เจนีวา 15 ส.ค. – องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขโลกครั้งใหม่ หลังการระบาดรุนแรงในแอฟริกา
องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ประกาศให้โรคฝีดาษลิง หรือ mpox เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขโลกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ปี หลังการระบาดของไวรัสฝีดาษลิงในสาธารณประชาธิปไตยคองโก ซึ่งลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา หรือซีดีซี ซึ่งเป็นหน่วยงานสาธารณสุขสูงสุดของแอฟริกา ประกาศเหตุการณ์ที่เรียกว่า ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขต่อความมั่นคงของทวีป จากการระบาดของโรคนี้ในแอฟริกากลาง
การกำหนดว่า การระบาดของโรคเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) ซึ่งเป็นระดับการเตือนภัยสูงสุดของดับเบิลยูเอชโอ จะช่วยเร่งการวิจัย การจัดหาเงินทุน และมาตรการด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ รวมถึงความร่วมมือในการควบคุมโรค
การระบาดของโรคฝีดาษลิงในคองโก เริ่มต้นด้วยการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ท้องถิ่น ซึ่งรู้จักกันในชื่อสายพันธุ์แอฟริกากลาง หรือ เคลด 1 (clade 1) แต่สายพันธุ์ใหม่ ที่ชื่อว่า เคลด 1บี (clade 1b) ดูเหมือนจะแพร่ระบาดได้ง่ายกว่า ผ่านการสัมผัสใกล้ชิดในชีวิตประจำวัน รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ สายพันธุ์ดังกล่าวระบาดจากสาธารณประชาธิปไตยคองโกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น บุรุนดี เคนยา รวันดา และยูกันดา ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องดำเนินการประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าว จนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยเป็นโรคฝีดาษลิงแล้วมากกว่า 15,000 รายในแอฟริกาในปีนี้ และเสียชีวิต 461 ราย เพิ่มขึ้น 160% ส่วนใหญ่เป็นเด็กในสาธารณประชาธิปไตยคองโก
สำหรับโรคฝีดาษลิงสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสใกล้ชิด อาการมักไม่รุนแรง ส่วนใหญ่ทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่และมีตุ่มหนองตามร่างกาย แต่ในบางกรณีอาจถึงแก่ชีวิตได้.-815.-สำนักข่าวไทย