ตายอีก 1 เหยื่อคนขับรถบรรทุกคลั่ง ผลตรวจพบสารเสพติด

คนขับรถบรรทุกคลั่ง

กทม. 6 ก.ย.-ผลตรวจปัสสาวะคนขับรถบรรทุกคลั่ง พบสารเสพติด แจ้ง 5 ข้อหาหนัก เตรียมฝากขังพร้อมค้านประกันตัว ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นรายที่ 2

พันตำรวจเอก ปณิธิ ชาอุ่น ผู้กำกับการสถานตำรวจนครบาลท่าเรือ เปิดเผยว่า ได้คุมตัว นายวัลลภ อายุ 43 ปี คนขับรถบรรทุกไล่ชนดะหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ออกจากโรงพยาบาล กลับมายังสถานีตำรวจนครบาลท่าเรือแล้ว จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง ซึ่งวันเกิดเหตุ เสพยาบ้ามา 1 เม็ดบดผสมเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อจิบระหว่างวัน และกินต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งขับรถบรรทุกมาถึงย่านคลองเตย ยาบ้าออกฤิทธิ์ ทำให้เหงื่อออกมาก และกังวลว่าจะมีคนมาทำร้าย จึงเป็นจุดเริ่มต้นในก่อเหตุขึ้น สอดคล้องกับการที่ตำรวจส่งตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะเพิ่มเติมและพบมีสีม่วง จึงแจ้งข้อหา เสพสารเสพติด เพิ่มเติมจากที่ได้แจ้งข้อหาไปแล้วเมื่อวานนี้ รวม 5 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย ข้อหา ประมาทขับรถเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ประมาทขับรถเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย หลบหนีการจับกุม และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน


จากการสืบสวน ตำรวจพบว่า ผู้ต้องหาเสพยาในลักษณะนี้มานานแล้ว เนื่องจากจะทำให้ไม่ง่วง และเมื่อวาน ลูกสาวของผู้ต้องหา ได้เข้ามาพูดคุยกับพ่อที่โรงพยาบาลย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้อาการดีขึ้น แต่หลังจากนั้น ตำรวจคุมตัวมาสถานีตำรวจ พร้อมจัดกำลังเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และติดตามผ่านกล้องวงจรปิด เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด

วันนี้ พนักงานสอบสวน จะนำผู้ต้องหาไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนี และเป็นคดีร้ายแรง ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนส่วนใหญ่


ล่าสุด มีผู้เสียหายอีกราย อายุ 68 ปี ที่ถูกนายวัลลภ เฉี่ยวชนเป็นคนแรก ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ ญาติแจ้งว่าได้เสียชีวิตแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา.-412.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”