ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 7 เม.ย.-“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ

ความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าอาคาร สตง.แห่งใหม่ ช่วงบ่ายวันนี้ (7 เม.ย.68) นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ ตัวแทนอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายที่ยังติดอยู่ในซากอาคาร ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าว่า ล่าสุดการปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ แม้ในช่วงเช้าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่หลังจากฝนหยุดตกไปแล้ว ทีมปฏิบัติภารกิจก็ลุยเดินหน้าต่อ เพราะต้องยอมรับว่าเวลาตอนนี้ มันก็ผ่านไปมากแล้ว หลายคนก็เริ่มทำใจ ด้วยจากโครงสร้างของตึกที่พังถล่มลงมาในลักษณะรูปแบบนี้ โอกาสที่จะมีผู้รอดชีวิตน้อยมาก แต่อย่างไรก็ตาม เราก็จะไม่ทิ้งความหวัง


ในส่วนการปฏิบัติงานวันนี้ หลังจากฝนหยุดตกแล้ว เครื่องจักรหนักก็เดินเครื่องทันที ซึ่งช่วงเที่ยงที่ผ่านมาสามารถเปิดพื้นที่โซน C ได้ลึกมาก และเจอช่องหนึ่งที่สามารถเอากู้ภัยลงไปสำรวจได้ โดยทีมกู้ภัยสามารถลงไปแนวดิ่งได้ถึง 5-6 เมตร พบว่าเป็นโถงและเป็นปล่องลิฟต์ ซึ่งทีมกู้ภัยที่ลงไปก็ประเมินหาอยู่นาน ก่อนจะพบว่า “กลิ่นแรงมาก” จึงพยายามที่จะหาจุดผู้ประสบภัยให้เจอ แต่ก็ยังไม่เจอ ก็เลยให้กู้ภัยขึ้นมาก่อน แล้วมาร์คจุดไว้สำหรับพื้นที่โซน C ที่เจอ และจะให้เครื่องมือหนักเข้าไปลุย เพื่อเปิดพื้นที่ต่อ ยืนยันว่าเราจะนำผู้ประสบภัยเคสสีใดๆ ก็ตามขึ้นมาให้ได้ จะทำด้วยความระมัดระวัง นำทุกร่างออกมา

นายอัญวุฒิ ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ทุกร่างที่เจอ ลักษณะเหมือนถูกสิ่งที่มีน้ำหนักขนาดใหญ่ทับ ร่างก็เลยมีลักษณะแหลก เวลาที่เราเก็บร่าง แม้จะเป็นเคสดำ พวกเรายืนยันว่าจะเอาทุกร่างมาให้ครบ


นอกจากนี้ ในช่วงกลางดึก ยังพบว่าเวลาเครื่องจักรหยุดทำงาน ส่วนใหญ่เราจะเจอพวกชิ้นอวัยวะหลายจุด มีทั้งมือ และส่วนอื่นๆ จึงรวบรวมเอาไว้ และส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อให้แพทย์นิติเวช ตรวจ DNA ส่งคืนกับครอบครัวให้ครบ

ฝนที่ตกลงมา นายอัญวุฒิ ยืนยันว่า พื้นที่เป็นดินผสมกับปูน เวลาโดนน้ำก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะบางช่วงที่ฝนตก ทำให้ลดฝุ่นได้เยอะมาก รวมถึงอุณหภูมิก็เย็นลงด้วย แต่พอฝนหยุดตกกลับมาแดดออก อุณหภูมิก็กลับมาสูงขึ้น แต่น้ำก็ทิ้งคราบดินเลนเอาไว้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น เพราะตรงไหนที่ไม่แข็งแรง เจ้าหน้าที่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง

ส่วนประเด็นที่มีทีมงานบางส่วนเริ่มถอนกำลังไปแล้วนั้น นายอัญวุฒิ ระบุว่า ตอนนี้มันเกิน 10 วันแล้ว ทีมค้นหาเล็กๆ เครื่องมือเล็ก อย่างทีมสุนัข K9 ก็ถอนกำลังออกไป เพราะน่าจะไม่ต้องใช้แล้ว น้องๆ สุนัขเองก็ทำงานกันอย่างเหนื่อย จนหลายคนเป็นห่วง เพราะคนยังใส่รองเท้าได้ แต่สุนัขเท้าเปล่า เวลาถูกเรียกใช้ทำภารกิจ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน เมื่อร้องขอ น้องๆ และเจ้าหน้าที่ผู้บังคับสุนัข เขาก็พร้อมช่วยสนับสนุนทำภารกิจเต็มที่ พร้อมยืนยันว่า การที่มีทีมเริ่มถอนกำลัง ไม่ได้ทำให้ส่งผลกระทบอะไร เพราะเราก็มีทีมหลัก ทั้งทีมสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีม ปภ. ทีมทหาร และทีมกู้ภัย ส่วนทีมที่เข้ามาสนับสนุนเป็นทีมเสริม ที่มีเครื่องมือพิเศษ มีอุปกรณ์ที่ทำให้เราเสี่ยงน้อยลง ตอนนี้ต้องเน้นเครื่องจักรหนัก และจะเน้นไปในพื้นที่ที่โซน B และโซน C


โดยโซน A และโซน B เป็นโซนเปิดร่วมจะต้องใช้ความระมัดระวังมาก เพราะไม่งั้นโครงสร้างที่ข้างหน้ามันพังอยู่ เกิดเท ราบลงมา หรือถล่มลงมาซ้ำ ก็จะเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเชื่อว่าทุกวันนี้คนไทยทั่วประเทศยังส่งกำลังใจมาที่นี่ พวกเราก็จะนำทุกคนออกมาให้ได้

นายอัญวุฒิ ยอมรับว่า “ถ้าถามว่าเจ้าหน้าที่เหนื่อยไหม ทุกคนเหนื่อยมาก นอนน้อยมาก แต่ถามใครก็ไม่มีใครบอกว่าเหนื่อย แต่คำพูดว่าเหนื่อย ไม่มีสำหรับพวกเรา ตราบใดก็ตาม เราจะอยู่ จะทำงานจนกว่า จะเอาผู้ประสบภัยคนสุดท้ายออกมา แล้วเราจะกลับไปพักผ่อน กลับไปแสตนบาย”

ส่วนกระแสข่าวในโซเชียลที่หลายคนมองว่าการรื้อถอนนั้น ไม่มีความคืบหน้า นายอัญวุฒิ ระบุว่า เป็นเพียงแค่เสียงเล็กๆ แต่กำลังใจของคนส่วนมาก มีให้กับผู้ประสบภัยและให้กับทีมเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจ แต่ต้องกลับมาดูว่าถ้าช้า เราก็คงจะต้องรีบ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ไม่ได้ช้าเลย เพราะบางทีตัวเองออกมานอกไซด์งานเพียงครู่เดียว พอกลับเข้าไปอีกครั้ง ก็ต้องตกใจที่การรื้อถอนมีความคืบหน้าไปมาก และตอนนี้เองเครื่องมือหนัก กำลังเดินหน้าเต็มที่ ซึ่งในส่วนของโซน C เราก็ให้ความหวังหากเปิดโซนนี้ได้ แต่พอเปิดไปก็เจอทางตัน

ช่วงกลางดึก เวลาราว 5 ทุ่มที่ผ่านมา ผู้ควบคุมหน่วยงานทุกจุด ก็ระดมค้นหาครั้งสุดท้าย ทั้งสุนัข K9 ปีนไปทางข้างบน และข้างล่าง มุดลงไปทุกโพรง จนเวลาตี 1 ก็พบผู้ประสบภัยที่ร่างถูกทับอยู่ในโซน B แต่ก็ยังเอาออกไม่ได้ เพราะเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ทับอยู่ และต้องบอกว่าวันแรกที่ปฏิบัติการ บางครั้งเจอจุดที่เจอร่างผู้ประสบภัยถูกทับ ซึ่งยืนยันได้ว่าเสียชีวิตแล้ว ก็ไม่ได้นำร่างออกมา เพราะต้องไปรื้อตรงจุดอื่นก่อน เพราะถ้าหากเอาตรงจุดที่ทับร่างออก อาจจะไปกระทบกับส่วนอื่น ทำให้เกิดความอันตราย

ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่าเกิดรถแบคโฮทรุดลงไปในดิน เนื่องจากเมื่อเช้านี้เกิดฝนตกหนัก นายอัญวุฒิ ตอบว่า “แบคโฮลุยขึ้นไป แต่ทรุดลงไปนั้น ไม่ได้ทรุดลงไปมาก เนื่องจากดินเป็นดินเลน ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเวลาเดิน จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ยืนยันไม่มีใครได้รับอันตราย ตอนนี้ก็กำลังระดมคนมาช่วยนำแบคโฮขึ้น คาดว่าอีกสักพักนึง ก็น่าจะนำขึ้นมาได้แล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก”

และสำหรับการขนย้ายซากปรักหักพังที่มี 40,000 ตันตอนนี้ น่าจะมีการขนย้ายออกไปได้แล้วประมาณ 30% จากโครงสร้างทั้งหมด ยังเหลือฐานที่ถล่มอยู่ด้านหลังตรงโซน B และโซน C ตรงนั้นเป็นช่วงที่ค่อนข้างหนา ซึ่งหากมีร่างของผู้ประสบภัยอยู่ตรงบริเวณนั้น คาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักนึงในการรื้อถอน และในตอนนี้ไม่มีการพบสัญญาณชีพแล้ว

ขณะที่ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครื่องจักรหนักรื้อถอนโครงสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง สลับกับให้ชุดค้นหาเข้าสำรวจพื้นที่ เพื่อหาผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ในซากอาคาร และถึงแม้วันนี้ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่าพบผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ในซากอาคารถล่มเพิ่มเติม แต่ชุดกู้ภัยที่เข้าทำการค้นหา ยืนยันว่า มีจุดต้องสงสัยในโซน B และโซน C ที่คาดว่าเป็นลักษณะของมนุษย์อยู่ภายใน แต่ยังไม่สามารถนำออกมาได้

ส่วนการค้นหาผู้สูญหาย ณ เวลา 16.00 น. ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 17 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย และผู้สูญหาย 77 ราย.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย