กรุงเทพฯ 21 ส.ค.- จับตา! หลังพรรคร่วมส่งรายชื่อรัฐมนตรีให้เลขานายกฯ แล้ว ลือ ปชป. อาจได้เก้าอี้ ครม. แบ่งโควตากับ “ธรรมนัส”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายของวันนี้ (21 ส.ค.) นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่าพรรคร่วมรัฐบาลได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีครบแล้ว รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติต่อไป
โดยในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ หลังมีแถลงการณ์ว่าได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีตามโควตาเดิมตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน คือ พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ปรากฏว่าฝั่งของร้อยเอกธรรมนัส ยืนยันส่งรายชื่อของตัวเองเช่นกัน โดยมีการเสนอชื่อ คือ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ หรือ เสนอนายอัครา พรหมเผ่า (น้องชาย) กรณีคุณสมบัติของร้อยเอกธรรมนัสไม่ผ่าน และ 2. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
อีกทั้งมีรายงานว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาลโดยได้โควตาเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ 1 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วย 1 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตามทีมข่าวการเมืองได้พยายามโทรศัพท์สอบถามยืนยันจากนายแพทย์พรหมินทร์ ว่าสรุปแล้วพรรคพลังประชารัฐมีการส่งรายชื่อรัฐมนตรีออกเป็น 2 ส่วนหรือไม่ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำยืนยัน
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งรายชื่อ โควตาเดิม 4 ตำแหน่ง 2 รัฐมนตรีว่าการ และ 2 รัฐมนตรีช่วย คือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพลังงาน, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งจะโยก น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ไปนั่งในตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยฯ ในโควตาพรรค
สำหรับในส่วนของพรรคเพื่อไทย ยังอยู่ระหว่างการวางตัวบุคคลที่ยังไม่ลงตัวในบางกระทรวง ซึ่งก่อนหน้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะใช้เวลาเมื่อวานและวันนี้ (21 ส.ค.) ในการพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค
ทั้งนี้ตามรายงาน ภายหลังจากที่พรรคร่วมรัฐบาลส่งรายชื่อรัฐมนตรีมายังนายแพทย์พรหมินทร์แล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ โดยจะส่งรายชื่อทั้งหมดให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการตรวจสอบ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างรอบคอบ ส่วนการแต่งตั้งรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ที่จะนำเสนอชื่อเพื่อโปรดเกล้าฯ .-316 -สำนักข่าวไทย