กทม.แถลงประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย

กรุงเทพฯ 28 มี.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. แถลงประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย เผยได้รับรายงานผู้เสียชีวิตในพื้นที่ กทม. จากเหตุแผ่นดินไหว เบื้องต้น 5 ราย ทั้งหมดอยู่ในจุดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคาร


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงหลังจากตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า ทันทีที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อประมาณ 13.30 น. วันนี้ (28 มี.ค.68) หลังการประเมินสถานการณ์ กทม.ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่ ใช้อำนาจตามใช้อำนาจตามแผนปฏิบัติการแห่งชาติที่ให้อำนาจผู้ว่าฯ ที่เมื่อประกาศก็สามารถสั่งการระหว่างหน่วยต่าง ๆ ที่ขอความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานซึ่งปัจจุบันมีความร่วมมือกับทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยอย่างเข้มแข็ง

ปัจจุบันเมื่อดูความเสียหายเกิดขึ้น พบว่าเกิดกับกับอาคารที่กำลังก่อสร้าง อาคารที่มีความเสียหายรุนแรงมากที่สุดคืออาคาร สตง.ที่อยู่ในเขตจตุจักร อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคาร 33 ชั้น มีการทรุดตัวลง เบื้องต้นมีรายงานพนักงานก่อสร้างติดอยู่ภายในประมาณ 83 คน มีแรงงานผู้เสียชีวิต 3 คน และช่วยเหลือออกมาได้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจุดบริเวณนั้นจะเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดของ กทม. ที่ได้รับรายงานเข้ามา


ส่วนอีกหนึ่งจุด มีเครนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างแถวเขตดินแดงที่ถล่มลงมา ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเช่นกัน ซึ่งจุดนั้นเบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งจุดของเครนที่ล้มลงกระทบกับทางด่วนดินแดงทางขาเข้าขาออกทำให้ต้องปิดการจราจร นอกจากนี้ ยังมีอีกจุดอาคารนั่งร้าน ที่เขตบางซื่อ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ถล่มและมีผู้เสียชีวิตเป็นคนงาน 1 คน

จุดอื่น ๆ ที่เหลือก็จะมีสภาพอาคารแตกร้าวบ้างหลังจากนี้ต้องมีการตรวจสอบความมั่นคงของอาคารต่อไปส่วนโครงสร้างพื้นฐานหลักๆ ส่วนที่ข่าวสลิงสะพานขาดเป็นเพียงข่าวลือยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งตัวสะพานอาจจะมีรอยแตกร้าวบ้าง แต่ไม่ได้อยู่ในสภาพวิกฤติที่จะก่อให้เกิดการวิบัติ ตอนนี้ขอให้ประชาชนเฝ้าฟังข่าวด้วยความระมัดระวังโดยตอนนี้ต้องอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายอยู่ในวงจำกัด ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมเขตอื่นเพิ่มเติมจากที่รายงาน

โดยอาคารในกรุงเทพมหานครที่เป็นอาคารใหม่ส่วนใหญ่สร้างตามรองรับการแผนรองรับแผ่นดินไหวได้ ซึ่งสามารถรับแรงแผ่นดินไหวได้ขนาดมากกว่าที่เกิดขึ้นครั้งนี้


ส่วนอาคารที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นอาคารที่ก่อสร้างไม่เสร็จทำให้อาคารที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นอาคารที่ก่อสร้างไม่เสร็จทำให้มีความอ่อนแอจึงขอยืนยันว่าไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก

ตอนนี้ต้องกังวลคือเรื่องของโรงพยาบาลที่จะมีการอพยพผู้ป่วยผู้ป่วยที่อยู่ในห้องฉุกเฉินต้องการเครื่องช่วยชีพต่างๆ ซึ่งทางโรงพยาบาลต่างๆ ได้ให้แนวปฏิบัติแต่ละเขตให้ช่วยดูแลแล้ว โดยได้สั่งการให้สำรวจโครงสร้างก่อนว่ามีความเสียหายหรือไม่ เช่น ตัวอาคาร หากเสียหายไม่รุนแรงผู้ป่วยที่มีความจำเป็นสามารถกลับเข้าอาคารได้ ส่วนผู้ป่วยที่ไม่จำเป็นก็ขอให้สามารถกลับบ้านได้ก็ขอให้กลับไปก่อนเพื่อไม่ให้เป็นภาระของโรงพยาบาลหากมีความต้องการฉุกเฉิน

ล่าสุดมีรายงานว่า โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครได้รับรายงานว่าได้รับความเสียหายในตัวโครงสร้างสามารถนำผู้ป่วยล่าสุดโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครได้รับรายงานว่าได้รับความเสียหายในตัวโครงสร้างสามารถนำผู้ป่วยที่จำเป็นกลับเข้าสู่ภายในในอาคารได้

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามกฎหมายควบคุมอาคารที่ออกแบบหลังปี 2550 สามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ แผ่นดินไหวที่กทม.ได้รับผลกระทบคราวนี้ ยังต่ำกว่าตามกฏหมายควบคุมอาคารที่สร้างหลังปี 2550 จึงยังสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ ส่วนอาคารเก่าก็จจะต้องตรวจสอบต่อไป

ผู้ว่าฯ กทม.ย้ำหากประชาชนพบรอยร้าวบริเวณบ้าน ตามอาคาร และไม่มีความมั่นใจ ให้แจ้งเข้ามาได้เพื่อจัดทีมวิศวกรเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ผ่านทางทราฟฟี่ ฟองดูว์ โทร.1555 โดยตอนนี้มีแจ้งผ่านทอฟฟี่ฟอร์มดูมา 165 เคส ส่วนใหญ่เป็นอาคารบ้านที่มีจุดร้าวให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ผู้ว่าฯ กทม ย้ำว่าตอนนี้มีแจ้งผ่านทอฟฟี่ฟองดูมา 165 เคสส่วนใหญ่เป็นอาคารบ้านที่มีจุดร้าวให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ แต่ตัวรอยร้าวอาจเกิดบริเวณผนังไม่ได้กระทบถึงโครงสร้างจึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก หากไม่มั่นใจให้ขอให้ กทม.ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ

ส่วนที่จุดอาคารถล่ม พื้นที่เขตจตุจักร ผอ.เขตจตุจักร ได้ลงพื้นที่หน้างาน บัญชาการเหตุการณ์แล้ว โดยในจุดอาคารซึ่งจุดที่กำลังก่อสร้างอาคารที่เขตจตุจักรนั้น ก่อสร้างเป็นลักษณะแพนเค้ก 33 ชั้น ซึ่งช่วงเกิดเหตุคาดว่ามีคนงานอยู่ทุกชั้น คาดอยู่ระหว่างการตกแต่งอยู่ภายใน. -417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]

ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ อาจต้องใช้สิทธิป้องกันตนเอง

12 ส.ค.- ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพล ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า […]

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย