ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 7 เม.ย.-“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ

ความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าอาคาร สตง.แห่งใหม่ ช่วงบ่ายวันนี้ (7 เม.ย.68) นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ ตัวแทนอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายที่ยังติดอยู่ในซากอาคาร ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าว่า ล่าสุดการปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ แม้ในช่วงเช้าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่หลังจากฝนหยุดตกไปแล้ว ทีมปฏิบัติภารกิจก็ลุยเดินหน้าต่อ เพราะต้องยอมรับว่าเวลาตอนนี้ มันก็ผ่านไปมากแล้ว หลายคนก็เริ่มทำใจ ด้วยจากโครงสร้างของตึกที่พังถล่มลงมาในลักษณะรูปแบบนี้ โอกาสที่จะมีผู้รอดชีวิตน้อยมาก แต่อย่างไรก็ตาม เราก็จะไม่ทิ้งความหวัง


ในส่วนการปฏิบัติงานวันนี้ หลังจากฝนหยุดตกแล้ว เครื่องจักรหนักก็เดินเครื่องทันที ซึ่งช่วงเที่ยงที่ผ่านมาสามารถเปิดพื้นที่โซน C ได้ลึกมาก และเจอช่องหนึ่งที่สามารถเอากู้ภัยลงไปสำรวจได้ โดยทีมกู้ภัยสามารถลงไปแนวดิ่งได้ถึง 5-6 เมตร พบว่าเป็นโถงและเป็นปล่องลิฟต์ ซึ่งทีมกู้ภัยที่ลงไปก็ประเมินหาอยู่นาน ก่อนจะพบว่า “กลิ่นแรงมาก” จึงพยายามที่จะหาจุดผู้ประสบภัยให้เจอ แต่ก็ยังไม่เจอ ก็เลยให้กู้ภัยขึ้นมาก่อน แล้วมาร์คจุดไว้สำหรับพื้นที่โซน C ที่เจอ และจะให้เครื่องมือหนักเข้าไปลุย เพื่อเปิดพื้นที่ต่อ ยืนยันว่าเราจะนำผู้ประสบภัยเคสสีใดๆ ก็ตามขึ้นมาให้ได้ จะทำด้วยความระมัดระวัง นำทุกร่างออกมา

นายอัญวุฒิ ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ทุกร่างที่เจอ ลักษณะเหมือนถูกสิ่งที่มีน้ำหนักขนาดใหญ่ทับ ร่างก็เลยมีลักษณะแหลก เวลาที่เราเก็บร่าง แม้จะเป็นเคสดำ พวกเรายืนยันว่าจะเอาทุกร่างมาให้ครบ


นอกจากนี้ ในช่วงกลางดึก ยังพบว่าเวลาเครื่องจักรหยุดทำงาน ส่วนใหญ่เราจะเจอพวกชิ้นอวัยวะหลายจุด มีทั้งมือ และส่วนอื่นๆ จึงรวบรวมเอาไว้ และส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อให้แพทย์นิติเวช ตรวจ DNA ส่งคืนกับครอบครัวให้ครบ

ฝนที่ตกลงมา นายอัญวุฒิ ยืนยันว่า พื้นที่เป็นดินผสมกับปูน เวลาโดนน้ำก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะบางช่วงที่ฝนตก ทำให้ลดฝุ่นได้เยอะมาก รวมถึงอุณหภูมิก็เย็นลงด้วย แต่พอฝนหยุดตกกลับมาแดดออก อุณหภูมิก็กลับมาสูงขึ้น แต่น้ำก็ทิ้งคราบดินเลนเอาไว้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น เพราะตรงไหนที่ไม่แข็งแรง เจ้าหน้าที่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง

ส่วนประเด็นที่มีทีมงานบางส่วนเริ่มถอนกำลังไปแล้วนั้น นายอัญวุฒิ ระบุว่า ตอนนี้มันเกิน 10 วันแล้ว ทีมค้นหาเล็กๆ เครื่องมือเล็ก อย่างทีมสุนัข K9 ก็ถอนกำลังออกไป เพราะน่าจะไม่ต้องใช้แล้ว น้องๆ สุนัขเองก็ทำงานกันอย่างเหนื่อย จนหลายคนเป็นห่วง เพราะคนยังใส่รองเท้าได้ แต่สุนัขเท้าเปล่า เวลาถูกเรียกใช้ทำภารกิจ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน เมื่อร้องขอ น้องๆ และเจ้าหน้าที่ผู้บังคับสุนัข เขาก็พร้อมช่วยสนับสนุนทำภารกิจเต็มที่ พร้อมยืนยันว่า การที่มีทีมเริ่มถอนกำลัง ไม่ได้ทำให้ส่งผลกระทบอะไร เพราะเราก็มีทีมหลัก ทั้งทีมสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีม ปภ. ทีมทหาร และทีมกู้ภัย ส่วนทีมที่เข้ามาสนับสนุนเป็นทีมเสริม ที่มีเครื่องมือพิเศษ มีอุปกรณ์ที่ทำให้เราเสี่ยงน้อยลง ตอนนี้ต้องเน้นเครื่องจักรหนัก และจะเน้นไปในพื้นที่ที่โซน B และโซน C


โดยโซน A และโซน B เป็นโซนเปิดร่วมจะต้องใช้ความระมัดระวังมาก เพราะไม่งั้นโครงสร้างที่ข้างหน้ามันพังอยู่ เกิดเท ราบลงมา หรือถล่มลงมาซ้ำ ก็จะเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเชื่อว่าทุกวันนี้คนไทยทั่วประเทศยังส่งกำลังใจมาที่นี่ พวกเราก็จะนำทุกคนออกมาให้ได้

นายอัญวุฒิ ยอมรับว่า “ถ้าถามว่าเจ้าหน้าที่เหนื่อยไหม ทุกคนเหนื่อยมาก นอนน้อยมาก แต่ถามใครก็ไม่มีใครบอกว่าเหนื่อย แต่คำพูดว่าเหนื่อย ไม่มีสำหรับพวกเรา ตราบใดก็ตาม เราจะอยู่ จะทำงานจนกว่า จะเอาผู้ประสบภัยคนสุดท้ายออกมา แล้วเราจะกลับไปพักผ่อน กลับไปแสตนบาย”

ส่วนกระแสข่าวในโซเชียลที่หลายคนมองว่าการรื้อถอนนั้น ไม่มีความคืบหน้า นายอัญวุฒิ ระบุว่า เป็นเพียงแค่เสียงเล็กๆ แต่กำลังใจของคนส่วนมาก มีให้กับผู้ประสบภัยและให้กับทีมเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจ แต่ต้องกลับมาดูว่าถ้าช้า เราก็คงจะต้องรีบ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ไม่ได้ช้าเลย เพราะบางทีตัวเองออกมานอกไซด์งานเพียงครู่เดียว พอกลับเข้าไปอีกครั้ง ก็ต้องตกใจที่การรื้อถอนมีความคืบหน้าไปมาก และตอนนี้เองเครื่องมือหนัก กำลังเดินหน้าเต็มที่ ซึ่งในส่วนของโซน C เราก็ให้ความหวังหากเปิดโซนนี้ได้ แต่พอเปิดไปก็เจอทางตัน

ช่วงกลางดึก เวลาราว 5 ทุ่มที่ผ่านมา ผู้ควบคุมหน่วยงานทุกจุด ก็ระดมค้นหาครั้งสุดท้าย ทั้งสุนัข K9 ปีนไปทางข้างบน และข้างล่าง มุดลงไปทุกโพรง จนเวลาตี 1 ก็พบผู้ประสบภัยที่ร่างถูกทับอยู่ในโซน B แต่ก็ยังเอาออกไม่ได้ เพราะเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ทับอยู่ และต้องบอกว่าวันแรกที่ปฏิบัติการ บางครั้งเจอจุดที่เจอร่างผู้ประสบภัยถูกทับ ซึ่งยืนยันได้ว่าเสียชีวิตแล้ว ก็ไม่ได้นำร่างออกมา เพราะต้องไปรื้อตรงจุดอื่นก่อน เพราะถ้าหากเอาตรงจุดที่ทับร่างออก อาจจะไปกระทบกับส่วนอื่น ทำให้เกิดความอันตราย

ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่าเกิดรถแบคโฮทรุดลงไปในดิน เนื่องจากเมื่อเช้านี้เกิดฝนตกหนัก นายอัญวุฒิ ตอบว่า “แบคโฮลุยขึ้นไป แต่ทรุดลงไปนั้น ไม่ได้ทรุดลงไปมาก เนื่องจากดินเป็นดินเลน ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเวลาเดิน จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ยืนยันไม่มีใครได้รับอันตราย ตอนนี้ก็กำลังระดมคนมาช่วยนำแบคโฮขึ้น คาดว่าอีกสักพักนึง ก็น่าจะนำขึ้นมาได้แล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก”

และสำหรับการขนย้ายซากปรักหักพังที่มี 40,000 ตันตอนนี้ น่าจะมีการขนย้ายออกไปได้แล้วประมาณ 30% จากโครงสร้างทั้งหมด ยังเหลือฐานที่ถล่มอยู่ด้านหลังตรงโซน B และโซน C ตรงนั้นเป็นช่วงที่ค่อนข้างหนา ซึ่งหากมีร่างของผู้ประสบภัยอยู่ตรงบริเวณนั้น คาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักนึงในการรื้อถอน และในตอนนี้ไม่มีการพบสัญญาณชีพแล้ว

ขณะที่ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครื่องจักรหนักรื้อถอนโครงสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง สลับกับให้ชุดค้นหาเข้าสำรวจพื้นที่ เพื่อหาผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ในซากอาคาร และถึงแม้วันนี้ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่าพบผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ในซากอาคารถล่มเพิ่มเติม แต่ชุดกู้ภัยที่เข้าทำการค้นหา ยืนยันว่า มีจุดต้องสงสัยในโซน B และโซน C ที่คาดว่าเป็นลักษณะของมนุษย์อยู่ภายใน แต่ยังไม่สามารถนำออกมาได้

ส่วนการค้นหาผู้สูญหาย ณ เวลา 16.00 น. ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 17 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย และผู้สูญหาย 77 ราย.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]