จัดโผนายพลสีกากี คาด “สันติ” ผงาดนครบาล

19 พ.ย. – “บิ๊กต่าย” นั่งหัวโต๊ะจัดโผนายพลสีกากี คาด “สันติ” ผงาดนครบาล “ภาณุมาศ” นั่ง ผบช.สตม. “สุรพล” โยกนั่ง ผบช.ภ.2


เวลา 19.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) จนถึง ผู้บัญชาการ (ผบช.) และจเรตำรวจ (จตร.) โดยมี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร. และผู้แทนสำนักงานข้าราชการพลเรือน ร่วมประชุม

ทั้งนี้การประชุมมีการเลื่อนนัดจากเวลาเป็น 13.00 น. มาเป็น 15.00 น. และ 18.30 น. เนื่องด้วย พล.ต.อ.ไกรบุญ ติดภารกิจ ก่อนจะมีการเริ่มประชุมในเวลา 19.30 น.


ในที่ประชุมได้ตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมในการคัดเลือกจากเอกสารประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง ได้แก่ บัญชีลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจ, บัญชีรายชื่อผู้อยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น, ประวัติของข้าราชการตำรวจ, ผลการปฏิบัติงาน และบันทึกสรุปผลการปฏิบัติงานมาด้วย

สำหรับตำแหน่งว่างระดับ รองผบ.ตร. 4 ตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 ตำแหน่ง ระดับ ผบช. 14 ตำแหน่ง

ระดับรอง ผบ.ตร. เป็นการพิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส โดยจะมีการเลื่อน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร.


ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นการพิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส โดยจะมีการเลื่อน พล.ต.ท.ธนพล ศรีโสภา จตร. (หัวหน้าจเรตำรวจ), พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ส., พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐพงศ์  ผบช.สกบ., พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.

ระดับ ผบช. พิจารณาแต่งตั้งจากผู้มีอาวุโสไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของตำแหน่งที่ว่าง คิดเป็น 7 ตำแหน่ง ได้แก่ 1.พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6, 2.พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., 3.พล.ต.ต.วราวุธ สกลธนารักษ์ รอง ผบช.สตส., 4.พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2, 5.พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7, 6.พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.5, 7.พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2

สำหรับตำแหน่งที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ประกอบด้วย ผบช.น. คาดว่า พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จาก จตร.(สบ.8) นรต.รุ่น 48, พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ. (นรต.41) โยกมา ผบช.ภ.1, พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สนง.ผบ.ตร. (นรต.41) โยกมา ผบช.ภ.2, พล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง รอง ผบช.ภ.6 (นรต.43) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รองผบช.ภ.2 (นรต.42) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ภ.4, พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 (ที่เดิม), พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 (ที่เดิม), พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 (ที่เดิม), พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 (ที่เดิม), พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 (ที่เดิม)

ส่วนตำแหน่งที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม.(นรต.41) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.สตม., พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผบช.ภ.5 เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ตชด., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. โยกมาเป็น ผบช.ปส., พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ศ. (นรต.40) โยกมาเป็น ผบช.สพฐ., พล.ต.ท.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบช.รร.นรต. โยกมาเป็น ผบช.ศ., พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.สง.ผบ.ตร. (นรต.47) โยกมาเป็น ผบช.รร.นรต., พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สนง.ผบ.ตร. (นรต.46) โยกมาเป็น ผบช.สกพ., พล.ต.ต.มณฑล บัวจีบ รองผบช.ส.(นรต.43) โยกมาเป็น ผบช.สอท., พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 (นรต.41) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ส., พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. (ที่เดิม)

ทั้งนี้คาดว่าการประชุมกลั่นกรองเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายในทุกตำแหน่งที่เสนอเข้ามาเพื่อให้ได้ผู้บัญชาการที่เหมาะสมทั้งความอาวุโส, ความรู้ ความสามารถ และผลงาน ส่วนผู้ที่ในที่ประชุมคิดว่าไม่เหมาะสมจะมีการเสนอเปลี่ยนแปลงชื่อ

โดยจะมีการเสนอบัญชีรายชื่อที่ผ่านการพิจารณาเข้าสู่ที่ประชุมก.ตร.ครั้งที่ 10/2567 ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) และจเรตำรวจแห่งชาติ ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) ยศ พล.ต.อ.-พล.ต.ท. วาระประจำปี 2567 ต่อไป .-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]