fbpx

ค่าไฟ งวด ก.ย.-ธ.ค.67 จ่อปรับขึ้น 0.47-1.83 บาท/หน่วย

กรุงเทพฯ 11 ก.ค.-กกพ. ชี้ 3 สาเหตุต้องขึ้นค่าไฟฟ้า บาทอ่อนต่อเนื่อง-LNG ดันราคาก๊าซพุ่ง -หนี้ กฟผ. แจง 3 ทางเลือก ขึ้นค่าเอฟที ส่งผลให้ค่าไฟฟ้างวด ก.ย. – ธ.ค. 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 4.65-6.01 บาทต่อหน่วยจากงวดก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 0.47-1.83 บาทต่อหน่วย ระบุยังไม่มีการเรียก ชอร์ตฟอล รอบที่2 จาก ปตท.

นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่าจากแนวโน้มค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงจากงวดก่อนหน้า 1.29 บาทต่อเหรียญสหรัฐ (งวด พ.ค. – ส.ค. 2567) เป็น 36.63 บาทต่อเหรียญสหรัฐ การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศและต่างประเทศ และการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินแม่เมาะ ซึ่งมีต้นทุนราคาถูกมีความพร้อมในการผลิตลดลง และสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวแบบสัญญาจร (LNG Spot) ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดก่อนหน้า 3.2 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีที่ยูตามสถานการณ์ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวในปลายปี เป็นสามสาเหตุหลักซึ่งเป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมส่งผลให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น เมื่อรวมกับการทยอยคืนหนี้ค่าเชื้อเพลิงค้างชำระในงวดก่อนหน้า ส่งผลให้ค่าไฟในช่วงปลายปีนี้ อาจจะต้องปรับเพิ่มส่งผลทำให้ ค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) ขึ้นในระดับ 46.83-182.99 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บในงวด ก.ย. – ธ.ค. 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 4.65-6.01 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 0.47-1.83 บาทต่อหน่วย จากงวดก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย


โดยในการประชุม กกพ. เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2567 มีมติรับทราบภาระต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจริงประจำรอบเดือน ม.ค. – เม.ย. 2567 และเห็นชอบผลการคำนวณประมาณ ค่าเอฟที่สำหรับงวดเดือน ก.ย – ธ.ค. 2567 3 แนวทาง คือ
แนวทาง 1 จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. ทั้งหมด 98,495 ล้านบาท และมูลค่า AF Gas จำนวน 15,083.79 ล้านบาท / ค่าเอฟทีจะอยู่ที่ 222.71 สตางค์ต่อหน่วย / จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.01 บาทต่อหน่วย
แนวทาง 2 ทยอยชำระคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. ออกเป็น 3 งวด และมูลค่า AF Gas จำนวน 15,083.79 ล้านบาท / ค่าเอฟทีจะอยู่ที่ 113.78 สตางค์ต่อหน่วย / จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.92 บาทต่อหน่วย
แนวทาง 3 ทยอยชำระคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. ออกเป็น 6 งวด และมูลค่า AF Gas จำนวน 15,083.79 ล้านบาท / ค่าเอฟทีจะอยู่ที่ 86.55 สตางค์ต่อหน่วย / จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.65 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ กกพ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ กกพ. ตั้งแต่วันที่ 12-26 กรกฎาคม ก่อนที่จะมีการสรุปและประกาศค่าไฟงวดหน้าอย่างเป็นทางการต่อไป


สำหรับ มูลค่า AF Gas จำนวน 15,083.79 ล้านบาท นั้นเกิดจากการช่วยเหลือค่าไฟ ในอดีต ตามมติ ครม. 18 ก.ย. 66 ที่ให้ บมจ.ปตท.และ กฟผ.คิดค่า Pool Gas ในราคาควบคุม 304.79 บาท/ล้านบีทียู จากเดิมประกาศไว้ที่ 323 บาท/ล้านบีทียู เพื่อให้ค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค.66อยู่ที่ 3.99 บาท/หน่วยและให้ทยอยคืนในงวดถัดไป ตามที่ บอร์ด กกพ.เห็นชอบ โดยคิดเป็นอัตราค่าไฟที่ 25.02 สตางค์ต่อหน่วย

ส่วนกรณี กรณีผู้ผลิตก๊าซฯในประเทศไม่สามารถส่งมอบก๊าซให้แก่ ปตท.ได้ตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ (ชอร์ตฟอล)รอบที่2 คาดว่าราว 4,700 ล้านบาทนั้น นายพูลพัฒน์กล่าวว่าในเรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ บอร์ด กกพ.ยังไม่ได้มีมติว่าจะจะเรียกคืนหรือไม่อย่างไร

“ที่ผ่านมา กลไก ดูแลค่าไฟฟ้าภาคประชาชนผ่าน การดูแลของ กกพ.ทั้งความร่วมมือของ กฟผ. และปตท. ได้ใช้มาหมดแล้ว โดยได้บริการจัดการเพื่อดูแลทั้งประชาชนและทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง และจำเป็นต้องคืนหนี้ กฟผ.เพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบเรื่องการดำเนินการ และเครดิตเรตติ้ง ของ ทั้ง กฟผ.และโรงไฟฟ้าภาคเอกชนตามไปด้วย มีผลต่อต้นทุนหนี้ ดังนั้น การช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ก็คงจะรอดูว่าภาครัฐจะมีวงเงินใดมาช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการจัดสรรงบฯภาครัฐมาดูแลกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ ซึ่งก็ต้องรอดูนโยบายรัฐต่อไป” นายพูลพัฒน์ กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ กกพ.เคยเรียกเงินส่วนนี้ จากปตท.ให้คืน ชอร์ตฟอลระหว่าง ต.ค. 2563-ธ.ค. 2565 เป็นมูลค่า 4,300 ล้านบาท เพื่อนำมาลดต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว และ ปตท.มีการนำเงินส่งมอบ กกพ.แต่ก็ม็มีการฟ้องร้องศาลปกครองว่า กกพ.ดำเนินการถูกต้องหรือไม่

สำหรับต้นทุนค่า Ft (ก.ย.-ธ.ค.67) ราคา Pool Gas ขยับขึ้นราว ร้อยละ 8 จาก 300 บาท/ล้านบีทียู เป็น 323 บาท/ล้านบีทียู ราคาแอลเอ็นจีตลาดจร ปรับขึ้นร้อยละ31 จาก10.38 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู เป็น 13.58 เหรียญ/ล้านบีทียู ก๊าซฯในประเทศผลิตได้เพิ่ม ถึง ร้อยละ 700 จาก 1,484 ล้าน ลูกบาศก์ฟุตต่อวันเป็น 2,184 ล้าน ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่งผลให้พึ่งพาการนำเข้า แอลเอ็นจี ลดลง.-516.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด