ลอนดอน 5 ก.ค. – เอ็กซิตโพลชี้พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ คว้าชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวานนี้ อังกฤษเตรียมได้นายกรัฐมนตรีจากพรรคแรงงานมาบริหารประเทศ แทนที่พรรคอนุรักษ์นิยม ครั้งแรกในรอบ 14 ปี
การเลือกตั้งสภาสามัญชน หรือสมาชิกสภาผู้แทนราฎรอังกฤษ จำนวน 650 ที่นั่ง ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ ปิดหีบลงคะแนนเสียงลงเมื่อเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 04.00 น. เช้ามืดวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย และมีการเผยแพร่ผลสำรวจคะแนนเสียงหน้าหน่วยเลือกตั้ง หรือเอ็กซิตโพล ในทันที ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย เมื่อพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้ที่นั่งในสภามากถึง 410 ที่นั่ง คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย เหนือพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ที่ได้ที่นั่งในสภาเพียง 131 เสียง ตามมาด้วยพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ ลิเบอรัล เดโมแครต ได้ 61 ที่นั่ง ที่เหลือเป็นของพรรคเล็กอื่นๆ และผู้สมัครอิสระ คาดว่าผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะทราบได้ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนี้
ผลเอ็กซิตโพลที่ออกมา หมายความว่าพรรคแรงงานจะได้กลับมาบริหารประเทศครั้งแรกในรอบ 14 ปี โดยนายเคียร์ สตาเมอร์ หัวหน้าพรรคแรงงาน วัย 61 ปี จะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ แทนนายริชี ซูแน็ก จากพรรคอนุรักษ์นิยม ในวันนี้ทันที ซึ่งหลังทราบผลเอ็กซิตโพล นายสตาเมอร์โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกพรรคให้เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในอังกฤษ ขณะที่ตัวแทนระดับสูงของพรรคอนุรักษ์นิยม บอกว่าผลเอ็กซิตโพลที่ออกมาทำให้พรรคกำลังเผชิญช่วงเวลายากลำบากที่สุด ส่วนนายกรัฐมนตรีซูแน็ค ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านพักที่เขตเลือกตั้งของตนเองในเทศมณฑลยอร์คเชียร์ นอกจากพรรคจะแพ้ขาดลอยแล้ว ยังไม่แน่ชัดว่าเขาจะยังได้รับเลือกให้เข้ามาเป็น สส. ด้วยหรือไม่
ผลการเลือกตั้งยังสะท้อนว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงในอังกฤษจำนวนมากต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ภายในและความวุ่นวายภายใต้รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งนำไปสู่การมีนายกรัฐมนตรีถึง 5 คน ในช่วงเวลา 8 ปีที่ผ่านมา.-815.-สำนักข่าวไทย