ภูเก็ต 23 ส.ค. – ดินสไลด์ทับบ้านเรือนประชาชนใน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีผู้เสียชีวิต 10 ราย สูญหาย 1 ราย เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้สูญหาย คาดติดอยู่ใต้หินภูเขาแล หลังญาติเข้าแจ้งเบาะแสเป็นชาวเมียนมา
ที่ซอยปฏักในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จุดเกิดเหตุดินจากภูเขานาคสไลด์ลงมาทับบ้านเรือน ทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 10 คน เป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ประกอบด้วย ชาวเมียนมา 8 คน และรัสเซีย 2 คน
เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งค้นหาร่างผู้สูญหาย คาดว่าติดอยู่ใต้หินภูเขาแล 1 คน หลังญาติเข้าแจ้งเบาะแส เป็นชาวเมียมา โดยการดำเนินการค้นหาผู้สูญหายดำเนินเรื่อยมาตั้งแต่ช่วง 7 โมงเช้า จนถึงขณะนี้เป็นเวลาร่วม 11 ชั่วโมงแล้ว
พาย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุและดำเนินเรื่อยมาตลอดทั้งวันนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นราวๆ ช่วงตี 5 ซึ่งเป็นช่วงที่ฟ้ายังไม่สาง ก่อนหน้านี้ จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะพื้นที่กะตะ กะรน และราไวย์ มีฝนตกหนักต่อเนื่อง จะเห็นว่ากระแสน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขามีสีแดงขุ่น
หนึ่งในผู้รอดชีวิตให้ข้อมูลกับสำนักข่าวไทยว่า ช่วงเวลาราว ๆ 05.00 น. ได้ยินเสียงเหมือนบางอย่างหล่นลงมาทับบ้าน เมื่อรู้สึกตัวก็เห็นฝาบ้านพังถล่ม จึงรีบวิ่งหนีเอาตัวรอด โดยน้ำ ดินโคลน และหิน ถล่มลงมาพร้อมกันจากเทือกเขานาคเกิดสไลด์ลงมาเป็นทางยาว
จุดที่เกิดเหตุแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ จุดแรกเป็นบ้านเช่าชั้นเดียวที่ก่อสร้างอยู่บนเนินเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน โดยผู้อยู่อาศัยเป็นชาวเมียนมา
จุดนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 8 คน เป็นชาวเมียนมาทั้งหมด ส่วนอีกจุดเป็นบ้าน 2 ชั้น มีลักษณะเป็นพูลวิลล่า ผู้เช่าอาศัยเป็นชาวรัสเซีย ปลูกสร้างห่างออกไปจากจุดแรกราว 300 เมตร อยู่สูงขึ้นไปจากจุดแรก
สองจุดนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 10 คน เป็นหญิง 6 คน ชาย 4 คน เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้เสียชีวิตทั้ง 12 คนหนีไม่ทันอาจเป็นผลมาจากช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลาฟ้ายังไม่สางและกำลังนอนหลับ
ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นคนที่อยู่อาศัยบริเวณนั้นตั้งแต่กำเนิด คือ นายฉลอง อายุ 56 ปี ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่าบริเวณที่เกิดเหตุดินสไลด์ลงมาทับบ้านเรือนและทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ในครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้น แต่ไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะหากย้อนเวลากลับไปก่อนหน้านี้เมื่อ 10 ปีก่อน ในปี 2014 นายฉลองระบุว่าเขาเคยถ่ายภาพที่มีเหตุดินสไลด์ลงมาเป็นระยะทางนับร้อยเมตรจากเขานาค เกิดมาแล้วครั้งหนึ่ง และเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงมาตลอด เพราะวิตกกังวลว่าสักวันหนึ่งจะเกิดเหตุการณ์เหมือนกับในวันนี้ โดยเคยรวบรวมทั้งภาพและข้อมูลต่างๆ ไปมอบให้กับทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบ แต่ในตอนนั้นเขาบอกว่าเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะต้องไปแจ้งท้องถิ่นเพื่อให้เข้าไปดำเนินการ ผ่านมา 10 ปี เหตุการณ์กลับมาเกิดขึ้น
นายฉลองเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้มีดินสไลด์ลงมารุนแรงเหมือนเช่นครั้งนี้เป็นเพราะการทำลายพื้นที่ป่าไม้บนเขานาคเกิด เพื่อปลูกสร้างวัดและอาคารสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ จนทำให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย