ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 7 เม.ย.-“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ

ความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าอาคาร สตง.แห่งใหม่ ช่วงบ่ายวันนี้ (7 เม.ย.68) นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ ตัวแทนอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายที่ยังติดอยู่ในซากอาคาร ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าว่า ล่าสุดการปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ แม้ในช่วงเช้าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่หลังจากฝนหยุดตกไปแล้ว ทีมปฏิบัติภารกิจก็ลุยเดินหน้าต่อ เพราะต้องยอมรับว่าเวลาตอนนี้ มันก็ผ่านไปมากแล้ว หลายคนก็เริ่มทำใจ ด้วยจากโครงสร้างของตึกที่พังถล่มลงมาในลักษณะรูปแบบนี้ โอกาสที่จะมีผู้รอดชีวิตน้อยมาก แต่อย่างไรก็ตาม เราก็จะไม่ทิ้งความหวัง


ในส่วนการปฏิบัติงานวันนี้ หลังจากฝนหยุดตกแล้ว เครื่องจักรหนักก็เดินเครื่องทันที ซึ่งช่วงเที่ยงที่ผ่านมาสามารถเปิดพื้นที่โซน C ได้ลึกมาก และเจอช่องหนึ่งที่สามารถเอากู้ภัยลงไปสำรวจได้ โดยทีมกู้ภัยสามารถลงไปแนวดิ่งได้ถึง 5-6 เมตร พบว่าเป็นโถงและเป็นปล่องลิฟต์ ซึ่งทีมกู้ภัยที่ลงไปก็ประเมินหาอยู่นาน ก่อนจะพบว่า “กลิ่นแรงมาก” จึงพยายามที่จะหาจุดผู้ประสบภัยให้เจอ แต่ก็ยังไม่เจอ ก็เลยให้กู้ภัยขึ้นมาก่อน แล้วมาร์คจุดไว้สำหรับพื้นที่โซน C ที่เจอ และจะให้เครื่องมือหนักเข้าไปลุย เพื่อเปิดพื้นที่ต่อ ยืนยันว่าเราจะนำผู้ประสบภัยเคสสีใดๆ ก็ตามขึ้นมาให้ได้ จะทำด้วยความระมัดระวัง นำทุกร่างออกมา

นายอัญวุฒิ ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ทุกร่างที่เจอ ลักษณะเหมือนถูกสิ่งที่มีน้ำหนักขนาดใหญ่ทับ ร่างก็เลยมีลักษณะแหลก เวลาที่เราเก็บร่าง แม้จะเป็นเคสดำ พวกเรายืนยันว่าจะเอาทุกร่างมาให้ครบ


นอกจากนี้ ในช่วงกลางดึก ยังพบว่าเวลาเครื่องจักรหยุดทำงาน ส่วนใหญ่เราจะเจอพวกชิ้นอวัยวะหลายจุด มีทั้งมือ และส่วนอื่นๆ จึงรวบรวมเอาไว้ และส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อให้แพทย์นิติเวช ตรวจ DNA ส่งคืนกับครอบครัวให้ครบ

ฝนที่ตกลงมา นายอัญวุฒิ ยืนยันว่า พื้นที่เป็นดินผสมกับปูน เวลาโดนน้ำก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะบางช่วงที่ฝนตก ทำให้ลดฝุ่นได้เยอะมาก รวมถึงอุณหภูมิก็เย็นลงด้วย แต่พอฝนหยุดตกกลับมาแดดออก อุณหภูมิก็กลับมาสูงขึ้น แต่น้ำก็ทิ้งคราบดินเลนเอาไว้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น เพราะตรงไหนที่ไม่แข็งแรง เจ้าหน้าที่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง

ส่วนประเด็นที่มีทีมงานบางส่วนเริ่มถอนกำลังไปแล้วนั้น นายอัญวุฒิ ระบุว่า ตอนนี้มันเกิน 10 วันแล้ว ทีมค้นหาเล็กๆ เครื่องมือเล็ก อย่างทีมสุนัข K9 ก็ถอนกำลังออกไป เพราะน่าจะไม่ต้องใช้แล้ว น้องๆ สุนัขเองก็ทำงานกันอย่างเหนื่อย จนหลายคนเป็นห่วง เพราะคนยังใส่รองเท้าได้ แต่สุนัขเท้าเปล่า เวลาถูกเรียกใช้ทำภารกิจ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน เมื่อร้องขอ น้องๆ และเจ้าหน้าที่ผู้บังคับสุนัข เขาก็พร้อมช่วยสนับสนุนทำภารกิจเต็มที่ พร้อมยืนยันว่า การที่มีทีมเริ่มถอนกำลัง ไม่ได้ทำให้ส่งผลกระทบอะไร เพราะเราก็มีทีมหลัก ทั้งทีมสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีม ปภ. ทีมทหาร และทีมกู้ภัย ส่วนทีมที่เข้ามาสนับสนุนเป็นทีมเสริม ที่มีเครื่องมือพิเศษ มีอุปกรณ์ที่ทำให้เราเสี่ยงน้อยลง ตอนนี้ต้องเน้นเครื่องจักรหนัก และจะเน้นไปในพื้นที่ที่โซน B และโซน C


โดยโซน A และโซน B เป็นโซนเปิดร่วมจะต้องใช้ความระมัดระวังมาก เพราะไม่งั้นโครงสร้างที่ข้างหน้ามันพังอยู่ เกิดเท ราบลงมา หรือถล่มลงมาซ้ำ ก็จะเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเชื่อว่าทุกวันนี้คนไทยทั่วประเทศยังส่งกำลังใจมาที่นี่ พวกเราก็จะนำทุกคนออกมาให้ได้

นายอัญวุฒิ ยอมรับว่า “ถ้าถามว่าเจ้าหน้าที่เหนื่อยไหม ทุกคนเหนื่อยมาก นอนน้อยมาก แต่ถามใครก็ไม่มีใครบอกว่าเหนื่อย แต่คำพูดว่าเหนื่อย ไม่มีสำหรับพวกเรา ตราบใดก็ตาม เราจะอยู่ จะทำงานจนกว่า จะเอาผู้ประสบภัยคนสุดท้ายออกมา แล้วเราจะกลับไปพักผ่อน กลับไปแสตนบาย”

ส่วนกระแสข่าวในโซเชียลที่หลายคนมองว่าการรื้อถอนนั้น ไม่มีความคืบหน้า นายอัญวุฒิ ระบุว่า เป็นเพียงแค่เสียงเล็กๆ แต่กำลังใจของคนส่วนมาก มีให้กับผู้ประสบภัยและให้กับทีมเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจ แต่ต้องกลับมาดูว่าถ้าช้า เราก็คงจะต้องรีบ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ไม่ได้ช้าเลย เพราะบางทีตัวเองออกมานอกไซด์งานเพียงครู่เดียว พอกลับเข้าไปอีกครั้ง ก็ต้องตกใจที่การรื้อถอนมีความคืบหน้าไปมาก และตอนนี้เองเครื่องมือหนัก กำลังเดินหน้าเต็มที่ ซึ่งในส่วนของโซน C เราก็ให้ความหวังหากเปิดโซนนี้ได้ แต่พอเปิดไปก็เจอทางตัน

ช่วงกลางดึก เวลาราว 5 ทุ่มที่ผ่านมา ผู้ควบคุมหน่วยงานทุกจุด ก็ระดมค้นหาครั้งสุดท้าย ทั้งสุนัข K9 ปีนไปทางข้างบน และข้างล่าง มุดลงไปทุกโพรง จนเวลาตี 1 ก็พบผู้ประสบภัยที่ร่างถูกทับอยู่ในโซน B แต่ก็ยังเอาออกไม่ได้ เพราะเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ทับอยู่ และต้องบอกว่าวันแรกที่ปฏิบัติการ บางครั้งเจอจุดที่เจอร่างผู้ประสบภัยถูกทับ ซึ่งยืนยันได้ว่าเสียชีวิตแล้ว ก็ไม่ได้นำร่างออกมา เพราะต้องไปรื้อตรงจุดอื่นก่อน เพราะถ้าหากเอาตรงจุดที่ทับร่างออก อาจจะไปกระทบกับส่วนอื่น ทำให้เกิดความอันตราย

ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่าเกิดรถแบคโฮทรุดลงไปในดิน เนื่องจากเมื่อเช้านี้เกิดฝนตกหนัก นายอัญวุฒิ ตอบว่า “แบคโฮลุยขึ้นไป แต่ทรุดลงไปนั้น ไม่ได้ทรุดลงไปมาก เนื่องจากดินเป็นดินเลน ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเวลาเดิน จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ยืนยันไม่มีใครได้รับอันตราย ตอนนี้ก็กำลังระดมคนมาช่วยนำแบคโฮขึ้น คาดว่าอีกสักพักนึง ก็น่าจะนำขึ้นมาได้แล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก”

และสำหรับการขนย้ายซากปรักหักพังที่มี 40,000 ตันตอนนี้ น่าจะมีการขนย้ายออกไปได้แล้วประมาณ 30% จากโครงสร้างทั้งหมด ยังเหลือฐานที่ถล่มอยู่ด้านหลังตรงโซน B และโซน C ตรงนั้นเป็นช่วงที่ค่อนข้างหนา ซึ่งหากมีร่างของผู้ประสบภัยอยู่ตรงบริเวณนั้น คาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักนึงในการรื้อถอน และในตอนนี้ไม่มีการพบสัญญาณชีพแล้ว

ขณะที่ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครื่องจักรหนักรื้อถอนโครงสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง สลับกับให้ชุดค้นหาเข้าสำรวจพื้นที่ เพื่อหาผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ในซากอาคาร และถึงแม้วันนี้ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่าพบผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ในซากอาคารถล่มเพิ่มเติม แต่ชุดกู้ภัยที่เข้าทำการค้นหา ยืนยันว่า มีจุดต้องสงสัยในโซน B และโซน C ที่คาดว่าเป็นลักษณะของมนุษย์อยู่ภายใน แต่ยังไม่สามารถนำออกมาได้

ส่วนการค้นหาผู้สูญหาย ณ เวลา 16.00 น. ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 17 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย และผู้สูญหาย 77 ราย.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย