“ทักษิณ” ปราศรัยครั้งแรกรอบ 18 ปี

อุดรธานี 13 พ.ย.- “ทักษิณ” ขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกรอบ 18 ปี ยันไม่ครอบงำนายกฯ มั่นใจขึ้นค่าแรง 400 บาทได้แน่ ชมเห็นแวว ‘อิ๊งค์’ นั่งนายกฯ แต่เด็ก


เวลา 16.35 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงเวทีปราศรัยที่วัดศรีนคราราม ตำบลกุมภวาปี อำเภอกุมภาวปี จังหวัดอุดรธานี โดยทันทีที่มาถึงได้ขึ้นกราบนมัสการ พระราชวัชรสุทธิ์ รองเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี โดยพระราชวัชรสุทธิ์ ได้มอบเหรียญพระเจ้าใหญ่ ให้กับนายทักษิณ พร้อมสนทนาตอนหนึ่ง ว่า ขอให้นายทักษิณหมั่นนั่งสมาธิ สวดมนต์ เพื่อให้จิตใจผ่องใส ไม่วุ่นวาย มีความสุข จะได้เป็นที่พึ่งของลูกหลาน ประชาชน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัติย์

พระราชวัชรสุทธิ์ ได้สอบถามกับนายทักษิณ ในช่วงที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณ ตอบกลับว่า 17 ปีที่ผ่านมาก็ต้องอดทนอดกลั้น และต่อไปนี้ตนจะขอกลับมาทำนุบำรุงศาสนา พร้อมกับหันกลับไปฝากกับทีมงานว่า หากขาดแคลนอะไรให้แจ้งมา


จากนั้น นายทักษิณ ได้เดินขึ้นมาทักทายประชาชน รับดอกไม้จากมวลชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมฟังปราศรัย และมาให้กำลังใจอย่างเป็นกันเอง พร้อมกล่าวว่า คิดฮอดพี่น้องคนอุดรหลายเด้อ นี่ 18 ปี เพิ่งจะได้ปราศรัยครั้งนี้ครั้งแรก ปราศรัยที่อุดร ที่บอกว่าเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง จากไป 18 ปีนี้ รวยขึ้นหรือยัง แต่ก่อนตอนที่ตนเองอยู่ คนอุดรมีควายหลายตัว แต่วันนี้เหลือกี่ตัว ขายหมดแล้ว เหลือแต่ชีวิต ควายไม่เหลือ เหลือแต่ชีวิต คนไม่ทันตอนที่ตนเองเป็นนายกฯ ตอนเป็นนายกฯ 20 กว่าปี ตอนนี้แก่แล้ว อายุ 75 ปีแล้ว

นายทักษิณ ระบุว่า วันนี้ขอเล่าความในใจนิดหนึ่ง ที่มาที่นี่ก็ขอพูดเล่นก่อนแล้วกันค่อยพูดจริง ตอนนี้กลับมาประเทศไทยมีเงินเดือน 700 บาท ค่าเบี้ยคนชรา วันนี้นายศราวุธ เพชรพนมพร ก็จ้างมาหารำไพ่พิเศษวันละ 300 บาท เพราะกลัวไม่พอกินข้าว แต่ตอนนี้จวนจะ 400 แล้ว เหลือเทคนิคนิดหน่อย แต่จริง ๆ แล้วอยากมาขอบคุณพี่น้อง โดยเฉพาะคนอุดร ที่ไม่เคยลืมตนเองเลย เงิน 10,000 บาทได้แล้ว เดี๋ยวมาอีก ใครอายุเกิน 60 เห็นว่าเงิน 10,000 จะมาแล้วพี่น้อง ตนเองเลือกมาที่อุดร เพราะว่าอยากมาขอบคุณพี่น้องชาวอุดรที่ 17 ปีที่ออกไป ไม่เคยลืม ตั้งแต่ตอนที่ อดีตนายก อบจ. วิเชียร ลงเลือกตั้งนายก อบจ. ได้เขียนจดหมายมาพี่น้องก็เลือกกันถล่มทลาย แต่วันนี้นายศราวุธ ลงสมัครเอง ตนเองมาเอง ไม่ต้องเขียนจดหมาย มาตัวเป็น ๆ

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า เป็นห่วงเรื่องปัญหาหนี้สิน ความยากจน วันนี้เป็นห่วงคนไทย โดยเฉพาะคนต่างจังหวัด ที่เขาบอกว่าแม่ติดหวย พ่อติดเหล้า ลูกติดยา ขอให้พี่น้องอย่าเล่นหวยมาก เก็บเงินไว้ทำมาหากิน อยู่เมืองนอกมา 17 ปี ที่อยู่ได้ เพราะยึดหลักคำคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รู้จักจิตปล่อยวาง ไม่ไปลุ่มหลง แต่หากไปเห็นอะไรก็จะนึกถึงประเทศไทย 17 ปีไม่รู้จะได้กลับเมื่อไหร่ แต่ในใจคิดอย่างเดียวว่า “กูต้องกลับ แต่จะกลับอย่างไร ไม่รู้ ขอแค่สู้ไปเรื่อย ๆ”


นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ได้กลับมา กลับมากราบพระเจ้าอยู่หัว ได้กลับมากราบพระพุทธศาสนา ได้กลับมาเจอพี่น้องประชาชน วันนี้ขอแอบนินทาลูกสาว คือนายกฯ อิ๊งค์ เขาบอกว่า พ่อ วันนี้อิ๊งค์ต้องห่วงชาวบ้านที่เป็นหนี้เยอะ ช่วยกันคิดหน่อยว่าจะเอาอย่างไรดี แต่วันนี้มีทางออกแล้ว เดี๋ยวมีบอกว่าเราจะลดหนี้ให้ชาวบ้านอย่างไร เราจะทำให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้อย่างไร

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนเองไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบงำลูก เพราะตนเองรักลูกแบบเกรงใจมาก ฉะนั้น จึงขอให้ลูกครอบงำแทน บางครั้งนั่งคุยกัน แต่ก็สั่งตนเอง สั่งให้ทำนั่นทำนี่ให้หน่อย สิ่งที่นายกฯ เป็นห่วงคือเรื่องหนี้สิน และเรื่องของรายได้ แล้ววันนี้บอกว่าเบื้องต้นการให้เงินคนละ 10,000 บาท เป็นสิ่งจำเป็นเริ่มต้น เพื่อให้ชาวบ้านตั้งหลัก พร้อมกันนี้ ต้องลดหนี้ และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรายได้ทางการเกษตร และทางด้านโอกาสของประชาชน

นายทักษิณ กล่าวว่า นายกฯ อิ๊งค์บอกอีกว่า เป็นห่วงชาวบ้าน เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ เราจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีการศึกษาได้ดีกว่านี้ สิ่งหนึ่งที่ตนพูดกับลูก คือเราต้องเปลี่ยนทัศนคติของคนไทย อย่าไปมุ่งเอาประกาศนียบัตร บางคนในกรุงเทพ เรียนแล้วเรียนอีก ก็ไม่ได้ทำให้ฉลาดขึ้น เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว การเรียนอย่างเดียวไม่พอ วันนี้เห็นบอกว่าหารายได้มาช่วยเรื่องการศึกษาเด็กแล้ว วันนี้เราจึงพยายามจูงใจให้นักลงทุนนำเงินมาลงทุนในประเทศ เพื่อสร้างงาน และมีรายได้มากขึ้น แต่ตนบอกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกระจายความเจริญสู่ต่างจังหวัด แล้ววันนี้เห็นแล้วว่าระหว่างที่นั่งรถมามีร้านที่เปิดใหม่มากขึ้น แต่มันเงียบหน่อย เพราะคนไม่มีกำลังซื้อ

นายทักษิณ กล่าวว่า ขอให้ฟังให้ดี พี่น้องช่วยไปบอกพ่อค้าขายยาด้วยว่า “วันนี้ทักษิณกลับมาแล้ว ทักษิณเกลียดพ่อค้าขายยามาก ไม่อยากเห็นหน้าแม่งสักคน” แล้วอย่าลืมไปบอกตำรวจด้วย เห็นใจตำรวจ เพราะตอนที่ตนเองไม่อยู่ การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจต้องเสียเงิน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายในสังคมไทยในช่วงที่ตนเองไม่อยู่ 17 ปี ฉะนั้น จึงสงสารตำรวจ ต่อไปนี้นายกฯ อิ๊งค์ บอกว่า ต่อไปนี้จะไม่มีการใช้เงินในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ แล้วยาเสพติดจะหายไปไม่ยาก และวันนี้นายกฯ อิ๊งค์ จึงบอกว่าจะจับมือกลับอนุทิน เพื่อจัดการกับยาเสพติด และขอให้ประชาชนอย่าไปชินชากับมัน เราต้องจัดการกับมัน และตนไม่ชินชากับพวกนี้เด็ดขาด

”วันนี้เวลาที่คุณอิ๊งค์สั่งงานอะไร ผมก็รู้สึกว่า ผม ผมยาวแล้วเหรอ หน้าตาเหมือนหรือไม่ เหมือน แต่ว่าเขาสวยกว่าผม แต่ผมหล่อกว่า“ นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ เล่าย้อนไปถึงสมัยที่หาเสียง ว่า นายกฯ อิ๊งค์เคยไปด้วย ซึ่งก็เห็นแววตั้งแต่ตอนนั้นว่าจะเป็นนายกฯ ที่ดี และจะดีกว่าตนเอง เพราะเป็นตอนอายุยังน้อย เชื่อว่าสิ่งที่เขาเห็นจากตนเอง จะเป็นกำลังสำคัญในการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน และประชาชนต้องหายจนแน่นอน ขอให้ทำงานไปสักระยะ แล้วเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอน เพราะวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องค่าแรง แม้จะมีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย แต่ก็เชื่อว่าจะแก้ได้ และตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็สามัคคีกันดีอยูี ขอให้เบาใจได้ ว่ากลับมาแล้ว ตนเองอยู่ทั้งคน เห็นพี่น้องลำบากไม่ได้ ซึ่งวันนี้ตนเองได้ตั้งตำแหน่งให้ตัวเองคือ สทร. เสือก ทุก เรื่อง

“อย่าลืมผม ผมกลับมาแล้ว แล้วอย่าลืมกาเบอร์สอง หากไม่รู้ว่าเบอร์สองชื่ออะไร ชื่อทักษิณแล้วกัน กาทักษิณแล้วกัน” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ขอให้นายศราวุธ ทำหน้าที่ให้ดี หากเลือกตั้งสมัยหน้า จะได้เป็นรัฐมนตรี และได้ทำหน้าที่ให้ประชาชน และตนจะมาเยี่ยมใหม่ ซึ่งตนไม่อยากเลี้ยงอาหารคนอุดร เพราะถ้าเลี้ยงอาหารคนอุดร เดี๋ยว กกต. จะจับแพ้ฟาล์ว-716.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]