เตรียมเปิดภาพบาดแผล “แตงโม” ถูกแทง พรุ่งนี้

17 ก.พ.- ดีเอสไอคาดรู้ผลเก็บข้อมูลตาม GPS เรือ ภายใน 2 สัปดาห์ ด้าน “ปานเทพ” พอใจการเก็บรวบรวมข้อมูลวันนี้ เตรียมเปิดหลักฐานภาพบาดแผล “แตงโม” ถูกแทง


ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลตลอดทั้งวันซึ่งใช้เวลานานกว่า 8 ชั่วโมง ทางด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีแตงโม ระบุว่า คณะพนักงานสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มาตรวจพื้นที่ทั้งหมดโดยการนำของภาคประชาชนที่ได้รวบรวมข้อมูลและส่งให้คณะพนักงานสืบสวนจำนวน 8 จุด ทางคณะพนักงานสืบสวนได้ขยายเพิ่มไปอีกหลายจุด มีการถ่ายภาพทางอากาศ โดยการใช้โดรนสแกนบริเวณริมตลิ่งทั้งหมด และสแกนจุดที่น่าสนใจทั้งหมด 8 จุด ส่วนจุดที่มีการเก็บเพิ่มเติมมานั้น จะต้องนำไปวิเคราะห์ก่อนว่ามีจุดไหนที่น่าสนใจเพิ่ม ซึ่งทั้งหมดเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จะมีความคาดเคลื่อนน้อยที่สุด โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ประกอบกับข้อมูลพยานบุคคล หรือคลิปวิดีโอที่ได้มา โดยเฉพาะที่มีการเอาไปเปิดเผยในโลกโซเชียลที่จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง อยู่ในขั้นตอนที่พนักงานสอบสวนจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และจะส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อความแน่นอน แม่นยำของข้อมูลที่จะนำมาใช้ในคดี คาดว่าน่าจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ น่าจะได้ภาพออกมา และจะนำออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน

จากนั้นจะให้นิติวิทยาศาสตร์มาช่วยเก็บข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของน้ำ ว่า มีชนิดของน้ำที่น่าสงสัยหรือไม่ แต่ต้องขอรอผลการวิเคราะห์ก่อน วันนี้ยังไม่ได้มีการเก็บน้ำ ส่วนโคลนกับทรายในอดีตมีการเก็บไว้แล้ว อยู่ในสำนวนของดีเอสไอที่จะไปดูอีกครั้งว่าจะต้องเก็บเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งจะต้องเก็บทุกอย่างมาตรวจสอบให้สิ้นข้อสงสัย พร้อมบอกว่าในวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.68) จะมีพยานมาให้ข้อมูลอีก 2 คน ซึ่งตอนนี้ทางดีเอสไอเองยังไม่สามารถบอกข้อมูลได้ เนื่องจากพึ่งได้รับการประสานมา และยังไม่รู้ว่าพยานทั้ง 2 คนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร


นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการ ส่วนแผนที่และเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า ส่วนแผนที่และเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า ทางกรมชลประทานได้นำข้อมูลมาให้ดูแล้วในการสำรวจเรือด้วยคลื่นโซนาร์ใต้น้ำ ตั้งแต่จุดเกิดเหตุบริเวณร้านอาหารบ้านตานิด ไปจนถึงสะพานพระราม 8 ทำให้เห็นแผนที่ใต้น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ความลึกของแม่น้ำทุกตำแหน่ง อีกส่วนได้ใช้โดรนในการถ่ายด้านบนครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดระยะทาง 16 กิโลเมตร ทำให้เห็นรายละเอียด 2 ฝั่งแม่น้ำ ทั้งอาคาร ท่าเรือ สถานที่ต่างๆ ในส่วนที่สองทางกรมชลประทานได้ทำเสร็จแล้วอยู่ระหว่างการประมวลผลเพื่อส่งมอบให้ อีกส่วนทางดีเอสไอได้ใช้เครื่องสแกนขนาดเล็กได้เก็บจุดต่างๆ 8 ตำแหน่งที่น่าสนใจ เช่น จุดที่พบศพ โรมแรมริเวอร์เดล วัดค้างคาว ซึ่งมีการเก็บข้อมูลเป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปจะต้องนำข้อมูลที่เก็บได้ในวันนี้ไปประมวลผล ซึ่งในวันนี้การเก็บข้อมูลค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะสามารถดูผลได้เลย เท่าที่ดูการเก็บข้อมูลในวันนี้ก็ได้เกือบ 100%

ด้านอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า วันนี้ได้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ และเป็นสักขีพยานในฐานะภาคประชาชน และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่เป็นผู้ร้อง และเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลในครั้งนี้ด้วย ส่วนข้อมูลจุดสังเกตทั้ง 8 จุด เป็นข้อมูลที่ภาคประชาชนร่วมกันทำงานมา 3 ปี ทั้ง เป็นจุดที่เกี่ยวกับตำแหน่ง GPS ทั้งหลาย ที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจของคนบนเรือในทุกมิติ ไม่ว่าประเด็น ในเรื่องของการเสียชีวิตขณะอยู่บนเรือ หรืออยู่นอกเรือ, จุดที่ออกจากเรือ หรือจุดที่นำมาตกน้ำ โดยจุดที่นำมาตกน้ำที่ไม่ได้แปลว่าเป็นการเสียชีวิต จากการตกน้ำ

นอกจากนี้ตลอดละระเวลาที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ ยังได้มีการสำรวจตำแหน่งดิน ลักษณะดิน แม้กระทั่งในช่วงที่มีการจำลองเหตุการณ์กับมิสแกรนด์ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้การสำรวจพื้นที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และอีกหลายหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือ กระบวนการที่เกิดขึ้นทำให้เรามั่นใจว่าจะได้ผู้กระทำความผิด และผู้ที่ให้ในการช่วยเหลือคนบนเรือ หรืออาจจะแยกเป็นคดีอื่นอีก ทำให้เราเชื่อว่าความยุติธรรมจะกลับมาให้กับคุณแตงโมได้ดีขึ้นมากกว่าเดิม


ด้านอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ยังกล่าวต่อว่า รู้สึกพอใจ ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเชื่อว่าการเสียชีวิตในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับใบพัดเรือ และไม่ใช่การตกน้ำธรรมชาติ การที่ภาคประชาชน ประสานข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นวิธีเดียว ที่จะนำข้อมูลที่เข้าสู่กระบวนการถูกต้องตามกฎหมาย การขอความร่วมมือหรือการสืบค้นข้อมูล ทั้งนี้ตัวเองและอัจฉริยะ เชื่อว่าอาจจะมีคดี ที่เป็นเลขคดีได้ไม่เกินเดือนพฤษภาคม นี้

ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า พรุ่งนี้ (18 ก.พ.68) เวลา 18.30 น. จะให้อาจารย์ปานเทพเปิดภาพบาดแผลที่แตงโมถูกแทง เชื่อว่าเป็นภาพที่หลายคนยังไม่เคยเห็น ซึ่งส่วนตัวได้ส่งภาพไปให้อาจารย์ปานเทพแล้ว โดยภาพนี้ตัวเองและทางดีเอสไอได้มีการตรวจสอบภาพนี้แล้ว ส่วนการพิจารณาคดีของศาลจังหวัดนนทบุรีในเดือนพฤษภาคมนี้จะตัดสินอย่างไรเป็นดุลยพินิจของศาล ซึ่งไม่เกี่ยวกับการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ด้านนายพิชัยภูษิต บุตรเนียม หรือ แป๊ะซะ อดีตผู้จัดการส่วนตัว ของแตงโม กล่าวว่า ไอจีเก่าของแตงโม ปลิวไปไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร อาจารย์ธวัชชัยบอกว่าจะให้ตัวเองทำไอจีของโมขึ้นมาใหม่ เพื่อจะสร้างเรื่องราวดีๆ สร้างสตอรี่ให้คนได้รำลึกได้นึกถึงแตงโม โดยภาพที่จะนำมาลงเป็นภาพผลงาน รวมถึงสมัยเรียนมหาลัย และไลฟ์ต่างๆ โดยในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้จะทำบุญให้กับแตงโมครบรอบ 3 ปี โดยจะเชิญสื่อมวลชนและคนที่รักแตงโมที่วัดปากน้ำ จังหวัดนนทบุรี เนื่องจากใกล้กับท่าเรือพิบูล 1 ในงานจะทำบุญถวายเพลพระ โดยมีอะตอม สัมพันธภาพ, ฮิปโป มาร่วมงานด้วย ส่วนวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ พี่เอ ศุภชัยจะจัดงานปิดแบบส่วนตัวที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงแตงโมทุกปี .419 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]