พบสารเสพติดในเลือดหนุ่มซิ่งชนดะ 29 คัน ย่านพระราม 2

กรุงเทพฯ 19 ก.ค. – หนุ่มซิ่งรถ 6 ล้อ คลั่งชนสนั่น 29 คัน พบสารเสพติดในเลือด ทั้งยังพบประวัติแจ้งความรถหาย


จากเหตุรถ 6 ล้อคลั่งชนสนั่น 29 คัน ย่านพระราม 2 ก่อนจนมุมถูกตำรวจควบคุมตัว เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (19 ก.ค.) พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม เปิดเผยความคืบหน้าว่า นายเกียรติชัย อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุขับรถบรรทุกคันดังกล่าว รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล PMG โดยมีตำรวจสายตรวจเฝ้าในห้องพักฟื้นตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 2 วันแล้ว และวันนี้ทางหมออนุญาตให้ออกจาก รพ.ได้ เบื้องต้นผลการตรวจเลือดพบมีสารแอมเฟตามีนในร่างกาย วันนี้เมื่อนำตัวออกมาจาก รพ.แล้ว จะนำตัวมายัง สน.ท่าข้าม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และฝากขังยังศาลอาญาธนบุรี โดยจะแจ้งข้อกล่าวหา คือ ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ความผิดฐานหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและแจ้งเหตุ, ขับขี่รถโดยใช้สารเสพติด ส่วนเด็กที่อยู่ด้วยในรถเป็นลูกของคนขับรถ อายุ 12 ปี ได้มีการประสานกับญาติให้มารับตัวไปแล้วเมื่อวานนี้

เมื่อถามว่า รถที่ใช้ก่อเหตุนั้น ทราบข้อเท็จจริงหรือยังว่าเป็นการขโมยมาหรือไม่ ผกก.สน.ท่าข้าม ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่เจ้าของรถเคยแจ้งรถหายไว้ที่ สภ.บางปู ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. ส่วนรายละเอียดต้องให้ทาง สภ.บางปู เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุ ต้องรอสอบปากคำเพิ่มเติมเสียก่อน ส่วนเรื่องค่าเสียหาย เป็นส่วนของการละเมิดทางแพ่ง ต้องนัดมาคุยอีกครั้งว่าแต่ละคันได้รับเสียหายอย่างไร เท่าไร


ด้าน ร.ต.อ.ทศพล ยศศรีใจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู ระบุว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค.67 เจ้าของรถคือ นายสมเกียรติ ได้มาแจ้งความว่า รถบรรทุก 6 ล้อ หายไปพร้อมกับรถแม็คโครที่อยู่หลังรถ พฤติการณ์เบื้องต้นจากการสอบถามเจ้าของรถ ระบุว่า นายสมเกียรติ ทำงานอยู่ที่ สปป ลาว โดยก่อนหน้านี้มีการซื้อ-ขายรถให้นายทวีลักษณ์ มีหนังสือสัญญาชัดเจนว่าจะต้องผ่อน 4 เดือน ผ่านไป 1 เดือน นายทวีลักษณ์ ผ่อนต่อไม่ไหว จึงนำรถมาคืนเมื่อ 27 มิ.ย.67 จากนั้นนายสมเกียรติ ได้นำรถมาจอดไว้ที่ลานจอดรถของนายสมเกียรติเอง แต่ด้วยที่จอดอยู่ห่างจากตัวบ้าน จึงมีการล้อมประตูโดยรอบและล็อกกุญแจไว้ ในวันเดียวกันตอนดึก นายทวีลักษณ์ กับพวก กลับมาและทำการทุบกุญแจรั้ว แล้วขับออกไป คาดว่ามีการปั๊มกุญแจสำรองไว้

ขณะนี้รถของกลางอยู่ที่ สน.ท่าข้าม จะทำหนังสือขอรับรถของกลางกลับมาที่ สภ.บางปู โดยตัวผู้ก่อเหตุจะมีความผิดของ สภ.บางปู ฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมียานพาหนะ และ/หรือ รับของโจร เพราะในคืนวันก่อเหตุขโมยรถ ผู้ก่อเหตุให้การปฏิเสธ ส่วนคนอื่นๆ ในกลุ่มที่ทำงานขโมยรถ กำลังสืบสวนอยู่ว่ามีใครบ้าง และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-420 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก