“นายกฯ อิ๊งค์” สวมผ้าไทย เปิดงานบั้งไฟพญานาคโลก จ.หนองคาย

17 ต.ค. – “นายกฯ อิ๊งค์” สวมผ้าไทยลายนาคใหญ่ เปิดงานบั้งไฟพญานาคโลก จ.หนองคาย ชูเป็นซอฟต์พาวเวอร์ยิ่งใหญ่ชาวโลกหลงใหล หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจคนอีสานรวยๆ จ่อดันเทศกาล “แห่เทียนพรรษา-ไหลเรือไฟ” ให้ต่างชาติรู้จัก คึกคักประชาชนขอถ่ายรูปเซลฟี่ ชม “น่าฮักมาก”


นั้นเวลา 16.00 น. วันที่ 17 ต.ค. 67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และหน่วยงานต่างๆ รอให้การต้อนรับ

เมื่อเดินทางถึงนายกฯ ได้เปลี่ยนสวมใส่ผ้าถุงสีเงิน ซึ่งมีลวดลายจากบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ และคาดผ้าสไบมัดหมี่ทอด้วยมือ สีส้มอิฐหรือสีน้ำตาลอิฐ ซึ่งเป็นสีอัตลักษณ์ของหนองคาย (เป็นสีตะกอนของแม่น้ำโขง) จ.หนองคาย ลายนาคใหญ่ (พญานาค 7 เศียร) ซึ่งมีความหมายถึงความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ โดยลายผ้าเป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัดที่ได้แรงบันดาลใจจากความเชื่อและคติความผูกพันกับพญานาค ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาแม่น้ำโขง ชาวหนองคายเชื่อว่า พญานาคสามารถดลบันดาลความสุข ความสำเร็จ และความเจริญให้กับผู้ศรัทธา


จากนั้นนายกฯ พร้อมคณะ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กล 5558 อุดรธานี ถึงลานนาคาเบิกฟ้า อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ในเวลา 17.30 น. โดยมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย เขต 2 พรรคเพื่อไทย และนายเอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย เขต 3 พรรคเพื่อไทย รอต้อนรับ

เมื่อเดินทางถึงมีคนเสื้อแดงมารอมอบช่อดอกกุหลาบให้นายกฯ ก่อนจะเดินทักทายประชาชนและถ่ายรูปเซลฟี่กับประชาชนที่มาร่วมงานอย่างคึกคักและเป็นกันเอง นอกจากนี้นายกฯ ยังเดินทักทายและถ่ายรูปร่วมกับนางรำจำนวน 1,000 คน ที่มารำบวงสรวงในพิธี ตลอดเส้นทางนางรำต่างพูดชมนายกฯ ว่า “น่าฮักมาก” และ “สวยมาก” นอกจากนี้นายกฯ ยังได้ทักทายนางรำที่เป็นเด็ก พร้อมสอบถามว่า ”อายุเท่าไร สวมชุดนางรำน่ารักมาก อยากซื้อไปให้ลูกใส่”

จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า สวัสดีพี่น้องชาวหนองคายทุกท่านและทุกๆ คนที่อยู่ในที่นี้ และสวัสดีรัฐมนตรี สส. สื่อมวลชน ประชาชนที่รักทุกท่าน วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มางานบุญบั้งไฟ ถือเป็นครั้งแรกของตัวดิฉัน ฉะนั้นขอเสียงตบมือดังๆ ให้งานนี้ ซึ่งถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของชาวอีสานและทีมงานซอฟต์พาวเวอร์ที่จะผลักดันเทศกาลต่างๆ และรู้สึกว่างานนี้เป็นงานที่จะสร้างโอกาสให้กับพี่น้องชาวอีสานได้มาก เพราะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่สวยงาม และเป็นงานที่มีความเชื่อของคนอีสานอยู่มาก ตั้งแต่นานมากแล้ว รู้สึกมีเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ และสามารถที่จะใส่ความคิดสร้างสรรค์หรือเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไป เพื่อที่ทำให้คนทั่วโลกได้เห็น และสัมผัสสิ่งที่ชาวอีสานได้ทำกันมาต่อเนื่อง อันนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลพร้อมที่จะผลักดัน ซึ่งในกระบวนการต่างๆ ได้เริ่มทำแล้ว ฉะนั้นการที่มีเทศกาลดีๆ แบบนี้ที่อีสานเราจะผลักดัน เพราะไม่ใช่แค่เทศกาลนี้ยังมีเทศกาลอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแห่เทียนพรรษา ไหลเรือไฟ และอีกหลายเทศกาลที่มีเสน่ห์มาก


นายกฯ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นซอฟต์พาวเวอร์เป็นสิ่งที่เราต้องสร้างเสน่ห์ มีเสน่ห์อะไรให้คนเข้ามาหลงใหล หรือเข้ามาหาเรา และนี่คือหนึ่งในเทศกาลที่จะทำให้เศรษฐกิจของพื้นที่หมุนเวียน ถ้าดูชาวต่างชาติทั้งโลกรู้จักเทศกาลนี้ของอีสาน คนอีสานต้องรวยแน่ๆ ใช่หรือเปล่า ฉะนั้นอยากจะบอกว่าวันนี้มาให้กำลังใจทุกท่าน เดี๋ยวเราจะพัฒนาในสิ่งที่ชาวอีสานมีอยู่แล้ว ให้เป็นสมบัติของชาวอีสานให้ดียิ่งขึ้นเป็นที่รู้จักมากขึ้น และต้องสวัสดีทุกท่านดีใจมากๆ ที่ได้มา จ.หนองคาย ในวันนี้

จากนั้นนายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ จุดธูปเทียนเพื่อบูชาพระรัตนตรัย และเป็นประธานถวายจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์จำนวน 9 รูป ก่อนที่นายกฯ จะเป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาพญาพิสัยสัตตนาคราช เนื่องในงานประเพณีออกพรรษา และพิธีเปิดงานบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2567

ต่อมานายกฯ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงวันเปิดโลก บูชาพระพุทธเจ้าและบูชาพญานาค โดยนายกฯ และรัฐมนตรีผู้หญิง รวมถึง น.ส.แอนโทเนีย โพซิ้ว รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 อัญเชิญพานพญานาคบวงสรวง และพราหมณ์กล่าวคาถาบูชาเริ่มพิธีบวงสรวง ก่อนที่นายกฯ และรัฐมนตรี จะโปรยเครื่องดอกไม้ เพื่อบวงสรวงวันเปิดโลกบูชาพระพุทธเจ้าและบูชาพญานาค และชมรำบวงสรวงพญาพิสัยสัตตนาคราช และเหล่าพญานาคที่สถิตอยู่ลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี นายกฯ เดินทางกลับกรุงเทพฯ.-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย