สภาฯ ผ่านงบฯ เพิ่มเติม 67 โปะดิจิทัลวอลเล็ต 1.22 แสนล้าน

รัฐสภา 31 ก.ค.-สภาฯ เห็นชอบผ่านงบฯ เพิ่มเติม 67 โปะดิจิทัลวอลเล็ต 1.22 แสนล้าน ส่งวุฒิสภาพิจารณาต่อ ฝ่ายค้านย้ำขัด รธน.-กม.วินัยการคลัง ไม่คุ้มค่า ด้าน “จุลพันธ์” โต้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย คุ้มค่าเดินหน้าโครงการต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงในการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม วงเงิน 122,000 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมงบกลาง จำนวน 6 มาตรา ภายหลังกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วเสร็จ โดยไม่ได้มีการปรับแก้ใด ๆ และมีมติเสียงข้างมาก 291 เสียง ต่อ 161 เสียง ให้ความเห็นชอบ


นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ย้ำว่า รัฐบาล มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อันเป็นกรณีที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน ไม่สามารถรองบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2568 ได้ จึงต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมฉบับนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดยเป็นงบประมาณจากภาษี และรายได้อื่น จำนวน 10,000 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 112,000 ล้านบาท พร้อมย้ำว่า การตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของประเทศ

สำหรับการพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายนพณัฐ มีรักษา กรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย เห็นว่า ร่างงบประมาณฉบับนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องใช้เงินภายใน 30 กันยายน ที่จะต้องออกงบประมาณเพิ่มเติมฉบับนี้ เพราะการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แล้วถือเป็นการก่อหนี้ของรัฐบาลนั้น ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน และไม่สามารถกำหนดสัญญาก่อหนี้ได้ ดังนั้น จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า การแจกเงินดิจิทัลฯ เป็นการสัญญาให้ของรัฐบาล โดยที่ประชาชน ไม่ต้องตอบแทนใด ๆ กลับมายังรัฐบาล แม้จะมีการเปิดลงทะเบียน แต่ยังไม่มีการส่งมอบเงิน ก็ต้องถือว่า สัญญาไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถฟ้องร้องใด ๆ ได้


ด้าน นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย ได้เสนอตัดลดงบประมาณลง เนื่องจาก กังวลว่า งบประมาณ ที่จะนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนี้ จะยิ่งทำให้ธุรกิจค้าปลีกกระจุกตัวอยู่เพียงรายเดียว อาจส่งผลเสียงต่อเศรษฐกิจของประเทศ กลายเป็นพายุที่พรากการแข่งขันของธุรกิจรายย่อยออกไปอีก จึงขอให้รัฐบาล ได้พิจารณาประเมินผล ตั้งแต่ก่อนดำเนินการ ระหว่างดำเนินการ และหลังดำเนินการด้วย

ขณะที่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอปรับลดงบประมาณเพิ่มเติม เหลือเพียง 10,000 บาท ซึ่งเป็นงบประมาณเท่าที่รัฐบาล จะหารายได้อื่นมาเพิ่มได้ เนื่องจาก รัฐบาลไม่ควรมีการกู้เงินเพิ่มอีกแล้ว ซึ่งแม้จะยังอยู่ในกรอบวินัยการเงิน แต่ก็อยู่ปริ่มเพดานแล้ว ขาดการประมาณการรายได้ที่จะถึงเป้า และแม้รัฐบาล จะยังกู้ได้ ก็จะต้องใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2567 ซึ่งการลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของประชาชน ไม่ได้นับเป็นหนี้ และสัดส่วนรายงานลงทุน ก็จะต้องเป็นไปกฎหมาย รวมถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็ไม่คุ้มค่าที่จะดำเนินการ เพราะจากเดิมที่มีการประเมิน GDP จะสามารถโตได้ 1.2-1.8% แต่เมื่อแหล่งที่มาของเงินเปลี่ยน จึงเหลือเพียง 0.9% จึงสะท้อนว่า โครงการนี้ ไม่ได้มีการประเมินความคุ้มค่าไว้ล่วงหน้า

ด้าน นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสนอตัดลดงบประมาณจาก 122,000 ล้านบาท เหลือเพียง 1 บาท


ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ ยืนยันความจำเป็น ที่รัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่มีอัตราการเจริญเติบโตต่ำในระดับภูมิภาค จึงต้องมีเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ และต้องเป็นไปตามวินัยการเงินการคลังที่กำกับไว้ ดำเนินการด้วยความรอบคอบ และจะไม่ให้เกิดวิกฤตใด ๆ ตามมาจากการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยตั้งเป้าว่า จะสามารถทำให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจ จะสามารถเติบโตได้ 4-5% ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น หนี้ครัวเรือน

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตการกำหนดงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ในปีงบประมาณ 2567 จะทันต่อการใช้จ่ายในไตมาสที่ 4 ของปี 2567 หรือเป็นการเริ่มปีงบประมาณ 2568 แล้วนั้น นายจุลพันธ์ ย้ำว่า การดำเนินการโครงการของรัฐ และให้ประชาชนลงทะเบียน ถือเป็นงบผูกพัน หรือข้อผูกพันที่รัฐบาลต้องจ่าย ตามกฎหมายที่ว่าด้วยหนี้ภาครัฐ เมื่อประชาชนขอใช้สิทธิรับเงิน 10,000 บาท เมื่อรัฐอนุมัติ ก็ถือเป็นนิติกรรมร่วมกันระหว่างประชาชนกับรัฐ เช่นเดียวกับโครงการอื่น ๆ ของภาครัฐ

นายจุลพันธ์ ยังย้ำด้วยว่า การดำเนินการของรัฐบาล เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย มีหน่วยงานภาครัฐมาชี้แจงอย่างครบถ้วน รัฐบาลจึงมั่นใจ นำเสนอร่างงบประมาณฉบับนี้ เข้ามาสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร พร้อมชี้แจงความคุ้มค่าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า นอกจากจะเกิดความเจริญเติบโตทางเศรฐกิจแล้ว ยังมีผลประโยชน์ที่ประชาชนเกือบ 50 ล้านคน จะได้รับเงินไปต่อยอดชีวิต และเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการพัฒนาตลาดเศรษฐกิจดิจิทัล และ E-government ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล จึงคุ้มค่าที่จะเดินหน้าโครงการต่อ

ทั้งนี้ ภายหลังที่ประชุลงมติให้ความเห็นชอบแล้ว นายจุลพันธ์ ได้ขอบคุณที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมยืนยันว่า งบประมาณที่รัฐบาล ได้รับอนุมัติให้นำไปใช้จ่ายในครั้งนี้ จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ และแผนงาน และจะกำกับดูแลติดตามการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว ให้มีความโปร่งใส และบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ด เงินหมุนเวียนในพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิต และการดำรงชีพ รวมถึงสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของภาคประชาชน และภาคธุรกิจเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชนต่อไป โดยรัฐบาล มีจุดมุ่งหมายสำคัญ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ต่าง ๆ และยกระดับคุณภาพชีวิต และการดำรงชีพ สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน และภาคธุรกิจ ควบคู่กับการรักษาระดับการบริโภค และการลงทุนในประเทศ รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อให้ประชาชน ได้รับประโยชน์จากการใช้เม็ดเงินงบประมาณมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม สำหรับขั้นตอนภายหลังสภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นชอบร่างงบประมาณเพิ่มเติมฉบับนี้แล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะได้ส่งร่างงบประมาณฯ ให้วุฒิสภาชุดใหม่ พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ศาลให้ประกัน “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” เงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ

กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – ศาลให้ประกันตัว “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” หลักทรัพย์คนละ 6 แสนบาท เงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ขณะเจ้าตัวเตรียมยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อ เชื่อศาลจะให้ความยุติธรรม ด้านอธิบดีกรมการข้าว มองเป็นกรรมของแต่ละคน ไม่ได้รู้สึกอะไร ให้เป็นตามเวรกรรม นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เปิดเผยภายหลังฟังคำตัดสินว่า ตนเองเคารพคำตัดสินของศาล ซึ่งประเด็นที่จะเป็นแนวทางการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ คือประเด็นที่ศาลมองว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ถูกลงโทษจำคุก 6 ปี แต่ส่วนตัวมองว่าตนเองไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะการแต่งตั้งของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการแต่งตั้งเฉพาะตัว ซึ่งศาลยังไม่ได้ดูในรายละเอียด เพราะการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น เงินเดือน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับตำแหน่งดังกล่าว แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลใจกับคำตัดสิน เพราะมองว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ขณะเดียวกันจะมีการต่อสู้ในประเด็นการเชื่อมโยงจำเลยทั้งหมดในชั้นอุทธรณ์ โดยจะชี้แจงว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกับจำเลยอีก 4 คน เนื่องจากไม่เคยได้รับผลประโยชน์อะไรจากจำเลยทั้งหมด และเชื่อว่าคำตัดสินในศาลชั้นสูงจะให้ความยุติธรรมกับตัวเอง คำพิพากษาในวันนี้ศาลได้นำโทษคดีคาร์ม็อบ 2 คดี ในพื้นที่เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานครเมื่อปี พ.ศ. 2564 […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ข้ามไปหารือผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย ชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย

สระแก้ว 17 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว เดินทางข้ามไปหารือ ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย แก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” บอกว่า ถ้าไม่มั่นใจ ก็ไม่ไป ก่อนเวลาประมาณ 10.00 น. นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางจากฝั่งคลองลึกอรัญประเทศของไทย ข้ามไปบริเวณปอยเปต ของกัมพูชา เพื่อหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ที่ตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ปอยเปต เพื่อแก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย ในจุดหลังเส้นสีแดงบริเวณบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ข้อพิพาท แต่เป็นอธิปไตยของไทย โดยมี อุม เรีย ไต ผู้ ว่าราชการจังหวัดมันเตรียมเวนเจ มารอต้อนรับที่กลางสะพานมีการทักทายกันอย่างเป็นกันเอง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยังได้ทักทายกับพลโทเป็กวันนา หัวหัวหน้าสำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา- ไทย ความสัมพันธ์ที่ดีในช่วงที่ผ่านมาว่า พลโทเป๊กวันนา ก็เคยข้ามมารักษาพยาบาลที่ฝั่งไทย โดยก่อนเดินทางไปร่วมประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่าถ้าไม่มั่นใจก็ไม่เดินทางไปเจรจาเพราะการหารือที่ขึ้นเป็นไปตามข้อตกลงของจากการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC.-สำนักข่าวไทย

ไม่รอด! ศาลสั่งจำคุก “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” กับพวก ร่วมกันรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว

17 ก.ย. – ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำพิพากษา กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา กับเจ๋ง ดอกจิก พร้อมพวกรวม 5 คน ร่วมกันเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ด้าน “ศรีสุวรรณ” เผยมั่นใจและเชื่อมั่นในคำพิพากษาว่าศาลจะให้กลับไปทำหน้าที่เหมือนเดิม ล่าสุดศาลพิพากษาคุก “เจ๋ง ดอกจิก” 6 ปี ด้าน “ศรีสุวรรณ” พร้อมพวกโดนด้วยคนละ 4 ปี นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียน, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมพวกรวม 5 คน เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาในข้อหาเรียกรับทรัพย์สินจากอธิบดีกรมการข้าว ก่อนขึ้นฟังคำพิพากษานายศรีสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คดีนี้เป็นคดีการเมืองที่ผู้มีอำนาจต้องการเตะตัดขา เพราะไม่ต้องการให้ทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง เพราะสิ่งที่ทำมานับ 10 ปี เป็นที่หวาดผวาของนักการเมืองและข้าราชการจำนวนมาก เรื่องร้องเรียนนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองหลายพรรค จบอนาคตการเมืองของนักการเมืองดังหลายคน จึงเป็นที่มาของการหาเหตุให้ต้องคดี โดยใช้เทคนิควิธีการ ซึ่งในภาษากฎหมายเรียกว่าล่อให้กระทำความผิด โดยการเอาถุงเงินไปแขวนหน้าบ้าน หากพฤติกรรมแบบนี้ถือเป็นความผิด อนาคตอาจนำไปใช้กันทั่วประเทศและก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อประชาชน นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า […]