“บิ๊กป้อม” ซักฟอก 10 นาที นายกฯ แจงที่พูดมาไม่เป็นความจริง

อภิปรายนายก

รัฐสภา 24 มี.ค.- “บิ๊กป้อม” ลุกอภิปรายครั้งแรก ซัดแรง “ประเทศไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” ชี้มีพฤติการณ์ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารประเทศ เหตุเศรษฐกิจล้มเหลว-เสี่ยงเสียดินแดนปม MOU44-กาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ ลั่น เคยใช้ใจบันดาลแรง บริหารประเทศสำเร็จหลายอย่าง แนะ นายกฯ เห็นประโยชน์ประเทศมากกว่าครอบครัว-พวกพ้อง ขณะที่ นายกฯ ลุกขึ้นแจงสภาครั้งแรกย้อนกลับ คำพูด “ประวิตร” ทุกอย่างที่พูดมาไม่เป็นความจริง


เมื่อเวลา 09.06 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ต่อจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทน ซึ่งในระหว่างที่พลเอกประวิตร กำลังแนะนำโต้ตอบประธานสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วง ตามข้อบังคับข้อที่ 9 เพื่อความชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนเป็น สส. ตั้งแต่ 7 สิงหาคมปีที่แล้ว เข้าประชุมทุกครั้งแต่ไม่เคยเจอพลเอกประวิตรเลยสักครั้ง จึงขอให้ประธานวินิจฉัยว่าพลเอกประวิตรเป็นผู้เหมาะสมที่จะทำการอภิปรายวันนี้หรือไม่ เพราะตั้งแต่ร่วมประชุมสภามายังไม่เคยเห็นพลเอกประวิตร มาร่วมประชุมเลยสักครั้ง

ทำให้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า เป็นคนละประเด็น เพราะการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีข้อบังคับเรื่องการมาประชุม ซึ่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้พิจารณา แต่วันนี้มาตามข้อบังคับการขออภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ในฐานะสมาชิกรัฐสภาจึงมีสิทธิ์ที่จะอภิปราย จึงขอให้นายก่อแก้วนั่งลง เพราะตนวินิจฉัยแล้วไม่ได้ผิดข้อบังคับ เพื่อเป็นการควบคุมให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย


จากนั้นพลเอกประวิตร ได้ขึ้นอภิปรายต่อทันทีจากนั้นพลเอกประวิตร​ อภิปรายต่อว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้เข้าชื่อเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจเป็นที่ไว้วางใจ ให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ต่อไปอีก​

พลเอกประวิตร​ กล่าวบทถึงการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีล้มเหลว วันนี้ประชาชนแสนสาหัสเกิดปัญหาทุกข์ยากทุกหัวระแหง ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไขจากที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นสัญญา พนักงานถูกเลิกจ้าง บริษัทห้างร้านปิดกิจการจำนวนมาก การแก้ไขปัญหาผิดที่ผิดทาง ประชาชนเกิดปัญหาหนี้สิน ทั้งในระบบและนอกระบบ นี่ครัวเรือนสูงขึ้นถึง 104 % ราคาข้าวโพดข้าวสารหมั่นสำปะหลังอ้อยปาล์มน้ำมัน พืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ตลาดหุ้นดำดิ่ง​ เศรษฐกิจไทยมืดหม่น​ แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉยไม่มีมาตรการใดๆมาแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ซึ่งจริงๆตนพยายามเอาใจช่วยนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาประชาชนให้สำเร็จ เพราะเห็นว่านายกรัฐมนตรีเคยบริหารด้านเศรษฐกิจมาก่อน และงานธุรกิจมาก่อน ก็คงมีประสบการณ์ที่จะช่วยประเทศชาติได้บ้าง แต่ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีไม่สามารถแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจให้ดีขึ้นซ้ำยังถอยหลัง จนGDP ประเทศไทยรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน และที่สำคัญคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการตัดงบประมาณนับแสนล้าน ที่ควรอัดฉีด แต่ในยุครัฐมนตรีกับนำเงินก้อนดังกล่าวไปแจกในโครงการเงิน ซึ่งธนาคารโลกและกองทุน IMF ได้มีการออกมาเตือนแล้ว ว่าการแจกเงินหมื่นนั้นไม่ได้ผล แต่ควรกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆแทน ซึ่งหากนายกรัฐมนตรี ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านวันนี้คนไทยคงไม่ลำบากทุกข์ใจในเรื่องปากท้องอย่างแสนสาหัส ฉะนั้นท่านจะนำพาประเทศให้รอดพ้นปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร

ส่วนประเด็นที่ 2 พลเอกประวิตรกล่าวว่า ต้นห่วงประเทศชาติเป็นอย่างมากและไม่สบายใจต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่อง MOU 44 ที่วันนี้นายกรัฐมนตรีนำพาประเทศชาติไปสู่ความเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดนทรัพยากรทางทะเลที่มีมูลค่ามหาศาล และที่น่าเศร้าใจ คือเรื่องลูกเรือประมงของไทย​ นายกรัฐมนตรี รับปากว่าจะนำกลับมาประเทศไทยแต่นี่ 4 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้กลับ​ ฉะนั้นตนในฐานะที่ทำงานด้านความมั่นคงมาตลอดชีวิตและเป็นผู้บัญชาการทหารบกเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนทราบดีว่างานด้านความมั่นคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ซึ่งตนเห็นใจนายกรัฐมนตรีที่ต้องมาเป็นผู้ตัดสินใจ ในเรื่องความมั่นคงของชาติให้มีเสียงร้อง ทั้งนี้ประเทศชาติไม่ใช่เวที ที่จะมาให้มือสมัครเล่น​มาซ้อมมือได้


ส่วนประเด็นที่ 3 การบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะร่างกฎหมาย สถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือ​ เอ็นเต​อร์เทนเมนท์​คอมเพล็กซ์​ ที่รัฐบาลพยายามผลักดัน แต่มันมีช่อง ที่ทำให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบายเพื่อประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง ขอย้ำว่ากาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ​ และอันตรายอย่างที่สุด ก็จะทำให้สังคมอ่อนแอ และเกิดธุรกิจสีเทา ติดตามมาอีกมาก ซึ่งทุกวันนี้การปฏิบัติละเลยเรื่องต่างๆส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงิน และธุรกิจสีเทา รวมไปถึงปัญหาอาชญากรรมรวมไปถึงมีปัญหาพนันออนไลน์มากอยู่แล้ว​

พลเอกประวิตร​ ยังระบุอีกว่า อีกประเด็นที่สำคัญคือนายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4)(5) ที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์​ เพราะท่านทำพฤติกรรมอำพรางยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม โดยเฉพาะในเรื่องการถือหุ้นอัลไพน์ ครั้งที่รู้ว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์แต่ท่านไม่ควรแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ผิด นอกจากนั้นท่านยังปล่อยปละละเลยให้บุคคลในครอบครัว มากระทำให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่

พลเอกประวิตร ยังกล่าวอีกว่าการที่บุคคลในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีเรียกแกนนำต่างๆไปพูดคุยในการจัดตั้งรัฐบาลในบ้านจันทร์ส่องหล้า และบุคคลในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลต่อไปในทางครอบงำหรือไม่ เรื่องนี้ขอให้ เป็นไปตามการตรวจสอบขององค์กรที่เกี่ยวข้อง ส่วนผลจะเป็นอย่างไรตนเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินท่านเอง

พลเอกประวิตร​ยังกล่าวในช่วงท้ายว่าสิ่งที่ตนกล่าวมาไม่ใช่เป็นการกล่าวหาแต่เป็นไปตามหลักฐานข้อเท็จจริงทุกประการ ซึ่งส.สของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 4 คน จะนำเสนอในรายละเอียดต่อไป ตนต้องขอขอบคุณทุกคนและนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงประชาชนทุกคนในสิ่งที่ตนพูด ตนเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง อาจไม่กระฉับกระเฉงเท่าตอนเป็นหนุ่มๆ”

ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากที่ประชุมสภารวมไปถึงนายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรมเวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทยด้วย

จากนั้นพลเอกประวิตร ยังกล่าวอีกว่า ตนใช้ใจบันดาลแรง ในการบริหารประเทศได้สำเร็จมาได้ ในหลายๆ ด้าน ส่วนนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนหนุ่มสาวแข็งแรง ตนก็เชื่อว่านายกจะบริหารประเทศด้วยสติปัญญาและมีความอ่อนน้อม แต่หนักแน่นในหลักการ ยึดถือประโยชน์ประเทศชาติมากกว่าครอบครัวและพวกพ้อง ซึ่งจะทำให้ประชาชนชื่นชมและตอบรับท่านเอง

โดยหลังจากการอภิปรายเสร็จสิ้น ห้องประชุมได้ปรบมือให้กับพลเอกประวิตร จนประธานในที่ประชุมขณะนั้นถึงกับต้องกล่าวเบรกว่าไม่ต้องปรบมือครับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการอภิปรายของพลเอกประวิตร มีท่าทีที่เหนื่อย และมีการหยุดเว้นหายใจบางจังหวะ

ภายหลัง พลเอกประวิตร อภิปรายเสร็จ ในเวลา 09.19 น. นางสาวแพทองธาร​ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ ลุกขึ้นชี้แจงครั้งแรก โดยระบุ เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีสมาชิกฝ่ายค้านขึ้นมาอภิปรายในประเด็นต่างๆ ต่อจากนี้อีกหลายท่าน ตนจะพยายามตอบทุกหัวข้อจะได้มีความสบายใจเกิดขึ้น สำหรับสมาชิกหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผู้อาวุโสตนได้ฟังท่านพูด และจับเวลาการอภิปรายจากนาฬิกาของตนเองได้ 10 นาที และอยากจะบอกว่า ”ที่ท่านสมาชิกอาวุโสพูดเมื่อสักครู่นี้ ไม่เป็นความจริงค่ะ ขอบคุณค่ะ” จากนั้นนายกรัฐมนตรีก็ได้นั่งลงทันทีไม่ได้มีการชี้แจงในประเด็นอื่นใดต่อ .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]