เริ่มแล้ว! จำลองเหตุการณ์ตกเรือ คดี “แตงโม”

จำลองแตงโมตกเรือ

นนทบุรี 16 ม.ค.- เริ่มแล้ว! จำลองสถานการณ์ตกเรือ คดี “แตงโม” ว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ ด้านดีเอสไอร่วมสังเกตการณ์ตลอดการทดสอบ


นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วยนายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล และอาสาสมัคร จำลองเหตุการณ์เป็นแซน และแตงโม จำนวน 6 คน ประกอบด้วยครูลิต้า วีรันดา อัครวาณิช ครูสอนว่ายน้ำนางเงือก, นิวหยก สุพรรณิการ์ นพรัตน์ มิสแกรนด์ชุมพร 2025, ฟ้าบาร์บี้ วิศัลย์ศยา ภคศุภกุล มิสแกรนด์เชียงใหม่ 2025, ปอย เฌอลินณ์ ไกรอารยะพัทธ์ มิสแกรนด์นครพนม 2025, เฟ-ริน วีรินท์ แก้วปุก มิสแกรนด์นครสวรรค์ 2025 และหนูวรรณ กัลยาวรรณ เพ็ชร์อินทร์ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา 2025 ร่วมกันแถลงข่าวจำลองสถานการณ์เหตุแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565

นายปานเทพ กล่าวว่า วันนี้มีการจำลองสถานการณ์ 7 ครั้ง โดยเริ่มด้วยทำพิธีขอขมาพระแม่ธรณี พระแม่คงคา จากนั้นจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครลงเรือดูบรรยากาศในแม่น้ำเจ้าพระยา และจำลองเหตุการณ์ขณะที่แตงโมเข้าห้องน้ำบนเรือ จะมีการเก็บภาพทั้งบนเรือ ใต้น้ำ และโดรนทางอากาศ จุดที่ 2 คือ ท่าน้ำพิบูลย์ 1 จะให้อาสาสมัคร 7 คน ตกน้ำคนละ 1 ครั้ง เป็นมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 5 คน และครูลิต้า ซึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็นตัวแทนของแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ด้วย ส่วนอาสาสมัครคนที่ 7 ที่จะจำลองเหตุการณ์ตกน้ำคือ พันเอก นายแพทย์ ธวัชชัย เพื่อไขข้อสงสัยที่ยังมีอยู่ หลังจากได้มีการซักซ้อมจากตกน้ำด้วยตัวเองไปเมื่อวานที่ผ่านมา (15 ม.ค. 68) โดยการจำลองเหตุการณ์การตกน้ำ จะมีหน่วยกู้ภัยทางน้ำไว้ดูแลความปลอดภัย


ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวว่า จะมีการเก็บตัวอย่างดิน เพื่อส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ จุดแรกบริเวณจุดตก และจุดที่สองบริเวณจุดที่เรือกระชากวิ่งด้วยความเร็วที่ 3.3 ถึง 10 น็อต และจุดที่สามเป็นจุดที่ห่างจากสะพานพิบูลย์ 1 ที่ท่าทรายตรงประตูน้ำจะมีโคลน ทราย และใบไม้อยู่ตรงจุดนั้น ความลึกจุดนั้น 10.3 เมตร จะมีการเก็บโดยใช้แท่งพีวีซีเก็บชั้นดินประมาณ 60 ซม. โดยมีการบันทึกภาพใต้น้ำขณะเก็บตัวอย่างดิน การจำลองเหตุการณ์วันนี้จะมีระบบดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดโดยมีเรือยางและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ตัวเองมั่นใจว่า การเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดาไม่ได้เกิดจากความประมาท และพลัดตกจากท้ายเรือ อีกทั้งบาดแผลก็ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ โดยเส้นผม 3 เส้น ที่ตำรวจนำไปใช้เป็นหลักฐานส่วนตัวมองว่าเป็นพยานงอกที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยแนวทางการเคลื่อนไหวตัวเองตั้งเป้าหมายไว้ คือการทำคดีนี้ให้เหมือนคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส เบื้องต้นวางกลยุทธ์ไว้ คือ 1.ตราบใดที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ยังไม่มีคำพิพากษาคดีชั้นต้น อำนาจการแก้ไขคำฟ้องเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ซึ่งขณะนี้ได้รับความเมตตาจากกระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการเข้าร่วมสังเกตการณ์และตรวจสอบสำนวนคำฟ้องเพื่อยื่นต่อพนักงานอัยการสูงสุด 2.ในวันพรุ่งนี้ตัวเองจะเข้าร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษให้มีการสืบสวนสอบสวนกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง เช่น อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดี, แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และ คนบนเรือทั้ง 5 คน เพื่อให้ดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือร่วมกันทุจริต และร่วมกันช่วยเหลือคนบนเรือทั้ง 5 คนให้พ้นผิดหรือรับโทษน้อยลง โดยมีคนบนเรือทั้ง 5 คนให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ต้องส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.

ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับมารดาของนางสาวภัทรธิดา ซึ่งตัวเองสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษตามความผิดคดีอาญาแผ่นดินได้ เบื้องต้นมองว่า แม้ผลที่ออกมาจะเป็นคดีฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้พิสูจน์ความจริง


ด้านนายแพทย์ธวัชชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตัวเองไม่ได้มีความคิดอยากจะโดดเรือ แต่เมื่อเห็น บอส ณวัฒน์ และมิสแกรนด์ รวมถึง ครูลิต้า แสดงจำนงค์ชัดเจน ก็รู้สึกว่าอยากสร้างความเชื่อมั่นและเป็นการแสดงความจริงใจที่ทางทุกคนมาร่วมเหตุการณ์ในครั้งนี้ ยืนยันว่าจากการทำงานเมื่อวาน น้องๆ ไม่ได้หิวแสงและทำงานอย่างจริงจัง ทุกคนเต็มที่มากๆ การจำลองการตกเรือเมื่อวานมองว่าไม่เอนหลังก็ต้องเอนข้าง แต่อยากให้คนบนเรือพูดให้ตรงกับตอนแรกบอกยืนปัสสาวะ ภายหลังมาบอกว่านั่งปัสสาวะ จึงทำให้คนแสดง แสดงไม่ถูก อย่างการจำลองตกเรือเมื่อวาน ถ้าหากว่าไม่สปริงตัว ก็ตกเรือไม่ได้ เนื่องจากติดชุด ในวันนี้จึงขอร่วมตกเรือด้วย รอบสุดท้ายด้วย เพื่อที่จะตอบข้อสงสัยทั้งหมด

ขณะที่นายณวัฒน์ กล่าวว่า การต่อสู้ในครั้งนี้เป็นภารกิจสำคัญที่ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญทั้งสาม ซึ่งเข้ามาร่วมมือเพื่อค้นหาความจริง แตงโมเคยเป็นแฟนคลับมิสแกรนด์และเข้าร่วมชมการประกวดทุกปี การจากไปของแตงโมเป็นเรื่องสะเทือนใจ ก่อนหน้านี้แม้มีการเคลื่อนไหวเรื่องคดี แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จนกระทั่งนายอัจฉริยะได้รับการถอนฟ้อง คดีนี้จึงกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เรามีมิสแกรนด์ 77 จังหวัด และการที่เราร่วมมือกันในครั้งนี้ ทำให้ข้อมูลข่าวสารกระจายตัวได้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่อยากเน้นย้ำคือ ปัญหาของระบบกฎหมายไทยที่ไม่ยุติธรรม ไม่โปร่งใส คนไทยกว่า 90% เชื่อว่าแตงโมไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

นายณวัฒน์ ยืนยันว่า มิสแกรนด์ไม่ได้เป็นเพียงเวทีความงาม แต่เป็นองค์กรที่พร้อมขับเคลื่อนทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การเรียกร้องความยุติธรรมให้แตงโมคนเดียว เพราะแตงโมจากไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องการความยุติธรรมในระบบกฎหมาย ไม่ให้ใครใช้อำนาจหรือกฎหมายในมือเอาเปรียบประชาชน

นายณวัฒน์ ประกาศชัดว่า มั่นใจ 100% ว่าแตงโมถูกฆาตกรรม และย้ำถึงความสำคัญของสื่อมวลชนในการช่วยผลักดันประเด็นนี้ พร้อมกล่าวว่า หากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไม่รับเรื่อง จะนำตัวแทนมิสแกรนด์ทั้ง 77 จังหวัดไปยื่นเรื่องถึง DSI ภายใน 10 วัน หากการจำลองวันนี้ ถ้าเป็นอุบัติเหตุจริง ก็ให้มันจบไปทุกคนจะได้หายสงสัย แต่ถ้าคือการฆาตกรรม คนไทยต้องรู้ความจริง กฎหมายหรือผู้มีอำนาจจะไม่ได้อยู่เหนือความยุติธรรม เพราะเราในฐานะประชาชนที่เสียภาษีมีสิทธิ์เรียกร้องความจริง

นายณวัฒน์ ย้ำว่า การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่การหิวแสง เพราะมิสแกรนด์มีแสงอยู่แล้ว เราแค่แบ่งแสงเพื่อดันความจริงให้สังคมได้รับรู้ เพราะไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับแตงโมเป็นพฤติกรรมปกติของมนุษย์ และฝากถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษว่า คดีนี้เป็นเรื่องที่ควรได้รับการตรวจสอบอย่างเหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม เพราะนี่คือเสียงของประชาชนที่ต้องการความยุติธรรมและความโปร่งใสในสังคม

“ฟ้าบาร์บี้” มิสแกรนด์เชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้จะได้ร่วมค้นหาความจริง ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนทุกคนติดตามและอยากหาความชัดเจนให้กับคดีนี้ อยากขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจ ขอบคุณทีมงานทุกคนที่เปิดโอกาสให้พวกเรามาร่วมค้นหาความจริงในวันนี้

“ครูลิต้า” ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก กล่าวว่า ส่วนตัวจะทำให้เต็มที่และอยากให้การจำลองในครั้งนี้ออกมาให้กระจ่างและคลี่คลายให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ได้พูดคุยกับน้องมิสแกรนด์ ในเรื่องความปลอดภัย และการเตรียมตัว ซึ่งทุกคนก็เต็มที่สำหรับงานนี้ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ทุ่มเทและดูแลทุกอย่าง

“หนูวรรณ” มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ไม่อยากให้เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เชื่อมั่นว่าทางทีมผู้จัดเตรียมความปลอดภัยให้พวกเราแน่นอนและเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ขอบคุณทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของคดีในวันนี้ อยากให้ทุกคนรำลึกถึงพี่แตงโม ขอให้การทดลองในครั้งนี้ออกมาให้เป็นความจริง และให้พี่แตงโมหลับสบาย

“นิวหยก” มิสแกรนด์ชุมพร กล่าวว่า หวังว่าการพิสูจน์ในวันนี้ จะมีผลต่อรูปคดีไม่มากก็น้อย ขอบคุณทุกกำลังใจที่รอติดตามคดีนี้มาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว วันนี้เราเป็นส่วนหนึ่งในการไขคดี ขอให้ทุกคนเคารพพี่แตงโมด้วย ทุกคนจะทำให้เต็มที่เพื่อหาคำตอบให้กับตัวเองและคนไทยอีกหลายคน

“ปอย” มิสแกรนด์นครพนม กล่าวว่า ขอบคุณที่รื้อคดีนี้กล่าวมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาความจริง เพราะคนไทยสงสัยว่าคดีนี้แท้จริงแล้วเป็นยังไง

“เฟริน” มิสแกรนด์นครสววรค์ กล่าวว่า อยากบอกพี่แตงโม ว่าไม่ต้องเป็นห่วง จะทำให้เต็มที่เพื่อให้พี่ไปสบาย พร้อมกับขอบคุณแฟนคลับและประชาชนที่ซัพพอร์ตและให้กำลังใจพวกเราเสมอ

สำหรับการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูกว่า 20 คน คอยดูแลความปลอดภัยทั้งบนบกและในน้ำตลอดภารกิจ ทั้งการใช้เจทสกีและเรือขนาบข้าง ขณะที่พันตำรวจตรีณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมคณะทีมงาน และร่วมสังเกตการณ์ทั้งบนบกและในเรือตลอดการทดสอบด้วย อย่างไรก็ตามภายหลังการจำลองสถานการณ์เสร็จสิ้นในช่วงเช้า ช่วงบ่ายจะมีการแถลงผลการจำลองเหตุตกเรือ พร้อมมีการเสวนา ความจริง แตงโม ตายเพราะอะไร โดยผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอส .419 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]