ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 7 เม.ย.-“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ

ความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าอาคาร สตง.แห่งใหม่ ช่วงบ่ายวันนี้ (7 เม.ย.68) นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ ตัวแทนอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายที่ยังติดอยู่ในซากอาคาร ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าว่า ล่าสุดการปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ แม้ในช่วงเช้าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่หลังจากฝนหยุดตกไปแล้ว ทีมปฏิบัติภารกิจก็ลุยเดินหน้าต่อ เพราะต้องยอมรับว่าเวลาตอนนี้ มันก็ผ่านไปมากแล้ว หลายคนก็เริ่มทำใจ ด้วยจากโครงสร้างของตึกที่พังถล่มลงมาในลักษณะรูปแบบนี้ โอกาสที่จะมีผู้รอดชีวิตน้อยมาก แต่อย่างไรก็ตาม เราก็จะไม่ทิ้งความหวัง


ในส่วนการปฏิบัติงานวันนี้ หลังจากฝนหยุดตกแล้ว เครื่องจักรหนักก็เดินเครื่องทันที ซึ่งช่วงเที่ยงที่ผ่านมาสามารถเปิดพื้นที่โซน C ได้ลึกมาก และเจอช่องหนึ่งที่สามารถเอากู้ภัยลงไปสำรวจได้ โดยทีมกู้ภัยสามารถลงไปแนวดิ่งได้ถึง 5-6 เมตร พบว่าเป็นโถงและเป็นปล่องลิฟต์ ซึ่งทีมกู้ภัยที่ลงไปก็ประเมินหาอยู่นาน ก่อนจะพบว่า “กลิ่นแรงมาก” จึงพยายามที่จะหาจุดผู้ประสบภัยให้เจอ แต่ก็ยังไม่เจอ ก็เลยให้กู้ภัยขึ้นมาก่อน แล้วมาร์คจุดไว้สำหรับพื้นที่โซน C ที่เจอ และจะให้เครื่องมือหนักเข้าไปลุย เพื่อเปิดพื้นที่ต่อ ยืนยันว่าเราจะนำผู้ประสบภัยเคสสีใดๆ ก็ตามขึ้นมาให้ได้ จะทำด้วยความระมัดระวัง นำทุกร่างออกมา

นายอัญวุฒิ ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ทุกร่างที่เจอ ลักษณะเหมือนถูกสิ่งที่มีน้ำหนักขนาดใหญ่ทับ ร่างก็เลยมีลักษณะแหลก เวลาที่เราเก็บร่าง แม้จะเป็นเคสดำ พวกเรายืนยันว่าจะเอาทุกร่างมาให้ครบ


นอกจากนี้ ในช่วงกลางดึก ยังพบว่าเวลาเครื่องจักรหยุดทำงาน ส่วนใหญ่เราจะเจอพวกชิ้นอวัยวะหลายจุด มีทั้งมือ และส่วนอื่นๆ จึงรวบรวมเอาไว้ และส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อให้แพทย์นิติเวช ตรวจ DNA ส่งคืนกับครอบครัวให้ครบ

ฝนที่ตกลงมา นายอัญวุฒิ ยืนยันว่า พื้นที่เป็นดินผสมกับปูน เวลาโดนน้ำก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะบางช่วงที่ฝนตก ทำให้ลดฝุ่นได้เยอะมาก รวมถึงอุณหภูมิก็เย็นลงด้วย แต่พอฝนหยุดตกกลับมาแดดออก อุณหภูมิก็กลับมาสูงขึ้น แต่น้ำก็ทิ้งคราบดินเลนเอาไว้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น เพราะตรงไหนที่ไม่แข็งแรง เจ้าหน้าที่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง

ส่วนประเด็นที่มีทีมงานบางส่วนเริ่มถอนกำลังไปแล้วนั้น นายอัญวุฒิ ระบุว่า ตอนนี้มันเกิน 10 วันแล้ว ทีมค้นหาเล็กๆ เครื่องมือเล็ก อย่างทีมสุนัข K9 ก็ถอนกำลังออกไป เพราะน่าจะไม่ต้องใช้แล้ว น้องๆ สุนัขเองก็ทำงานกันอย่างเหนื่อย จนหลายคนเป็นห่วง เพราะคนยังใส่รองเท้าได้ แต่สุนัขเท้าเปล่า เวลาถูกเรียกใช้ทำภารกิจ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน เมื่อร้องขอ น้องๆ และเจ้าหน้าที่ผู้บังคับสุนัข เขาก็พร้อมช่วยสนับสนุนทำภารกิจเต็มที่ พร้อมยืนยันว่า การที่มีทีมเริ่มถอนกำลัง ไม่ได้ทำให้ส่งผลกระทบอะไร เพราะเราก็มีทีมหลัก ทั้งทีมสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีม ปภ. ทีมทหาร และทีมกู้ภัย ส่วนทีมที่เข้ามาสนับสนุนเป็นทีมเสริม ที่มีเครื่องมือพิเศษ มีอุปกรณ์ที่ทำให้เราเสี่ยงน้อยลง ตอนนี้ต้องเน้นเครื่องจักรหนัก และจะเน้นไปในพื้นที่ที่โซน B และโซน C


โดยโซน A และโซน B เป็นโซนเปิดร่วมจะต้องใช้ความระมัดระวังมาก เพราะไม่งั้นโครงสร้างที่ข้างหน้ามันพังอยู่ เกิดเท ราบลงมา หรือถล่มลงมาซ้ำ ก็จะเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเชื่อว่าทุกวันนี้คนไทยทั่วประเทศยังส่งกำลังใจมาที่นี่ พวกเราก็จะนำทุกคนออกมาให้ได้

นายอัญวุฒิ ยอมรับว่า “ถ้าถามว่าเจ้าหน้าที่เหนื่อยไหม ทุกคนเหนื่อยมาก นอนน้อยมาก แต่ถามใครก็ไม่มีใครบอกว่าเหนื่อย แต่คำพูดว่าเหนื่อย ไม่มีสำหรับพวกเรา ตราบใดก็ตาม เราจะอยู่ จะทำงานจนกว่า จะเอาผู้ประสบภัยคนสุดท้ายออกมา แล้วเราจะกลับไปพักผ่อน กลับไปแสตนบาย”

ส่วนกระแสข่าวในโซเชียลที่หลายคนมองว่าการรื้อถอนนั้น ไม่มีความคืบหน้า นายอัญวุฒิ ระบุว่า เป็นเพียงแค่เสียงเล็กๆ แต่กำลังใจของคนส่วนมาก มีให้กับผู้ประสบภัยและให้กับทีมเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจ แต่ต้องกลับมาดูว่าถ้าช้า เราก็คงจะต้องรีบ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ไม่ได้ช้าเลย เพราะบางทีตัวเองออกมานอกไซด์งานเพียงครู่เดียว พอกลับเข้าไปอีกครั้ง ก็ต้องตกใจที่การรื้อถอนมีความคืบหน้าไปมาก และตอนนี้เองเครื่องมือหนัก กำลังเดินหน้าเต็มที่ ซึ่งในส่วนของโซน C เราก็ให้ความหวังหากเปิดโซนนี้ได้ แต่พอเปิดไปก็เจอทางตัน

ช่วงกลางดึก เวลาราว 5 ทุ่มที่ผ่านมา ผู้ควบคุมหน่วยงานทุกจุด ก็ระดมค้นหาครั้งสุดท้าย ทั้งสุนัข K9 ปีนไปทางข้างบน และข้างล่าง มุดลงไปทุกโพรง จนเวลาตี 1 ก็พบผู้ประสบภัยที่ร่างถูกทับอยู่ในโซน B แต่ก็ยังเอาออกไม่ได้ เพราะเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ทับอยู่ และต้องบอกว่าวันแรกที่ปฏิบัติการ บางครั้งเจอจุดที่เจอร่างผู้ประสบภัยถูกทับ ซึ่งยืนยันได้ว่าเสียชีวิตแล้ว ก็ไม่ได้นำร่างออกมา เพราะต้องไปรื้อตรงจุดอื่นก่อน เพราะถ้าหากเอาตรงจุดที่ทับร่างออก อาจจะไปกระทบกับส่วนอื่น ทำให้เกิดความอันตราย

ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่าเกิดรถแบคโฮทรุดลงไปในดิน เนื่องจากเมื่อเช้านี้เกิดฝนตกหนัก นายอัญวุฒิ ตอบว่า “แบคโฮลุยขึ้นไป แต่ทรุดลงไปนั้น ไม่ได้ทรุดลงไปมาก เนื่องจากดินเป็นดินเลน ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเวลาเดิน จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ยืนยันไม่มีใครได้รับอันตราย ตอนนี้ก็กำลังระดมคนมาช่วยนำแบคโฮขึ้น คาดว่าอีกสักพักนึง ก็น่าจะนำขึ้นมาได้แล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก”

และสำหรับการขนย้ายซากปรักหักพังที่มี 40,000 ตันตอนนี้ น่าจะมีการขนย้ายออกไปได้แล้วประมาณ 30% จากโครงสร้างทั้งหมด ยังเหลือฐานที่ถล่มอยู่ด้านหลังตรงโซน B และโซน C ตรงนั้นเป็นช่วงที่ค่อนข้างหนา ซึ่งหากมีร่างของผู้ประสบภัยอยู่ตรงบริเวณนั้น คาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักนึงในการรื้อถอน และในตอนนี้ไม่มีการพบสัญญาณชีพแล้ว

ขณะที่ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครื่องจักรหนักรื้อถอนโครงสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง สลับกับให้ชุดค้นหาเข้าสำรวจพื้นที่ เพื่อหาผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ในซากอาคาร และถึงแม้วันนี้ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่าพบผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ในซากอาคารถล่มเพิ่มเติม แต่ชุดกู้ภัยที่เข้าทำการค้นหา ยืนยันว่า มีจุดต้องสงสัยในโซน B และโซน C ที่คาดว่าเป็นลักษณะของมนุษย์อยู่ภายใน แต่ยังไม่สามารถนำออกมาได้

ส่วนการค้นหาผู้สูญหาย ณ เวลา 16.00 น. ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 17 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย และผู้สูญหาย 77 ราย.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แจ้งข้อหาอดีตทหารพรานทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 14 ก.ค. – ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับอดีตทหารพรานต่อยทหารกัมพูชาที่ปราสาทตาเมือนธม ขณะที่ ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพนมดงรัก เปิดเผยความคืบหน้าอดีตทหารพรานและนักท่องเที่ยวทำร้ายทหารกัมพูชา ว่า ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี เบื้องต้นตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ในส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาพบพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้หลบหนีไปไหน สามารถเรียกตัวมาแจ้งข้อหาได้ ขณะที่ปราสาทตาเมือนธม มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่พบทหารคนที่โดนชกแต่อย่างใด ขณะที่ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง หลังนักท่องเที่ยวไทยทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือประท้วง ปมวัดภูม่านฟ้า มองแอบแฝงการเมือง ย้ำมรดกทางวัฒนธรรมควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ใม่ใช่แบ่งแยก.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” วัดกัลยาณมิตรฯ สึกที่ระยอง

ระยอง 14 ก.ค. – เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ พัวพันสีกากอล์ฟ สึกแล้วที่ จ.ระยอง ขณะที่พระบางรูปยืนยันไม่สึก เพราะแม้เป็นข่าวแต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ส่วนเงินที่โอนเป็นเงินส่วนตัว ให้เพราะเมตตา ภาพล่าสุดของพระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ที่มีข่าวว่าหายตัวนานหลายวัน เพราะมีคนเปิดเผยหลักฐานความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 61 และก่อนหน้านี้มีกระแสว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ สึกไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ แต่เมื่อเช้านี้ (14 ก.ค.) ภาพนี้ได้ยืนยันว่า พระปริยัติธาดา ได้สึกแล้วที่วัดในพื้นที่ จ.ระยอง เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา “พระภาวนาวิริยคุณ” ลั่นไม่สึก ให้ด้วยความเมตตาขณะที่พระที่ยังไม่สึกอย่าง พระภาวนาวิริยคุณ หรือพระอาจารย์ไสว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ มีชื่อพัวพันโอนเงินให้สีกากอล์ฟ 182,200 บาท แต่ท่านได้ย้ายมาเป็นประธานสงฆ์ที่วัดไชยมงคล จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 62 โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัด และเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านโซเชียล ท่านเปิดใจกับทีมข่าวยืนยันว่าเรื่องราวเกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ เกิดขึ้นเมื่อปี 66 โดยฝ่ายหญิงติดต่อมาทางแชท ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิต […]

“ภูมิธรรม” ลั่นเอาผิดถึงที่สุดคดีสีกากอล์ฟ เรื่องนี้ไม่จบง่าย

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. – “ภูมิธรรม” ประสานดีเอสไอช่วยตำรวจสอบสวนกลาง ทำคดีสีกากอล์ฟ ลั่นเรื่องนี้ไม่จบง่าย เอาผิดถึงที่สุด เพราะมีลักษณะบ่อนทำลาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินคดีเอาผิดสีกากอล์ฟ และพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง ว่า จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปช่วยดู เพราะคดีนี้สั่นสะเทือนความรู้สึกของประชาชน กระทบความมั่นคงในแง่ของพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักของประเทศ โดยเมื่อเช้านี้ตนได้พูดคุยกับอธิบดีดีเอสไอ ให้ช่วยเข้าไปดู หรือมีอะไรที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งอธิบดีดีเอสไอก็รับเรื่องไปพิจารณาดำเนินการ และยังได้คุยโทรศัพท์กับ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างติดราชการต่างประเทศ โดยตนได้กำชับว่าเรื่องนี้ต้องจริงจัง ต้องเริ่มต้นด้วยการตั้งข้อหาสีกากอล์ฟให้ชัดเจนมากขึ้น และให้ประสานงานกับทางดีเอสไอ ซึ่ง พลตำรวจโท จินภพ ยินดี เพราะเป็นเรื่องที่ต้องการทำอยู่แล้ว เนื่องจากกระทบกับพุทธศาสนา และให้รายงานตนด้วย โดยเรื่องนี้จะไม่ปล่อยผ่านเฉยๆ และย้ำว่าได้กำชับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ การที่ให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยดูคดี ไม่ได้หมายความว่าให้โอนคดีไปที่ดีเอสไอ แต่ให้มาช่วยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดู โดยหลักการจะให้ตำรวจสอบสวนกลางทำคดีต่อไป ส่วนดีเอสไอมีอะไรเสริมได้ก็จะดี เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาคดีที่เกี่ยวกับสงฆ์ […]

ตร.ไซเบอร์หอบสำนวนคดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” มอบอัยการสูงสุด

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์หอบสำนวน 50 หน้า ส่งมอบให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดี “คลิปเสียงฮุนเซน” ผิดม.116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ขณะที่โฆษกอัยการรับต้องละเอียดรอบคอบ เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการสั่งฟ้องผู้นำประเทศมาก่อน พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนคดีคลิปเสียงฮุนเซน ประมาณ 50 หน้า พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานอัยการสูงสุด จากกรณีที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้บัญชี เฟซบุ๊กชื่อ “Samdech Hun Sen of Cambodia” ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า เพจ Facebook สมเด็จฮุน เซน มีลักษณะการโพสต์ข้อความที่เป็นขั้นเป็นตอน […]