นายกฯ เยี่ยมศูนย์พักพิง ชาวบ้านสวมกอดร่ำไห้

เชียงราย 13 ก.ย.-นายกฯ เยี่ยมศูนย์พักพิง ชาวบ้านสวมกอดร่ำไห้ ไม่เหลืออะไรแล้ว เจ้าตัวปลอบ ยังเหลือชีวิตและกำลังใจ บอกใครอยากกอด ถ่ายรูป จับมือได้หมด ยืนยันรัฐบาลช่วยเหลือเต็มที่ให้กลับเข้าบ้านโดยเร็ว

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางมายังวัดพรหมวิหาร อำเภอแม่สาย ซึ่งเปิดเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัย โดยเมื่อมาถึง นายกฯ ได้เข้าไปนั่งพูดคุยและสวมกอดชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเข้ามาสวมกอดและร่ำไห้ด้วยความดีใจที่นายกฯ ไม่ทอดทิ้ง โดยชาวบ้านระบุว่า ลำบากมาก แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่ยอมออกจากบ้าน โดยเฉพาะคนแก่ จึงอยากให้รัฐบาลประกาศย้ำหากมีพายุเกิดขึ้นให้ออกมา ขอให้ชาวบ้านที่ไม่ยอมออกจากบ้านให้ออกจากพื้นที่ เพื่อรักษาชีวิตไว้ อย่างไรก็ตาม ที่คนไม่ยอมออกจากบ้าน เพราะเมื่อน้ำลดก็มีขโมยเกิดขึ้น เมื่อมีข่าวเช่นนี้ ชาวบ้านก็ไม่อยากจะทิ้งบ้าน


นายกรัฐมนตรี ได้หันไปสั่งการนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้าดูแล จากนั้นหันมากล่าวกับชาวบ้านต่อว่า จากนี้รัฐบาลจะเร่งเข้ามาดูแลเรื่องการเยียวยาให้ดีที่สุด และทราบดีถึงความเร่งด่วนของประชาชนในการเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

นายกรัฐมนตรี ยังได้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งต่างร่ำไห้ระบุว่า ไม่เหลืออะไรแล้ว หมดตัวแล้ว ร้องไห้จนไม่รู้จะร้องยังไงแล้ว ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว นายกฯ จึงบอกว่า แค่นี้ก็เก่งแล้ว ยังเหลือชีวิตและเหลือกำลังใจที่ต่างคนต่างมอบให้กัน


จากนั้นชาวบ้านระบุว่า ยังมีผู้สูงอายุที่ติดอยู่ในพื้นที่ ยังออกมาไม่ได้ นายกรัฐมนตรีจึงให้เจ้าหน้าที่ทหารขอรายละเอียดเพื่อเข้าไปช่วยเหลือนำชาวบ้านออกจากพื้นที่

นายกรัฐมนตรี ยังได้ไปพูดคุยให้กำลังใจกับหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นชาวไทยใหญ่ โดยนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปจับที่ท้อง พร้อมสอบถามว่าจะคลอดเมื่อไหร่ ขอให้แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ตรวจเยี่ยมโรงครัวพระราชทานและโรงครัวจิตอาสาตำรวจจังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนายกฯ ได้มองเตาแก๊ส ก่อนจะพูดแซวว่า “ขอเช็กไฟก่อนว่ามีไฟหรือไม่” ขณะที่แม่ครัวได้ทำเมนูกะหล่ำปลีผัดไข่ โดยนายกฯ บอกว่า เป็นเมนูโปรด และอย่างนี้เด็กๆ ก็ทานได้ ทั้งนี้ แม่ครัวได้ขอให้นายกฯ ทำไข่เจียว แต่นายกฯ ปฏิเสธ พร้อมระบุเพียงว่า “แค่มาดู” อย่างไรก็ตาม ที่โรงครัวพระราชทาน นายกฯ ได้ทดลองผัดเมนูไก่กระเทียม พร้อมระบุว่า ตะหลิวอันนี้หนักมาก


ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้มอบถุงยังชีพจากสำนักนายกรัฐมนตรีและยาจากกระทรวงสาธารณสุข โดยกล่าวกับประชาชนว่า วันนี้ไปเยี่ยมศูนย์พักพิงเจอหลายคน พร้อมยังได้ไปดูสถานที่มา ทราบว่าทุกคนเจอหนักจริงๆ รอบนี้หนักจริงๆ วันนี้ที่มา อยากให้กำลังใจทุกคน และอยากเน้นย้ำในเรื่องเหตุการณ์หลังจากนี้ เพราะเหตุการณ์ทุกวันนี้ เรามีอาหาร มีหน่วยความมั่นคง มีจิตอาสาที่ช่วยพวกเรา พี่น้องเราที่ยังติดอยู่ คอยส่งอาหารและรับข้อมูลจากเขามา ซึ่งวันนี้กระแสน้ำเริ่มเบาลงแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเบาลงอีก ฉะนั้นคนที่ติดอยู่มีโอกาสที่จะช่วยออกมาได้เยอะขึ้น ซึ่งได้ย้ำว่า ถ้ายังช่วยไม่ได้ อย่างน้อยๆ ให้ส่งอาหารและเครื่องดื่ม จะได้มีแรงรอให้กระแสน้ำลด ไม่เช่นนั้นรอนานๆ หิวแย่ จึงอยากให้ส่งข้าวให้ถึง และคนที่มา อยากพูดออกจากใจ ทุกคนเก่งมากที่วันนี้ยังยิ้มอยู่ รู้เลยว่าเหตุการณ์นี้หนัก บางคนพูดและบอกว่าไม่เหลืออะไรแล้ว เสียหายหมดเลย นายกฯ อยากจะบอกว่า ยังเหลือชีวิต เหลือกำลังใจนะ เหลือความหวัง สิ่งที่เหลืออยู่วันนี้ ให้ภูมิใจในตัวเองว่าเก่งที่เจอเรื่องขนาดนี้แล้วยังอยู่ตรงนี้ ยิ้มกันได้ รับกันได้ เก่งมากๆ ซึ่งตัวนายกฯ และคณะรัฐมนตรี สิ่งที่จะช่วยได้หลังจากนี้ในเรื่องของการเยียวยา และบ้านพักต่างๆ ที่มีดินโคลนเลอะเทอะ จะพยายามดูแลตรงนี้ให้เร็วที่สุด ทุกคนจะได้กลับไปอยู่แบบเดิมได้เร็วๆ และอยากให้การเยียวยาเข้าถึงทุกๆ คนอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งอยากให้เร็วจริงๆ เพราะทุกคนรอมานานแล้ว แต่เรื่องน้ำ คงจะค่อยๆ ดีขึ้นแล้ว ที่มาวันนี้อยากมาให้กำลังใจด้วยความจริงใจกับทุกคน

“ใครอยากจะถ่ายรูปก็ได้นะ จับมือก็ได้ มากอดกันสักทีก็ได้นะ แบบไหนดี ซึ่งต้องขอบคุณรัฐมนตรีทุกคน แล้ววันนี้กรุงเทพฯ กำลังประชุมสภาฯ กันอยู่ ทุกคนก็ส่งกำลังใจมา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ทุกคนส่งกำลังใจมา ขอให้ทุกคนมีแรงมีกำลังใจเยอะๆ” นายกรัฐมนตรี ระบุ

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้มอบถุงยังชีพ และระหว่างมอบถุงยังชีพ นายกฯ ได้พูดคุยกับคุณตาวัย 84 ปี ซึ่งคุณตาได้อวยพรให้นายกฯ แข็งแรง และอยู่เป็นนายกฯ นานๆ.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

รอง มทภ.2 เยี่ยมปลอบขวัญ ปชช. เชื่อสถานการณ์จบใน 3-7 วัน

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 ลงพื้นที่ปลอบขวัญประชาชนที่ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ เชื่อว่าสถานการณ์จะจบภายใน 3-7 วัน พลตรีนรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมายังที่ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีประชาชนมาลงทะเบียนพักมากที่สุดกว่า 5,000 คน โดยรองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าติดปัญหาได้หรือไม่ เช่น เรื่องห้องน้ำอาหาร และที่นอน เป็นต้น จากนั้นได้เดินทักทายจับมือให้กำลังใจกับประชาชนโดยระบุขออย่ากังวลกับทรัพย์สินและบ้านเรือน ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยซ่อมแซม ส่วนคำถามที่ว่าประชาชนจะสามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้ตามปกติเมื่อไหร่นั้น รองแม่ทัพภาคที่ 2 เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายภายใน 3-7 วันนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ปราศรัยกับประชาชนถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะทรงรับผู้บาดเจ็บจากเหตุสู้รบในครั้งนี้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือนต่างๆ ที่เสียหายด้วย.-สำนักข่าวไทย

ทูตไทยจ่อแถลงข้อเท็จจริง UNSC ประชุมฉุกเฉิน 25 ก.ค.นี้

นิวยอร์ก 25 ก.ค.-ทูตไทยเตรียมแถลงข้อเท็จจริง UNSC ประชุมฉุกเฉิน 25 ก.ค. ส่งหนังสือแจงนานาชาติ ก่อนเตรียมแจงในที่ประชุม ยันกัมพูชาวางทุ่นระเบิดและเปิดฉากยิงใส่ฐานทหารไทยที่ตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ของไทยก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติได้ดำเนินการในส่วนของไทยทันที หลังเกิดเหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (24 ก.ค.)โดยมีการส่งหนังสือออกไป 3 ฉบับ ฉบับแรกเป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจากไทย ให้กับนายอาซิม อิฟติคาร์ อาหมัด เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรปากีสถานประจำสหประชาชาติ ในฐานะประธาน UNSC ในปัจจุบัน พร้อมกันนี้ยังได้ส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้คณะผู้แทนถาวรของสมาชิกสหประชาชาติทั้งหมดรับทราบด้วย ขณะเดียวกัน คณะผู้แทนถาวรไทยยังได้ส่งหนังสือไปถึงนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อแจ้งเหตุการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ เก็บสะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิดดังกล่าว ต่อกรณีที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ซึ่งทุ่นระเบิดที่พบเป็นของที่เพิ่งถูกวางใหม่ และยังมีการเกิดเหตุซ้ำแม้ว่าไทยจะมีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดไปก่อนหน้านี้หลังเกิดเหตุครั้งแรกแล้วก็ตาม จึงขอให้มีการดำเนินการสอบสวนตามข้อกำหนดในอนุสัญญา และขอให้กัมพูชาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนไทยอีกด้วย ทั้งนี้ UNSC จะจัดให้มีการประชุมฉุกเฉินแบบที่เรียกว่า private meeting ซึ่งเป็นการประชุมปิดที่ใช้เวลาราว […]

องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่ จนท.-ประชาชนได้รับผลกระทบชายแดน

อุบลราชธานี 25 ก.ค.-พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เดินไปยังพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจุดที่ 2 จังหวัดอุบลราชธานี และขณะนี้องคมนตรีได้เชิญสิ่งของพระราชทานในจุดที่ 1 จ.อุบลราชธานี แก่เจ้าหน้าที่จำนวน 200 ชุด มอบแก่ประชาชน 75 ชุด จากนั้นจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนในศูนย์อพยพและจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงกลุ่มเปราะบาง รวมไปถึงทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนบรรยากาศเช้านี้ที่ช่องบ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่เป็นจุดปะทะ ชาวบ้านได้อพยพมาอยู่ในหลุมหลบภัย เนื่องจากมีเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง ผู้นำชุมชนจึงได้ให้ประชาชนเข้าไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย จากนั้นยังมีรายงานจากรองโฆษกกองทัพบกว่า สถานการณ์ในวันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ในพื้นที่ช่องบก และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถึง 08.00 น. […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]