กทม. 17 ก.ค. – อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลดัง เผยพิษไซยาไนด์ สุดร้ายแรง ส่งผลต่อทุกอวัยวะ คล้ายปิดสวิตช์ไฟ ทำเสียชีวิตได้ภายใน 5 นาที ไม่ทันรู้สึกเจ็บปวด
พันเอกนายแพทย์ ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ให้ความเห็นว่า จากการสังเกตจากภาพถ่าย สีผิวของศพชาวเวียดนามทั้ง 6 ราย ที่เสียชีวิตในโรงแรมย่านราชประสงค์ ในทางการแพทย์ คาดว่าผู้เสียชีวิตอาจได้รับสารโพรแทสเซียมไซยาไนด์เข้าไปในปริมาณมาก ซึ่งมากพอที่จะทำลายระบบต่างๆ ในร่างกาย หรือเกิดจากคาร์บอนมอนนอกไซด์ ที่ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน แต่ในกรณีนี้คาดว่าอาจเกิดจากสารโพรแทสเซียมไซยาไนด์เพราะสีผิวของศพทั้ง 6 มีสีแดงเข้มคล้ายโดนยาพิษ เหมือนในหลายคดีที่ผ่านมา เช่น แอม ไซยาไนด์ หรือคดีของโยโกะ ที่จะมีสีผิวลักษณะนี้คล้ายกัน ซึ่งสารตัวนี้จะมีทั้งแบบ ดม กิน และสัมผัสผ่านผิวหนัง แต่ในกรณีนี้ เป็นในรูปแบบของการกิน และคาดว่าผสมในแก้วน้ำ และคาดว่าจะมีการดื่มตอนท้องว่างจึงทำให้สารตัวนี้ออกฤทธิ์ได้เยอะ และรวดเร็วภายใน 5 นาที ซึ่งเมื่อได้รับสารตัวนี้เข้าไป เซลล์สมองจะหยุดทำงาน เกิดอาการชัก โคม่า หัวใจขาดเลือด ไตวาย ซึ่งทุกอย่างในร่างกายจะหยุดทำงานพร้อมกัน เหมือนกับปิดสวิตช์ไฟ ไม่ทันรู้สึกเจ็บปวด
สำหรับ สารโพรแทสเซียมไซยาไนด์ ปัจจุบันในไทยไม่มีผลิต แต่มีการรับเข้ามาเพื่อทำอุตสาหกรรม ในปัจจุบัน รพ.ในไทยมีประมาณ 100 แห่ง ที่มียาต้านพิษไซยาไนด์ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณที่รับเข้าสู่ร่างกาย หากมีความเข้มข้นมาก ไม่เกิน 5 นาที ก็อาจเสียชีวิตได้
สอดคล้อง กับความเห็นของ รองศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ ที่โพสต์ข้อความวิเคราะห์เบื้องต้นเกี่ยวกับสภาพศพของผู้เสียชีวิตว่า จากสภาพศพดูแล้ว มีเค้าลางว่าจะเป็นไซยาไนด์
พร้อมระบุว่า ไซยาไนด์ เป็นสารพิษที่ยับยั้งการหายใจระดับเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่สามารถใช้ออกซิเจนในการสร้างพลังงาน จึงส่งผลกับอวัยวะที่ใช้ออกซิเจนและพลังงานสูง เช่น สมอง และหัวใจ เป็นลำดับแรก หากได้รับสารพิษในขนาดที่มากเพียงพอ สามารถทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้ สีของเม็ดเลือดแดงอาจจะมีสีชมพูสดแทนที่จะเป็นสีแดงคล้ำ เนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีคาร์บอกซีฮีโมโกลบิน (Carboxy Haemoglobin) จำนวนมาก สีชมพูลักษณะนี้อาจพบในศพที่ตายจากสารพิษไซยาไนด์.-สำนักข่าวไทย