แจ้ง 4 ข้อหาหนุ่มใหญ่ซิ่งเก๋งชนรถพังยับ 6 คัน-เจ็บ 7

กรุงเทพฯ 5 ก.ค. – ตำรวจเร่งสอบปากคำและตรวจประวัติหนุ่มใหญ่ซิ่งเก๋งชนยับ 6 คัน บาดเจ็บ 7 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 คน พร้อมแจ้ง 4 ข้อหา ก่อนให้ประกันตัวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์


กล้องหน้ารถจับภาพนาทีหนุ่มใหญ่ขับรถ BMW มาด้วยความเร็วสูง ก่อนพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ข้างหน้า ทำให้รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ คนขี่กระเด็นไปตามพื้นถนน ส่วนหญิงที่นั่งซ้อนท้ายตัวลอยกระเด็นออกจากรถ ก่อนร่างจะตกลงไปบนอยู่ถนนสุขาภิบาล 5 หน้าโรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม หลังจากรถ BMW ชนแล้ว ไฟท้ายรถ BMW ไม่เห็นแม้แต่สัญญาณไฟแตะเบรกโชว์ หรือรถชะลอรถดูเลยแม้แต่น้อย ทำให้รถที่เห็นเหตุการณ์ต้องช่วยกันโทรแจ้งตำรวจและกู้ภัย เพื่อให้ช่วยพาคนเจ็บที่เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ส่งโรงพยาบาล เนื่องจากทั้งคู่บาดเจ็บสาหัส

หลังเกิดเหตุมีข้อมูลเพิ่มว่าช่วงที่มีการแจ้งว่ารถ BMW คันนี้พุ่งชนรถจักรยานยนต์ อาสากู้ภัย และ อปพร.สายไหม ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุรถ BMW ขับไปพุ่งชนรถคันอื่นๆ บนถนนสุขาภิบาล 5 อีก 5 คัน 4 เหตุการณ์


โดยเหตุการณ์แรกที่ได้รับแจ้งคือ บริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 86 เก๋งคันก่อเหตุขับพุ่งชนกับรถเก๋ง 1 คัน มีคนเจ็บ 1 คน เหตุการณ์ที่ 2 จุดเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากจุดแรก เก๋งคันก่อเหตุได้ขับไปชนกับรถยนต์นิสสันสีเทา แต่เหตุการณ์นี้ไม่มีคนเจ็บ

เหตุการณ์ที่ 3 ขับพุ่งชนรถจักรยานยนต์ แต่ไม่ใช่แค่คันเดียว เพราะนอกจากที่เห็นในกล้อง เก๋ง BMW ยังขับไปชนรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน และมีคนเจ็บอีก 2 คน เท่ากับว่าจุดนี้ชนรถจักรยานยนต์ไป 2 คัน มีคนเจ็บ 4 คน

เหตุการณ์ที่ 4 เกิดขึ้นบนถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 73 เก๋ง BMW ขับไปชนรถยนต์และรถกระบะอีก 2 คัน มีคนเจ็บ 2 คน เท่ากับว่าตอนได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์ถูกชน 4 คัน รถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ส่วนคนเจ็บมีทั้งหมด 7 คน


อย่างไรก็ตาม รถคันที่ชนวินาศสันตะโร สุดท้ายไปพุ่งชนทางเท้าบริเวณแยกตลาดวงศกร พื้นที่เขตสายไหม ทำให้ตำรวจรวบตัวได้ทันควัน และคุมตัวมาสอบต่อที่โรงพักสายไหม

เหตุการณ์นี้ หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถคันนี้ขับมาจี้ท้าย ตนเองพยายามเร่งเครื่องหนี แต่ถูกขับมาชนท้ายอีก 2 ครั้ง แล้วรถคันที่ชนก็เร่งเครื่องแซงหนีไปเลย ตนเองเพิ่งมารู้ว่ารถคันนี้ขับไปชนรถคันอื่นอีก

ด้านญาติของผู้บาดเจ็บที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ บอกว่า คนเจ็บยังอยู่ในห้องไอซียู สมองได้รับการกระทบกระเทือน ยังไม่ได้สติ อยากให้คนขับชนมารับผิดชอบ และให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะยอมรับว่าเท่าที่คุยกับตำรวจงงว่าในเมื่อคนที่ขับมาชนตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ทำไมถึงขับรถไปชนรถคันอื่นๆ ได้เยอะขนาดนี้ รวมถึงเพิ่งรู้ข้อมูลมาเพิ่มว่าก่อนที่ชายคนนี้จะขับรถออกมาชนรถคันอื่น ได้ขับไปชนไม้กั้นโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่งมาแล้วด้วย

ตร.ยืนยันตรวจไม่เจอแอลกอฮอล์-สารเสพติดในคนขับ
พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการ สน.สายไหม ยืนยันว่า หลังเกิดเหตุได้พาคนขับรถชนดะไปตรวจแอลกอฮอล์และตรวจหาสารเสพติด แต่ปรากฏว่าไม่พบสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายแม้แต่น้อย แต่การสอบปากคำยังให้การวกไปวนมา ทำให้จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุได้ ส่วนประเด็นว่าอาจป่วยจิตเวชหรือไม่ ตรงนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่อยู่ระหว่างประสานแพทย์และโรงพยาบาลที่ชายคนนีเคยไปรักษาตัวว่ามีประวัติในส่วนนี้หรือไม่

แจ้ง 4 ข้อหาคนขับ-ให้ประกันโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 4 ข้อหากับคนขับ โดยการแจ้งข้อหาจะเป็นในลักษณะต่างกรรมต่างวาระ เพราะผู้ต้องหาได้ขับรถชนผู้เสียหาย 4 จุด ตั้งแต่สุขาภิบาล 5 ซอย 86 ไปจนถึงตลาดวงศกร

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ให้ผู้ต้องหาประกันตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ และจะเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS

“แพทองธาร” นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS ขับเคลื่อนความร่วมมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ