นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 20 พ.ย. – นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 โดยมีวาระสำคัญ คือ วาระที่ 4 เรื่องที่เสนอเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยวันนี้จะมีการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง จตช. ลงมาถึง ผบช. และ จตร. วาระประจำปี 2567

ที่ประชุมก.ตร. ในวันนี้ นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรืนและรศ.ประทิต สันติประภพ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม เนื่องจากติดภารกิจ


สำหรับตำแหน่งว่างระดับรอง ผบ.ตร. 4 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 ตำแหน่ง ดังนี้
 
ระดับรอง ผบ.ตร. เป็นการพิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส โดยจะเลื่อน พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข, พล.ต.ท. นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท. กรไชย คล้ายคลึง และ พล.ต.ท. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.

ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นการพิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส โดยจะเลื่อน พล.ต.ท. ธนพล ศรีโสภา จตร. (หัวหน้าจเรตำรวจ), พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ท. อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ส., พล.ต.ท. กฤษฎา สุรเชษฐพงศ์ ผบช.สกบ., พล.ต.ท. อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ท. สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ท. สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.

ทั้งนี้ ระดับ ผบช. พิจารณาแต่งตั้งจากผู้มีอาวุโสไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของตำแหน่งที่ว่าง คิดเป็น 7 ตำแหน่ง ได้แก่ 


  1. พล.ต.ต. บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 
  2. พล.ต.ต. ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. 
  3. พล.ต.ต. วราวุธ สกลธนารักษ์ รอง ผบช.สตส. 
  4. พล.ต.ต. ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 
  5. พล.ต.ต. อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 
  6. พล.ต.ต. ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.5 
  7. พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2

มีรายงานว่า การประชุม ก.ตร. ช่วงแรกพิจารณาระดับ รองผบ.ตร. และผู้ช่วยผบ.ตร.ที่พิจารณาตามหลักเกณฑ์กฎหมายใหม่ยึดตามลำดับอาวุโส แต่พอมาถึงระดับ ผบช. ได้มีการพิจารณาไล่เรียงตำแหน่ง โดยคณะกรรมการที่พิจารณาได้ชี้แจงกฏเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายเดิมตำแหน่ง ผบช. ให้ผู้ที่ครองตำแหน่ง 2 ปีขึ้นเป็น ผบช. ปรับเป็นผู้ที่ครองตำแหน่ง 3 ปี ยกเว้น พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 นรต.41 สายตรง ร.ต.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ ขยับขึ้นเป็น ผบช. เสนอปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ผบช.หลักหลายตำแหน่ง ทำให้เกิดการวิจารณ์เป็นวงกว้างของ ก.ตร.เกี่ยวการแต่งตั้งรองผบช.นอกจากกลุ่มอาวุโส เป็นกลุ่มความรู้ ความสามารถที่มีชื่อข้ามคนอื่นขึ้นมา ก.ตร.บางคนเสนอให้เลื่อนการประชุม ก.ตร.ออกไปก่อน แต่ก.ตร.มีมติประชุมต่อ จนกระทั่งเวลา 17.00 น. มีการพักเบรกการประชุมเป็นเวลา 30 นาที ต่อมาเวลา 18.35 น. เสร็จสิ้นการประชุม

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุม ได้เดินทางกลับ โดยสื่อมวลชนพยายามสอบถามถึงการประชุมในวันนี้ว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ ยากหรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแต่ผายมือไปที่พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เท่านั้น ก่อนจะเดินทางกลับทันที

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ถึงการประชุมในวันนี้ว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ ทางพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ยกมือไหว้สื่อ ไม่ตอบคำถาม และยกนิ้วโป้งให้ เท่านั้น

ด้านพล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ เลขานุการ ก.ตร. เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมมีการพิจารณานายตำรวจระดับ รองผบ.ตร. จนไปถึง ผบช. รวมทั้งหมด 41 ตำแหน่ง ซึ่งการพิจารณาเป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อระเบียบและวิธีปฏิบัติที่ยึดระดับความอาวุโส ความรู้ความสามารถ ประกอบกัน โดยที่ประชุมมีการหยิบยกรายชื่อตัวบุคคลทุกตำแหน่งมาพิจารณาอย่างทั่วถึง เชื่อได้ว่าหลังจบการประชุมบุคคลที่ได้รับการพิจารณาแต่ละตำแหน่งจะมีความเหมาะสม

ส่วนที่มีกระแสข่าวระบุว่า ในที่ประชุมฯ มีการถกเถียงเรื่องการครองตำแหน่งอายุราชการที่นำมาใช้ประกอบการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง พล.ต.ท. อนุชา กล่าวยอมรับว่า ในที่ประชุมฯ นำรูปแบบดังกล่าวมาพิจารณาจริง แต่ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิผู้มีอายุราชการเพียง 2,3 และ 4 ปี แต่เป็นการพิจารณาทุกราย ทุกตำแหน่งเป็นไปด้วยความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าให้นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นใดรุ่นหนึ่งมาดำรงตำแหน่งเป็นพิเศษ รวมทั้งกระแสที่ว่าจะคัดเลือกเฉพาะเพื่อน นรต. เดียวกับผบ.ตร.

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวถึงการใช้เวลาพิจารณาวาระนี้นานกว่า 4 ชั่วโมงเนื่องจาก ก.ตร.ทุกท่านต้องการพิจารณาว่าคุณสมบัติแต่ละรายเป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ส่วนนายกฯ ในฐานะประธานได้นั่งควบคุมการประชุมตลอดเวลาจนแล้วเสร็จ พร้อมเปิดโอกาสให้คณะกรรมการทุกท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็น โดยไม่มีข้อท้วงติง หรือสั่งการเรื่องใดเป็นพิเศษ

ส่วนประเด็นที่ว่าการแต่งตั้งนายพลครั้งนี้มีเรื่องของการเมืองเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ พล.ต.ท. อนุชา ยืนยันว่าที่ประชุมฯ ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ แต่หากบุคคลใดที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมการฟ้องร้องเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้

เมื่อถามว่าการแต่งตั้งครั้งนี้จะทำให้หลายคนผิดหวังจนเสียน้ำตาหรือไม่ พล.ต.ท. อนุชา กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นรายชื่อบุคคลใดมาก่อน ตนเองมารับรู้ในฐานะเลขาฯ ในที่ประชุมเท่านั้น

สำหรับตำแหน่งที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ประกอบด้วย ผบช.น. คาดว่าเป็น พล.ต.ท.สยาม บุญสม จตร. นรต.รุ่น 46 ส่วนพล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จตร. นรต.รุ่น 48 ที่มีโผก่อนหน้านี้ โยกไป ผบช.ปส.

พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สนง.ผบ.ตร. (นรต.41) โยกมา ผบช.ภ.1
พล.ต.ท. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ. (นรต.41) โยกมา ผบช.ภ.2 
พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ศ. (นรต.40) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ภ.3 
พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 (นรต.42) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ภ.4 
พล.ต.ท. กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 (ที่เดิม)
พล.ต.ท. กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 (ที่เดิม)
พล.ต.ท. นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 (ที่เดิม)
พล.ต.ท. สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 (ที่เดิม)
พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 (ที่เดิม)

ส่วนตำแหน่งที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่

พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. (นรต.41) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.สตม., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. (นรต.46) โยกมาเป็น ผบช.สอท., พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.สพฐ., พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.สนง.ผบ.ตร. (นรต.47) โยกมาเป็น ผบช.ศ., พล.ต.ท.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบช.รร.นรต. (ที่เดิม), พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สนง.ผบ.ตร.(นรต.46) โยกมาเป็น ผบช.สกพ., พล.ต.ท. อุดร ยอมเจริญ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. โยกมาเป็น ผบช.ส. และ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. อยู่ที่เดิม.-419 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]