สภาฯ ถกญัตติปลาหมอคางดำ

รัฐสภา 25 ก.ค. – สภาฯ ถกญัตติปลาหมอคางดำ ด้านก้าวไกลสับแหลก ถ้าไม่ได้พูดวันนี้ “รัฐบาลคางเหลืองแน่” ตะเพิดชักธงขาว ยุบสภาฯ หนี ถ้าไม่แก้ตั้งแต่วินาทีนี้ ซัดวาระแห่งชาติ ชาตินี้หรือชาติหน้า


ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายประดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำและการจัดการสายพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน เพื่อส่งให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยเป็นญัตติของนายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายณัฐชา บุญอินไชยสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล

นายณัฐพงษ์ เสนอญัตติว่า ตนขอเตือนรัฐบาลที่พูดมาเสมอว่าเรื่องนี้ต้องเป็นวาระแห่งชาติ ไม่แน่ใจว่าวาระแห่งชาติ สรุปแล้วจะเป็นชาตินี้หรือชาติหน้า เป็นสิ่งที่ชาวประมงสงสัย มีการไปให้คำสัญญาว่าจะใช้งบกลาง เพิ่มงบประมาณ จนทำให้พี่น้องชาวประมงเฮ แต่วันนี้ยังไม่เห็น ถ้าเป็นเช่นนี้ขอเสียงเฮพี่น้องชาวประมงคืนได้หรือไม่ และญัตตินี้ก็สำคัญ การแก้ปัญหาก็จำเป็น แต่การหาคนรับผิดชอบก็จำเป็นไม่แพ้กัน เราอย่าไปดูเบาความโกรธ ความไม่พอใจของประชาชน เดี๋ยวจะหาว่าตนไม่เตือน


นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้กฎหมายอาจยังไปไม่ถึง ยังเอาผิดไม่ได้ แต่บริบทแวดล้อม สังคมก็พอเห็นว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ที่ทำให้การระบาดของปลาหมอคางดำเป็นความรู้สึกร่วมของประชาชน ทุกวันนี้ระบาดไปถึง 17 จังหวัดแล้ว ถ้าปล่อยต่อไป ไม่แน่ใจว่าจะถึง 70 จังหวัดหรือไม่ เพราะปลาหมอคางดำกัดกินโอกาสทางการศึกษาของลูกหลาน พี่น้องเกษตรกร กัดกินปลาพื้นถิ่น รวมถึงกัดกินโฉนดชาวบ้านไปจำนวนมาก

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า เราต้องยอมรับว่าเรื่องนี้มีปัญหาตั้งแต่กระบวนการ เมื่อปี 49 ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ แม้มีรายงานการระบาดในต่างประเทศขณะนั้น แต่มีการอนุญาตให้นำเข้าได้อย่างไร ยังไม่นับเงื่อนไขการนำเข้าที่มีปัญหา เช่น การตัดครีบ ส่งซาก จริงๆ แล้วเงื่อนไขอ่อนมาก เพราะควรคุมเข้มมากกว่านี้ แม้เงื่อนไขที่ว่าอ่อน สุดท้ายแล้วก็ยังทำไม่ครบถ้วน จึงขอให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร อย่าทำแค่ให้เป็นอีเวนต์ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ต้องประเมินผลด้วย รวมถึงต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่าปล่อยวันนี้ พรุ่งนี้ก็เปิดให้คนมาจับ สุดท้ายปลาที่เราตั้งใจจะให้เป็นนักล่า จะกลายเป็นเหยื่อเสียเอง ก็จะกลายเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ละลายงบประมาณของประเทศ ซึ่งไม่ควรเป็นแบบนั้น

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รวมถึงประเด็นการศึกษาการเหนี่ยวนำโครโมโซม ทำให้ปลาหมอคางดำเป็นหมัน ซึ่งต้องค้นคว้าวิจัยอย่างจริงจัง ตนกลัวว่าหากไม่มีข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ สุดท้ายแล้วจะสร้างปัญหาที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงการประสานขอความรู้จากต่างประเทศ เราควรเรียนลัด ไม่ใช่ไปลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง และต้องคุยกันเรื่องเยียวยา โดยยืนยันว่าการรับซื้อไม่ใช่การเยียวยา เพราะการรับซื้อคือแรงจูงใจให้ไปจับ แต่การเยียวยาคือการไปชดเชยสิ่งที่เขาได้รับผลกระทบ และขอให้จับตาสายพันธุ์เอเลียนสปีชีส์อื่น เพราะเรื่องนี้ผ่านมาแล้ว 8 อธิบดี 7 รัฐมนตรี หวังอย่างยิ่งว่าจะจบลงในยุคสมัยนี้


นายพิทักษ์เดช เสนอญัตติว่า ปัญหานี้เกิดจากการลักลอบนำเข้า หรือการขออนุญาตนำเข้าเพื่อการทดลอง ซึ่งอาจหลุดลอดเข้าสู่แหล่งน้ำสาธารณะ ทำลายระบบนิเวศ สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตของเกษตรกร วันนี้เป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐบาลต้องสืบเสาะหาความเป็นจริงว่าปลาหมอคางดำเข้ามาได้อย่างไร เพราะอะไร ใครเป็นผู้นำเข้า และแพร่กระจายได้อย่างไร เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ตนต้องพูด เดี๋ยวประชาชนจะหาว่า สส.พิทักษ์เดช โดนซาลาเปา ใบละ 28 บาท มาปิดปากไว้ ยืนยันว่าใครปิดตนไม่ได้ และรัฐบาลต้องรับฟังเรื่องนี้เพื่อแก้ไข เพราะมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในจังหวัดข้างเคียง

นายพิทักษ์เดช กล่าวต่อว่า การให้ชาวประมงไปปราบปลาหมอคางดำ โดยใช้เครื่องมือที่สามารถจัดการได้โดยเร็ว อาจใช้ไฟฟ้า แต่ยังติดข้อกฎหมายในไทย ซึ่งจะแก้ไขได้ช้ากว่า จึงขอฝากไปถึงรัฐบาลและกรมประมง ให้แก้ไขกฎหมาย ใช้วิธีการจัดการที่รวดเร็วกว่านี้ ตนหวังว่าสิ่งที่พูดวันนี้จะเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชน สามารถแก้ไขปัญหาและสืบหาข้อเท็จจริงของการนำเข้ามาของปลาหมอคางดำ สู่การรับผิดชอบ การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และการควบคุมไม่ให้ลุกลามมากกว่านี้

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ซึ่งเดิมเสนอญัตติให้ตั้งคณะกรรมมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ แต่ได้ขอถอนญัตติดังกล่าวออก และเปลี่ยนเป็นการเสนอการแก้ไขการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศแทน พร้อมกล่าวว่า ตนอยากให้เรื่องนี้ได้รับการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ซึ่งวันนี้ตนได้รับการประสานว่ามีการนำญัตตินี้เข้า แต่ได้รับเสียงแว่วๆ ว่ามีความพยายามที่จะไม่ให้มีการเสนอญัตติดังกล่าวในวันนี้ ตนบอกว่าไม่ได้ เพราะปลาหมอคางดำระบาดเพิ่มขึ้นทุกวินาที ถ้าไม่เสนอวันนี้ รัฐบาลคางเหลืองแน่นอน ตนจึงบอกไปว่าถ้าไม่ได้เสนอญัตติในวันนี้ ตนไม่ยอม แต่สุดท้ายก็มีการยอมกัน

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ตนขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ ว่าในสังคมมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องของกลุ่มทุนใหญ่ การนำเข้าผิดกฎหมาย สุดท้ายเป็นผลกระทบวงกว้างต่อพี่น้องประชาชน ถ้ารัฐบาลที่แล้วในห้วงเวลาที่ผ่านมาเราปฏิเสธไม่ได้เรื่องที่โด่งดังที่สุดคือเรื่องหมูเถื่อน ที่ระบาดเป็นวงกว้าง สุดท้ายจุดจบเป็นอย่างไร ตนไม่ขอลงรายละเอียด เดี๋ยวจะเป็นคนละเรื่อง แต่ที่ตนพยายามสื่อสารเรื่องปลาหมอคางดำ เพราะไม่มีใครรับผิดชอบ ไม่มีต้นตอ และไม่รู้ไม่เห็นว่าเป็นอย่างไรถึงมาระบาดในบ่อชาวบ้านได้

“อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นายกฯ แถลงว่ายังไงต้องหาต้นตอสาเหตุให้ได้ ต้องแก้ปัญหาให้เร็ว นี่ผ่านมากี่วันแล้ว มาถึงวันนี้ปัญหาสาเหตุ ท่านจัดการอย่างไร ตนขอสรุปว่าสถานการณ์ตอนนี้นี่คือปลาเถื่อน ดูสิว่าระหว่างหมูเถื่อนกับปลาเถื่อน อันไหนรุนแรงกว่ากัน และครั้งนี้นักวิชาการหลายสำนักยืนยันว่าปลาหมอคางดำสายพันธุ์นี้ระบาดครั้งที่ร้ายแรงที่สุด เราจะปล่อยให้เกิดการส่งต่อระบบนิเวศที่ไม่สมบูรณ์ส่งต่อให้ลูกหลาน โดยรัฐบาลนี้หรือ เราเป็นผู้แทนฯ 17 จังหวัดที่ระบาด ท่านนั่งฟังข่าวอย่างเดียวหรือ วันนี้ไม่คิดจะทำอะไรเลยใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ พูดอย่างเท่ว่าต้องตามล่าหาความจริงให้ได้ จากวันนั้นถึงวันนี้เหลือเวลาไม่ถึง 24 ชม. อยากถามว่ามีข้อมูลมากน้อยแค่ไหนว่าใครเป็นต้นตอสาเหตุ นี่คือสิ่งที่ประชาชนต้องการ ตนรอดูว่าวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) เป็นอย่างไรเมื่อครบ 7 วัน” นายณัฐชา กล่าว

นายณัชฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าไม่เร่งแก้ไข ทุกวินาทีวันนี้มีความหมาย ถ้าไม่รีบอนุมัติงบประมาณมาช่วยเหลือเกษตรกร และมาเยียวยาเรื่องนี้จะไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทยอย่างเดียว แต่จะยกเป็นปัญหาภูมิภาค ฉะนั้นรอไม่ได้

“วินาทีนี้ท่านต้องดำเนินการเลย รวมถึงเรื่องของการประกาศเขตใน 17 จังหวัดนี้ ท่านต้องประกาศเลยว่าจังหวัดไหนชักธงแดง เมื่อจับเรียบร้อย ลดธงแดงลง ก็ชักธงเหลือง ธงเขียว เพื่อเฝ้าระวัง และกลับไปทบทวนว่าหากกลับมาระบาดอีกครั้งก็ชักธงแดง แต่ถ้าท่านไม่ชักธงอะไรเลย รัฐบาลท่านชักธงขาวได้เลย ยอมแพ้ยุบสภาฯไป” นายณัฐชา กล่าวอย่างฉุนเฉียว

จากนั้นสมาชิกได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นสนับสนุนญัตติดังกล่าวไปในทำนองเดียวกันว่ารัฐบาลต้องแก้ปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำโดยเร่งด่วน และควรมีมาตรการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อไม่ให้ผลกระทบมีต่อประชาชนไปมากกว่านี้.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย