป็นกาสิโน รัฐบาลจะรับผิดชอบเรื่องนี้ โดยการอธิบายและสื่อสาร ให้ชัดเจนขึ้น ว่าแปลว่าอะไรกันแน่ เพราะถ้าจะทำกาสิโนตั้งแต่แรก พรรคร่วมรัฐบาลคงไม่เห็นด้วย ตั้งแต่แรกในการแถลงเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้จะเป็นการทำเม็ดเงินที่เข้ามาในประเทศ อย่างยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง”

เมื่อถามว่า ที่ต้องเอาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไว้ในลำดับหลัง เพราะมีหลายฝ่ายออกมาคัดค้าน และเรียกร้องให้มีการทำประชามติใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รับฟังทุกฝ่าย แต่ไม่ใช่เหตุผลอย่างที่ถามมา แต่เราเห็นว่าเรื่องภาษีของทรัมป์ เป็นความสำคัญลำดับแรกๆเพราะผู้ส่งออกก็เป็นห่วงเรื่องนี้ และมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ก่อน จึงจะต้องคุยกันให้ชัดเจน ถือเป็นการจัดลำดับความสำคัญ


ส่วนการรับฟังความคิดเห็นจะต้องมีใครตั้งเป็นหัวหน้าทีมในการทำความเข้าใจกับประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องสื่อสารและตนก็จะช่วยสื่อสาร ส่วนเรื่องการทำประชามตินั้นก็จะรับฟังและจะคุยว่าจะทำอะไรได้บ้าง

เมื่อถามว่า ถอนแล้ว รู้สึกเบาใจใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำ ทันทีว่าไม่ได้ถอน เรื่องนี้ แต่มีญัตติที่ด่วนกว่านี้มาพิจารณา

“เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เรามองที่ปากท้อง ไม่ได้มองเรื่องกาสิโน เรามองที่เม็ดเงินและการจ้างงานใหม่ และมองเห็นโอกาสที่ประเทศเราจะโตขึ้น โอกาสจ้างงานหลายร้อยหลายพันตำแหน่ง และจะเกิดจุดหมายปลายทางใหม่ในการท่องเที่ยว แต่พอประเด็นถูกบิดไปมา ในเรื่องของการเมืองก็มีมากเช่นกัน บิดไปบิดมากลายเป็นว่ารัฐบาลจะมุ่งเน้นในการเปิด สถานที่พนันซึ่งไม่ใช่ความตั้งใจนี้เลย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่ากระแสข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขู่จะขับพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่สนับสนุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่จริงใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้พรรคร่วมยืนอยู่ครบสัมภาษณ์ได้ และเราไม่เคยพูดเรื่องนี้ว่าพรรคร่วมเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยจะขับหรือไม่ขับ และในฐานะผู้นำรัฐบาล อยากให้พรรคร่วมเกิดความสบายใจ และพร้อมที่จะเห็นด้วยด้วยความเต็มใจ นี่คือการนำแบบของตน ส่วนจะนำอย่างอื่นในสมัยไหนใครจะเคยเป็นไม่ทราบ แต่สมัยของตนอยากให้ พรรคร่วมมีความเต็มใจ ในการโหวตในการเห็นด้วย ซึ่งหลักที่ถูกต้องตามปกติ พรรคร่วมทุกพรรคเห็นด้วยตรงกัน เป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่อยากให้ทำด้วยความรู้สึกที่เห็นด้วย ตรงกันและพร้อมที่จะ นำไปด้วยกันเต็มที่ 100%

เมื่อถามว่า การเลื่อนเวลาพิจารณาออกไป ไม่ใช่เป็นการซื้อเวลาใช่หรือไม่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นการเรียงลำดับความสำคัญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นในประเด็นดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ได้ยกมือไหว้ขอบคุณหัวหน้าพรรคร่วมทุกๆ คนอย่างอารมณ์ดี.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]