นายกฯ เรียกประชุม กก.สรุปแก้ปัญหาภาษีสหรัฐ 8 เม.ย.นี้

ภาษีสหรัฐ

ทำเนียบ 5 เม.ย.-“จิรายุ” ระบุฝ่ายค้านบางพรรคน่าจะตกข่าว เพิ่งมาเสนอให้นายกฯ ตั้ง คกก.แก้ปัญหาภาษีสหรัฐ ทั้งที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ “ทรัมป์” ยังไม่ได้รับตำแหน่ง บอก 8 เม.ย.นี้ นายกฯ เรียกประชุม กก.สรุปทั้งหมด ที่ทำเนียบฯ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่พรรคฝ่ายค้านบางพรรค ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งตั้งคณะทำงานพิเศษ (Special Task Force) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อรับมือกรณีสหรัฐอเมริกา ที่ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตราสูงโดย ขอยืนยันว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามมาตรการด้านการค้ากับสหรัฐอเมริกา มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก่อนการรับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เสียด้วยซ้ำ จึงมองว่าข้อเสนอของพรรคฝ่ายค้านบางพรรค คงล่าช้าไม่ทันกาลอย่างแน่นอน อาจเป็นเพราะพรรคฝ่ายค้านบางพรรคไม่ได้ติดตามข่าวสาร ว่ารัฐบาลมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง อย่างเป็นระบบแล้ว


นายจิรายุ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีคาดคะเนล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จึงได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้วในวันที่ 6 มกราคม 2568 ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วย นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายฉันทานน์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นางสาวใจไทย อุปการนิติเกษตร รองอธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ นางขวัญนภา ผิวนิล นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ และนายโอม บัวเขียว คณะทำงานประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง

นายจิรายุ กล่าวว่า ล่าสุดจากแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ยังได้กำหนดแนวทางความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน เพื่อรับมือผลกระทบอย่างเป็นระบบว่า รัฐบาลพร้อมหารือกับรัฐบาลสหรัฐในโอกาสแรก เพื่อปรับดุลการค้าให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และจัดเตรียมข้อเสนอเพื่อปรับดุลการค้ากับสหรัฐ ที่มีสาระสำคัญเพื่อให้สหรัฐได้เจรจากับไทยที่เหมาะสม


นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้เร่งประสานเอกชนปรับโครงสร้างการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวให้อุตสาหกรรมไทย และวางมาตรการรองรับในการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทยที่มีตลาดสหรัฐ เป็นตลาดหลัก แสวงหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดียว ตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว

“รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว และได้วางมาตรการรองรับในการเยียวยา และบรรเทาผลกระทบที่อาจมีต่อผู้ประกอบการส่งออกของไทยที่มีตลาดสหรัฐ เป็นตลาดหลัก ซึ่งนายกรัฐมนตรียังติดตามผลการประชุมอย่างต่อเนื่องมาตลอดกว่า 4 เดือน และในวันอังคารที่ 8 เมษายนนี้ นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานเกี่ยวกับมาตรการการค้าสหรัฐอเมริกา เวลา 13.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และหัวหน้าส่วนราชการทั้งหมด เข้าร่วมประชุม ขอย้ำว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อม เพื่อปรับดุลการค้าให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยจะส่งผลกระทบต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้น้อยที่สุด และขอขอบพระคุณที่พรรคฝ่ายค้านบางพรรคให้คำแนะนำ” นายจิรายุ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบตลาดทุนไทยชื่นมื่น กลไกสร้างการเติบโตทางศก.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ 25 ก.ย.- นายกฯ พบตลาดทุนไทยชื่นมื่น เหมือนได้พบกัลยาณมิตร เป็นแหล่งระดมทุน สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง หารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ในหัวข้อ “ข้อเสนอจากตลาดทุน เพื่อเสริมพลังภาครัฐ” นายอนุทิน​ กล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า​ วันนี้ตั้งใจมาพบทุกท่านถึงอาคารตลาดหลักทรัพย์​ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตื่นเต้นนอนไม่หลับ​ มาตั้งแต่ 09.00 น. เพราะทราบดี​ ​จะได้มาพบกับกัลยาณมิตร​ที่ดี​ เพื่อนที่หวังดีต่อกันตลอดเวลา​ และความสัมพันธ์ของเราก็พัฒนาไป แต่ละคนก็มีหน้าที่ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง​ แม้จะอยู่ในภาคเอกชน​ ตลาดทุน​ แต่พวกเราในฐานะรัฐบาลก็มีหน้าที่ในการสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือในทุกทาง ที่จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จมากที่สุด​ “ท่านเป็นแหล่งระดมทุนให้กับประเทศ เป็นกลไกในการสร้างการเจริญเติบโตกับทางเศรษฐกิจ​ ว่าประเทศไทยมีความมั่นคงมั่งคั่งในระดับไหน เป็นตัวสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในต่างประเทศ” นายอนุทิน กล่าว -สำนักข่าวไทย

ที่ปรึกษาสภาวิศวกรรมฯ ยันใช้ถุงทรายอุดช่องว่างในอุโมงค์เหมาะสมสุด

กรุงเทพฯ 25 ก.ย.- ที่ปรึกษาสภาวิศวกรรมฯ ชี้แจงงานกู้ถนนสามเสนยุบคืบหน้า น้ำตามท่อในหลุมหยุดไหลตั้งแต่เวลา 02.00 น. แผนใช้ถุงทรายอุดช่องว่างเป็นวิธีที่ดีมีความยืดหยุ่น และการดำเนินงานเดินมาถูกทางแล้ว ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษาสภาวิศวกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขเหตุถนนทรุดบริเวณสร้างรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่ ว่า ขณะนี้น้ำที่เคยไหลตามท่อได้หยุดไหลแล้วตั้งแต่เวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการทำงาน จากนี้ทีมงานจะดำเนินการปิดช่องว่างในอุโมงค์ด้วยการปล่อยถุงทรายลงไป เพื่อปิดช่องทางที่ยังมีอยู่ ยืนยันแผนการใช้ถุงทรายอุดหลุมเป็นแผนที่เหมาะสมกว่าการใช้ชีทพาย เนื่องจากถุงทรายมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวเข้ากับรูปร่างของพื้นที่ได้ดีกว่า และการใช้ทรายที่บรรจุในถุงจะช่วยป้องกันไม่ให้ทรายไหลไปกับน้ำ ทำให้เกิดเป็นลักษณะของกำแพงเพื่อยับยั้งการไหลของดิน ซึ่งเป็นวิธีการที่เคยใช้แม้กระทั่งในเหตุการณ์แผ่นดินไหว คันกั้นน้ำแตก ส่วนอาคาร สน.สามเสน ที่ได้รับผลกระทบ แม้ตามหลักการเสาเข็มหลักของอาคารอาจมีโอกาสที่จะทรุดตัวลงไปอีกได้ แต่ในทางปฏิบัติอาคารยังคงตั้งอยู่ได้ เนื่องจากมีการถ่ายเทน้ำหนักไปยังเสาเข็มอื่น ๆ ซึ่งคล้ายคลึงกับกรณีรถตู้คอนเทนเนอร์ชนอาคารที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ส่วนการตัดสินใจว่าจะรื้อถอนอาคารหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าของและผู้รับเหมาเป็นหลัก ส่วนอาคารอื่น ๆ โดยรอบยังคงอยู่ในสถานะที่ปลอดภัยและไม่เข้าข่ายความเสี่ยงไม่ถึงขั้นต้องทุบทิ้ง ส่วนที่มีข้อกังวลของประชาชนเกี่ยวกับพื้นที่ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าและหลังสร้างเสร็จจะปลอดภัยหรือไม่นั้น ในขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างพื้นที่เหล่านี้อาจไม่มีความมั่นคง แต่เมื่อก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์จะมีความมั่นคง ปลอดภัย และต้องมีการทดสอบความปลอดภัยเรียบร้อยแล้วถึงเปิดให้บริการ.-416-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ส่งหนังสือแจ้งพร้อมแถลงนโยบาย 29 ก.ย.เป็นต้นไป

รัฐสภา 25 ก.ย.- “นายกฯ อนุทิน” ส่งหนังสือแจ้ง “ประธานรัฐสภา” พร้อมแถลงนโยบายรัฐบาล 29 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป เตรียมส่งเล่มนโยบาย-คำแถลงรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ต่อรัฐสภาวันนี้ ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนส่งมายังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เรื่องการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา โดยในวันนี้ (25 ก.ย.) รัฐบาลจะส่งเล่มนโยบายจำนวน 1 เล่ม มายังรัฐสภาพร้อมกับคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้กำหนดวันพร้อมที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2568 เป็นต้นไป .-316 -สำนักข่าวไทย

ทภ.1 แจ้งเลื่อนการประชุม RBC สมัยพิเศษ

25 ก.ย. – กองทัพภาคที่ 1 แจ้งเลื่อนการประชุม RBC สมัยพิเศษ ไปเป็น ต.ค. 68 เหตุข้อมูลทั้งสองฝ่ายยังไม่สมบูรณ์ ขณะที่ทหาร ตำรวจ อส. เตรียมรับสถานการณ์ชายแดนสระแก้ว ย้ำกองกำลังไทยมีความพร้อมเผชิญทุกสถานการณ์ เพจเฟซบุ๊กกองทัพภาคที่ 1 โพสต์ข้อความว่า กองทัพภาคที่ 1 ขอเลื่อนการประชุม RBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1 ด้าน ทภ.1 และ ภท.5 ในห้วง 25-27 กันยายน เป็นเดือนตุลาคม แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน เนื่องจากรายละเอียดในการประชุมของทั้งสองฝ่ายยังไม่สมบูรณ์ ยังต้องมีการจัดทำให้ครบถ้วน จึงมีความเห็นร่วมกันทั้งสองฝ่ายให้เลื่อนการประชุมออกไป กำลังพล 3 ฝ่าย พร้อมรับสถานการณ์ชายแดนสระแก้วขณะที่กำลังพล 3 ฝ่าย คือ ทหาร ตำรวจ อส. เตรียมรับสถานการณ์ชายแดนสระแก้ว พร้อมติดตามการสร้างถนนเชื่อมชุมชน ย้ำกองกำลังไทยมีความพร้อมเผชิญทุกสถานการณ์ ขณะที่ผู้ว่าฯ ระบุหลังวันที่ 10 […]